สุขภาพดี..อยู่ที่เรา

เป็นเรื่องแชร์กันต่อๆ ในโลกโซเชียลมนุษย์ลุงมนุษย์ป้า ต้อนรับวันเกษียณอายุราชการแบบคึกคักก็ว่าได้ สำหรับข้อเขียนของ คุณหมอสันต์ ใจยอดศิลป์ ที่ตอบข้อถามของคนวัยเกษียณท่านหนึ่งที่บอกว่า

...ผมเกษียณแล้ว กำลังชั่งใจว่าจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อการมีสุขภาพดี อย่างน้อยจะได้ออกกำลังกาย ปลูกต้นหมากรากไม้มากขึ้น เพราะอยู่ในกรุงเทพฯ ก็เอาแต่นั่งจิ้มจอทุกวัน  อยากให้หมอสันต์แนะนำสถานที่ในต่างจังหวัดที่ไปอยู่แล้วจะมีสุขภาพดีครับ...

คุณหมอตอบว่า การจะมีอายุยืน มีสุขภาพดีต้องหนีความแออัดของกรุงเทพฯ ไปอยู่ต่างจังหวัดนั้น ไม่ใช่!! และไม่เกี่ยวกันเลย

การอยู่ในเมืองใหญ่หรือการอยู่ในชนบทไม่ใช่ประเด็น แต่สไตล์การใช้ชีวิตคือ การกิน การเคลื่อนไหวออกกำลังกายต่างหากที่เป็นประเด็น

แล้วคุณหมอก็ยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ เกาะเล็กนิดเดียว พื้นที่ 728 ตร.กม. (ประมาณครึ่งหนึ่งของเกาะภูเก็ต) มีคน 5.8 ล้านคน คือแทบจะทุกตารางนิ้วกลายเป็นเมืองใหญ่ไปหมดแล้ว เมื่อปี ค.ศ.1960 ทารกแรกเกิดในสิงคโปร์มีอายุคาดเฉลี่ย 65 ปี แต่ทุกวันนี้อายุคาดเฉลี่ยเด็กแรกเกิดที่สิงคโปร์คือ 84.9 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดในโลก และถ้าจะวัดอายุคาดเฉลี่ยเฉพาะช่วงที่มีสุขภาพดี (healthy life expectancy) สิงคโปร์ก็เป็นที่หนึ่งของโลกอยู่ดี

ที่น่าสนใจคือ สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอัตราการตายด้วยโรคหัวใจหลอดเลือดต่ำที่สุดในโลก

พูดง่ายๆ ว่า ไม่ว่าจะมองมุมไหน หากถือตามตัวชี้วัดทางการแพทย์สากลตอนนี้ คนสิงคโปร์เป็นคนที่มีสุขภาพดีที่สุดในโลก และมีคุณภาพชีวิตบั้นปลายดีที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่เขาอยู่กันอย่างแออัดในเกาะเล็กนิดเดียว

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ถึงเขาจะอยู่ในเมือง แต่ผู้สูงอายุสิงคโปร์มีอัตราการเดินมาก 

ผลการสำรวจผู้สูงอายุที่มาเดินในปาร์กของสิงคโปร์ พบว่า ผู้สูงอายุเหล่านั้นเดินกันเฉลี่ยวันละ 8,000–14,000 ก้าว ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศตะวันตกที่นิยมการเดินอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอัตราการเดินเฉลี่ย 4,000 ก้าวต่อวันเท่านั้น 

จะอ้างว่ากรุงเทพฯ บ้านเรามันร้อน เดินยากก็ไม่ได้ เพราะสิงคโปร์ร้อนกว่าบ้านเราเสียอีก ดังนั้นที่เราไม่เดินกันนั้น มันเป็นแค่เหตุอ้างกันไปเท่านั้นเอง

คุณหมอกล่าวโดยสรุปว่า คุณจะอยู่ในกรุงเทพฯ หรือจะย้ายออกไปต่างจังหวัด จังหวัดไหนก็ได้ เอาแบบที่คุณชอบ แต่การจะมีสุขภาพดีคุณต้องเปลี่ยนสไตล์การกินและการเคลื่อนไหวออกกำลังกาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเมืองหรืออยู่บ้านนอก เพราะที่ไหนไม่สำคัญ สำคัญที่กินอะไรและเคลื่อนไหวมากไหม

เห็นด้วยไหมคะ สุขภาพจะดีอยู่ที่เราเท่านั้น พึ่งพาใครไม่ได้เลย.

 

"ป้าเอง"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ของดี...ดับพิษร้อน

นาทีนี้ไปไหนมาไหน เสียงบ่นกันเซ็งแซ่ไม่พ้นเรื่องร้อน ..ร้อน..ร้อน อากาศทะลุ 40 องศาวันเว้นวันบ้าง เว้นสองวันบ้าง เล่นเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียว

วันหยุด...ไม่มีชดเชย

กลับไปเยือนเมืองจีนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากไปมาครั้งสุดท้าย เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ทำบุญ..รู้รักษาสุขภาวะ

ยังคงอยู่วนเวียนอยู่ในเดือนเมษา.หน้าร้อน และเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเกี่ยวเนื่องกับเทศกาลวันสงกรานต์ ที่คนไทยนิยมเข้าวัดเข้าวา เพื่อกราบสักการบูชาและสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่แบบไทย

ของฝาก..จากวัยอิสระ

ห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย เชื่อว่าอย่างน้อยสัก 1 วัน เราจะต้องเข้าไปกราบเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ตามประเพณีอันดีงาม พร้อมๆ กับขอพรจากท่าน

ร้อน..ตับแตก

กรมอุตุนิยมวิทยาท่านประกาศว่า ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายนนี้ ความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส