สองภาพนี้แสดงให้เห็นถึงการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ด้านหนึ่ง กับจีน, รัสเซีย และเกาหลีเหนืออีกซีกหนึ่งอย่างชัดเจน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เชิญผู้นำญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซุกโยว ไปประชุมสุดยอดที่ Camp David อเมริกา
พร้อมประกาศแผนความร่วมมือด้านการทหารอย่างชัดเจน
รวมถึงการติดตั้ง “สายด่วน” หรือ Hotline ระหว่างสามผู้นำ
เพื่อเป็นการต่อสายถึงกันได้ตลอดเวลาหากมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องมีปฏิบัติการร่วมกัน
ทั้งสามประเทศยืนยันว่าที่ต้องกระชับความสัมพันธ์ทางทหารเพิ่มขึ้นอีก ก็เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ และการแลกเปลี่ยนทางทหารกับรัสเซีย
อีกภาพหนึ่งในจังหวะใกล้ๆ กันเมื่อต้นเดือนนี้คือ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยืนกลางร่วมกับนายหลี่ หงจง สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ขวา) และเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ที่กรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม
เป็นโอกาสที่ผู้นำเกาหลีเหนือจัดงานขบวนพาเหรดทางทหารอย่างยิ่งใหญ่เพื่อรำลึกครบรอบ 70 ปีการสิ้นสุดสงครามเกาหลี
จุดเด่นของงานนี้คือ อาคันตุกะคนสำคัญจากมอสโกและปักกิ่ง
ท่ามกลางการคาดเดาว่า จีน, รัสเซีย และเกาหลีเหนือก็กำลังเพิ่มความร่วมมือทางทหารระหว่างกันเช่นกัน
คณะผู้แทนของจีนได้ส่งมอบจดหมายอย่างเป็นทางการจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถึงผู้นำเกาหลีเหนือ เน้นย้ำว่าเกาหลีเหนือและจีนมี "มิตรภาพที่เขียนด้วยเลือด"
และตอกย้ำถึงความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาความร่วมมือทวิภาคีต่อไป
ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากว่า การแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเกาหลีเหนือกับรัสเซีย และมีเป้าหมายตรงไปยังการประชุมสุดยอดของผู้นำเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ในสัปดาห์เดียวกัน
เพราะเปียงยางต้องการจะส่งสัญญาณว่า พร้อมจะเผชิญหน้ากับการรวมกลุ่มของไตรภาคีที่เพิ่มขึ้นของฝั่งตะวันตกกับเพื่อนบ้านของเกาหลีเหนืออย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
ด้านความสัมพันธ์ 3 ฝ่ายของซีกเกาหลีเหนือกับมอสโกและปักกิ่งนั้น ความจริงมีความแน่นแฟ้นมาระยะหนึ่งแล้ว
เมื่อต้นปี 2565 รัสเซียและจีนได้คัดค้านมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายชุด ที่กำหนดบทลงโทษเพิ่มเติมต่อเกาหลีเหนือจากการทดสอบขีปนาวุธ
สอดคล้องกับการประกาศความร่วมมือของจีนและรัสเซียที่ "ไม่มีขีดจำกัด" และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน
วิวัฒนาการเหล่านี้ทำให้เกิดความร่วมมือสามฝ่ายใหม่ระหว่างเกาหลีเหนือ จีน และรัสเซีย
ท่ามกลางสัญญาณที่ชัดเจนของกลุ่มสงครามเย็นที่ก่อตัวอีกครั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
การประชุมสุดยอดไตรภาคีครั้งล่าสุดนี้ มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้อย่างมาก
ที่สำคัญกว่านั้น การประชุมสุดยอดสามฝ่ายแบบ “สแตนด์อโลน” (Stand Alone) ครั้งแรกนี้จะช่วยให้ผู้นำทั้งสามสามารถขยายและจัดระบบความร่วมมือสามทาง ในการเผชิญกับภัยคุกคามนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
และเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงระดับภูมิภาคและระดับโลก
ถือว่าเป็นจังหวะเหมาะเจาะที่ 3 ฝ่ายมาเจอกันหลังจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นหันมา “ซ่อม” ความสัมพันธ์ทวิภาคีเมื่อต้นปีนี้
โดยพยายามจะ “ก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีต” ว่าด้วยข้อพิพาททางประวัติศาสตร์และความขัดแย้งเรื่องดินแดนที่เป็นอุปสรรคทางการค้าและความมั่นคงมายาวนาน
ทำให้มีพื้นที่ของการพูดจาทางการเมืองมากขึ้นสำหรับผู้นำในกรุงโซลและโตเกียวเพื่อหารือ
ขยายความร่วมมือระดับทวิภาคีไปสู่การกระชับมิตรไตรภาคีกับวอชิงตัน
เป็นการระดมพันธมิตรของประเทศเอเชียอื่นๆ ภายใต้การชักชวนของอเมริกา เพื่อสกัดอิทธิพลของจีนอย่างเห็นได้ชัด
ในการประชุมสามฝ่ายครั้งก่อนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อันเป็นการพบปะกันนอกรอบระหว่างการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกในกรุงพนมเปญ ครั้งนั้น ไบเดน, คิชิดะ และยุนยืนยันคำมั่นสัญญาต่อการจัด “ระเบียบโลก" ที่อิงกฎเกณฑ์ (Rule-Based World Order) และเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิกบนพื้นฐานของ “ค่านิยมร่วมและบรรทัดฐานสากล
คิชิดะและยุนไปเยือนยูเครนในเดือนมีนาคมและกรกฎาคมปีนี้ ตามลำดับ
เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อยูเครน
และตอกย้ำความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับสหรัฐฯ และสมาชิกคนอื่นๆ ของนาโตที่รวมหัวกันต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
การประชุมสุดยอดแคมป์เดวิดเท่ากับเป็นเปิดฉากใหม่ในความร่วมมือไตรภาคี
ต่อยอดจากความร่วมมือที่ได้เริ่มต้นในปีนี้ ด้วยการฝึกต่อต้านเรือดำน้ำสามทิศทางอีกครั้ง
เสริมด้วยข้อตกลงที่จะแบ่งปันข้อมูลคำเตือนเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแบบเรียลไทม์
หลังจากการประชุมครั้งแรกของกลุ่มที่ปรึกษาด้านนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-สาธารณรัฐเกาหลีเมื่อเดือนที่แล้ว ไบเดน, ยุน และคิชิดะกำลังหาทางบีบบังคับไม่ให้เกาหลีเหนือเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างไม่หยุดยั้ง
เชื่อกันว่าเกาหลีเหนือส่งกระสุนให้รัสเซีย เพื่อช่วยเหลือสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือด้านอาหารและพลังงาน
หากมอสโกถ่ายโอนเทคโนโลยีขีปนาวุธขั้นสูงไปยังเปียงยาง ก็จะช่วยเร่งการพัฒนาโครงการขีปนาวุธของรุ่นหลัง
จะทำให้เกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทั้งสามประเทศมีการพบปะกันอย่างสม่ำเสมอเพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารอย่างใกล้ชิด และความร่วมมือด้านนโยบายเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ และแร่ธาตุที่สำคัญ
ความร่วมมือไตรภาคีนี้ยังขยายไปยังประเด็นอื่นๆ ด้วย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน และความมั่นคงทางอาหาร
อีกทั้งยังมีการพูดถึงการเสริมสร้างแนวร่วมประชาธิปไตยเพื่อต่อต้านการเพิ่มขึ้นของอำนาจนิยม และเสริมสร้างคุณค่าสากลและหลักนิติธรรม
แต่มีหรือที่จีนและรัสเซียจะยอมให้สหรัฐฯ ขยายเครือข่ายของตัวเองในเอเชีย
การที่ปักกิ่งกับมอสโกแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกับเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะด้านการทหารนั้นก็ชี้ชัดว่า ความสัมพันธ์ไตรภาคีของปีกนี้มีแต่จะเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


