กางเกงช้าง is everywhere

จับพลัดจับผลูมีธุระปะปังไปถิ่นเดิม ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เสร็จจากธุระ ก็ตัดสินใจเดินเลียบถนนท่าพระจันทร์ไปเรื่อยๆ มาเรียงๆ เป้าหมายอยู่ที่มิวเซียมสยามเพื่อขึ้นรถไฟใต้ดิน สถานีสนามไชย

ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตรไม่ใช่ปัญหา เพราะได้ดูสิ่งของที่ขายข้างทางเพลินๆ กันไป ตั้งแต่อาหารการกิน เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ สารพัดยาสมุนไพร รวมทั้งพระเครื่องกระจุกกระจิกสารพัด

สิ่้งที่เห็นเด่นชัด เห็นจะเป็นบรรดาป้ายของร้านค้าต่างๆ จะมีภาษาอังกฤษ ภาษาจีน กำกับไว้ดาษดื่น แตกต่างจากเมื่อ 40-50 ปีที่แล้วที่บนถนนเส้นนี้ จะมีแต่ก็พวกฮาร์ดคอร์ นักเล่นพระเครื่องจะเดินเบียดเสียดกันตลอดวัน แต่มาวันนี้ ลูกค้าหลักของถนนเส้นนี้ไปถึงท่าช้างและท่าเตียน กลายเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ

สินค้ายอดนิยมจะต้องมีแทบทุกร้าน ก็หนีไม่พ้น "กางเกงช้าง" กับป้ายที่แขวนบอกราคา 100 บาท 

สะท้อนบอกว่า กางเกงช้าง กลายเป็นซิกเนเจอร์ที่นักท่องเที่ยวมีความปรารถนาซื้อเก็บไว้เป็นของที่ระลึกจากการเยือนประเทศไทยสักตัวในชีวิต ส่วนคนที่กว้านซื้อเป็นโหล หรือซื้อมันทุกสีทุกลายก็มีไม่น้อย มองดูนักท่องเที่ยวแย่งกันซื้อแล้วก็รู้สึกเพลินๆ เป็นที่สนใจว่าความนิยมนี้..เริ่มจากอะไร

ปรากฏพบว่า แรกเริ่มเดิมที น่าจะมาจากการที่กฎกติกามารยาทของการเยี่ยมชมวัดพระแก้วที่ท้องสนามหลวง ห้ามคนนุ่งกางเกงขาสั้น เจ้ากางเกงช้างจึงเป็นทางออก ที่สวมทับกางเกงขาสั้นได้แบบสบายๆ และที่สำคัญคือ เป็นแฟชั่นยูนิเซ็กซ์ ผู้หญิงใส่ได้ผู้ชายใส่ดี อีกทั้งสนนราคาก็ไม่แพงจนเวอร์วัง มันเลยกลายเป็นของพึงต้องมีเมื่อมาถึงประเทศไทย

บวกกับบรรดาดารา นักร้อง นักแสดงของเกาหลีและคนดัง ก็ใส่กางเกงช้างอวดกันในโซเชียล ความดังของกางเกงช้างก็เลยหยุดไม่อยู่

ฉะนั้น กางเกงช้าง is everywhere แบบปลื้มแทนคนไทยทุกคน และที่น่าสนใจคือ ฝรั่งมังค่าส่วนใหญ่ตัวเขาสูงกว่าคนของบ้านเรา ทำให้เหมาะเจาะกับสรีระของพวกเขา ส่งเสริมให้กางเกงช้างดูดีมีสกุลมากกว่า ที่คนบ้านเราใส่อีก..จริงๆ นะ

อ้อ!! อีกอย่าง การที่ทุกร้านขายกางเกงช้างราคาเดียวกัน ถือเป็นเรื่องดีงาม สามัคคีแบ่งกันขายแบ่งกันรวยดีกว่าแย่งกันตัดราคา ทำให้นักท่องเที่ยวขาดความมั่นใจ และหมดความเชื่อถือกับกางเกงของเรา..สุดยอดค่ะ.

'ป้าเอง'

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ของดี...ดับพิษร้อน

นาทีนี้ไปไหนมาไหน เสียงบ่นกันเซ็งแซ่ไม่พ้นเรื่องร้อน ..ร้อน..ร้อน อากาศทะลุ 40 องศาวันเว้นวันบ้าง เว้นสองวันบ้าง เล่นเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียว

วันหยุด...ไม่มีชดเชย

กลับไปเยือนเมืองจีนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากไปมาครั้งสุดท้าย เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ทำบุญ..รู้รักษาสุขภาวะ

ยังคงอยู่วนเวียนอยู่ในเดือนเมษา.หน้าร้อน และเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเกี่ยวเนื่องกับเทศกาลวันสงกรานต์ ที่คนไทยนิยมเข้าวัดเข้าวา เพื่อกราบสักการบูชาและสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่แบบไทย

ของฝาก..จากวัยอิสระ

ห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย เชื่อว่าอย่างน้อยสัก 1 วัน เราจะต้องเข้าไปกราบเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ตามประเพณีอันดีงาม พร้อมๆ กับขอพรจากท่าน

ร้อน..ตับแตก

กรมอุตุนิยมวิทยาท่านประกาศว่า ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายนนี้ ความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส