บันทึกหน้า 4

"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" การเมืองสู่ยุคปรองดอง ต้องใช้สติมากกว่าอารมณ์ หลังทักษิณ ชินวัตร ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปี เหลือเพียง 1 ปี โดยขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 แต่ควบคุมโดยกรมราชทัณฑ์ และนับอายุโทษควบคู่ไปด้วย 

มีรายงานจากบิ๊กกระทรวงยุติธรรมว่าอาจได้สิทธิ์ตามกฎหมายเสริมเข้าไปอีก เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังสูงวัยและมีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง อาจเข้าเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎกระทรวง ยุติธรรม อาจจะต้องรับโทษอย่างน้อย 1 ใน 3 ดังนั้น หากนายทักษิณผ่านหลักเกณฑ์ ก็จะเหลือโทษ 1 ใน 3 ของ 1 ปี 

ส่วนเรื่องการติดหรือไม่ได้ติดกำไล (EM) ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานคุมประพฤติ แต่ในกรณีของนายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังสูงวัยที่ป่วยรุมเร้าด้วย 4 โรคเรื้อรัง และยังเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสำนึกในการกระทำความผิด เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงเป็นไปได้ว่าจะไม่เข้าข่ายต้องติดกำไล EM แต่อาจจะพ่วงเงื่อนไขไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับงานการเมืองใดๆ 

"ความเป็นไปได้ที่นายทักษิณจะพ้นโทษและได้รับการปล่อยตัวทันทีคือ กรณีมีพระราชกฤษฎีกา ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา โดยการพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป ในวาระโอกาสสำคัญ เช่น วันที่ 13 ต.ค. หรือวันที่ 5 ธ.ค. เป็นต้น ซึ่งจะต้องดูรายละเอียดแนบท้ายด้วยว่ามีสาระเนื้อหาการยกเว้นอื่นใดหรือไม่ แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของพระราชอำนาจ" แหล่งข่าวระดับสูงกล่าว ทั้งนี้ คาดว่าทักษิณอาจได้กลับบ้านฉลองปีใหม่กับครอบครัวและหลานๆ 

ในแง่ของกระบวนการยุติธรรมก็ว่ากันไป แต่ ในแง่ของการเมืองมีมุมมองที่น่าสนใจ โดย "พิภพ ธงไชย" อดีตแกนนำ พธม. ที่เคยรบกับระบอบทักษิณมาอย่างดุเดือด โพสต์ว่า "ทักษิณกลับบ้าน ชัยชนะยกแรกของกลุ่มอำนาจนิยม ทุนนิยม อนุรักษนิยม 

กลับมาทำไมในตอนนี้ ที่ถึงอย่างไรก็ต้องติดคุก มันไม่เท่อย่างที่ตัวเองประกาศไว้ ทันทีที่ทักษิณเหยียบแผ่นดินไทยตอนเช้า ตอนเย็นรัฐสภาไทยก็มีมติเลือกคนของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี

หลังจากหนีคดีไป 18 ปี ทักษิณก็กลับบ้านอย่างเท่ๆ เหมือนจักรพรรดินโปเลียนหนีออกจากเกาะเอลบากลับมาเหยียบแผ่นดินฝรั่งเศส เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมา และมาจัดการกับคนที่บังคับให้ต้วเองไปอยู่เกาะเอลบา

คนตั้งคำถามกันมากว่าทักษิณกลับมาทำไม ทำไมไม่รอให้รัฐบาลของตัวเองออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้สำเร็จเสร็จสิ้นเสียก่อน การกลับมาตอนนี้ ตอนที่พรรคก้าวไกลแลนด์สไลด์จนเกือบได้เป็นนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางความกลัวของกลุ่มทุน ขุนทหาร และชนชั้นสูง และใครๆ ก็คาดหมายได้ว่า บทบาทในรัฐสภาของพรรคก้าวไกลในสมัยนี้จะแลนด์สไลด์ชนิดฟ้าถล่มดินทลายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

แผนการสกัดพรรคก้าวไกล จึงต้องเริ่ม ณ วันนี้ และคนที่จะสกัดได้คือ คนที่ชื่อ “ทักษิณ” เท่านั้น

ทักษิณเป็นตัวแปรที่ทำให้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไปไม่ได้ การนำตัวทักษิณกลับมาติดคุกให้ครบกระบวนการตามกฎหมาย แล้วขออภัยโทษ การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมก็จะสำเร็จเพื่อน้องสาว (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ที่อยู่แดนไกลและคนเสื้อแดง ทักษิณก็จะนำทัพสู้ศึกกับก้าวไกลอีก 4 ปีข้างหน้าได้ เหมือนศึกวอเตอร์ลู

ที่ใครๆ คาดหมายว่า ก้าวไกลจะแลนด์สไลด์สมัยหน้า ก็จะกลายเป็นคำถามใหญ่ คำถามใหม่ เมื่อเจอกับ "นักการขายในตลาดการเมืองที่ยิ่งใหญ่” ในประวัติศาสต์การเมืองไทย มานำทัพเพื่อไทยสู้ศึก เหมือนสมัยเมื่อ 50 ปีก่อน รัฐไทยกลัวคอมมิวนิสต์ จนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 แล้วให้ขุนทหารสู้ศึกคอมมิวนิสต์ผ่านการเลือกตั้ง ผ่านการรัฐประหาร มาจนถึงวันนี้

เพียงแต่สงครามครั้งนี้ ทักษิณต้องไม่ติดหล่มตัวเองเหมือนจักรพรรดินโปเลียนในประวัติศาสตร์ที่ศึกวอเตอร์ลู มิฉะนั้นทักษิณก็จะต้องจบตัวเองแบบตัวละครใน Death of Salesman ของอาร์เธอร์ มิลเลอร์ 

ใครวางแผนงานการเมืองให้กลุ่มอนุรักษนิยม ทุนนิยม ในคราวนี้ ต้องยกนิ้วให้" 

 

ช่างสงสัย 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้

บันทึกหน้า 4

ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล

บันทึกหน้า 4

ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา

บันทึกหน้า 4

บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น