DNA ใหม่ของสภา ด้อยค่า ด่าทอ ต่อว่า เสียดสี

สองวันเต็มๆ ที่ประชาชนได้เห็นการแถลงนโยบายของรัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา สิ่งที่เราได้เห็น ได้ยินได้ฟัง ก็มีคนที่อภิปรายได้ดี มีการชี้แนะ มีการท้วงติง มีการถามเพื่อขอความกระจ่างของนโยบาย แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่รกหูรกตาก็มีไม่น้อย สส.ของพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นเหมือนชาวคณะประดิษฐ์วาทกรรมในการอภิปราย แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่วาทกรรมที่ไพเราะชวนฟัง เป็นวาทกรรมที่จงใจแซะ ด้อยค่า ด่าทอ ต่อว่า และเสียดสีนโยบายของรัฐบาล ไม่เพียงเท่านั้น ยังไพล่ไปแซะ แขวะ ด่า ด้อยค่ารัฐบาลลุงตู่อีกด้วย

เนื้อหาหลายอย่างเป็นความเท็จ หลายอย่างเป็นตรรกะที่บิดเบี้ยว การที่พวกเขาพูดจาแบบที่เราได้ยิน ได้เห็นนั้น เราไม่แน่ใจว่าเขาไม่รู้ เขาไม่มีข้อมูลจริงๆ หรือว่าที่จริงแล้วเขารู้ว่าความจริงคืออะไร แต่ก็ขอพูดจาด้วยเนื้อหา ลีลา และถ้อยคำอย่างที่เขากระทำกันนั้นสองวันนั้น จะเป็นการแก้แค้นที่พรรคเพื่อไทยฉีก MOU แล้วจัดทัพใหม่หรือเปล่า เนื้อหาหลายเนื้อหามันไม่ใช่ แต่ที่แย่ไปกว่าเนื้อหาที่ไม่ใช่แล้ว การใช้ถ้อยคำของพวกเขาก็เป็นภาษาที่ชาวบ้านเรียกว่าภาษา “ตลาดล่าง” จนบางคนบอกว่า “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” จริงๆ อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เราได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นในสองวันนั้นก็ไม่ใช่สิ่งใหม่อะไร เพราะพวกเขาก็ทำกันแบบนี้มาตลอด จนอยากสรุปว่า “ที่จริงไม่รู้ ที่รู้ไม่จริง” หรือ “เรื่องจริงไม่พูด ที่พูดไม่ใช่เรื่องจริง”

ขอชมเชยนายกฯ เศรษฐาตอบโต้การอภิปรายแบบผู้ดี และแสดงความเป็นคนฉลาดได้ระดับหนึ่ง สามารถเก็บอารมณ์เกรี้ยวกราดเอาไว้ได้ แต่เชื่อว่าท่านคงจะเข้าใจแล้วว่าตลอด 4 ปีที่ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามครรลองประชาธิปไตยนั้น โดนด้อยค่า กล่าวหา ด่าทอ ด้วยวาทกรรมและเรื่องราวที่เป็นเท็จนั้น จะต้องมีความอดกลั้นเพียงใด จะต้องมีความอดทนเพียงใดที่จะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อพัฒนาประเทศชาติ เพื่อความผาสุกของประชาชน ถ้าหากไม่มีความอดทน อดกลั้น อาจจะท้อแท้จนถอดใจ ไม่ทนทำงานอยู่ท่ามกลางเสียงก่นด่าด้วยวาทกรรมต่างๆ นานาที่ไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากจะโดนวาทกรรมของฝ่ายค้านแล้ว ยังต้องเผชิญกับสื่อมวลชนบางสำนัก และนักวิชาการบางคนที่ตั้งหน้าตั้งตาอวยฝ่ายค้าน ตอกย้ำถ้อยคำที่ด้อยค่า ด่าทอ ประชดประชัน ส่อเสียด เสียดสี จะเป็นเพราะผลประโยชน์ หรือความสะใจ หรือคิดว่าการทำเช่นนั้นเป็นความทันสมัย เป็นประชาธิปไตย หรือมีศีลเสมอกัน ก็ไม่อาจจะคาดเดาได้

ดังนั้น เมื่อท่านนายกฯ เศรษฐาอยากทำอะไรให้ประชาชนก็นำเสนอมาได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้วาจาด้อยค่ารัฐบาลลุงตู่ก็ได้นะ เพราะอย่างไรเสีย พรรคที่เพื่อไทยไปชวนมาร่วมรัฐบาลด้วยก็เป็นพรรคที่เคยทำงานร่วมกับลุงตู่มาก่อน เมื่อมาทำงานร่วมกันแล้วก็ควรจะพูดจาให้เกียรติกัน จะได้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น มองหน้ากันได้สนิทใจ ไม่มีอาการตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด ใจเขาใจเรานะท่านนายกฯ เศรษฐา เวลานี้ดูเหมือนพรรคร่วมเขาจะให้เกียรติคนของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของพวกท่านหลายคน ในหลายๆ ครั้ง ยังไม่เลิกที่จะด้อยค่ารัฐบาลลุงตู่ว่าทำประเทศย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ หรือแม้แต่เรื่องการจัดการกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

พรรคฝ่ายค้านกำลังสร้าง DNA ใหม่ให้สภาอย่างไม่น่าอภิรมย์ และนายกฯ เศรษฐาก็ใช้ปัญญาและวุฒิภาวะในการตอบโต้ได้ดี ก็ขอให้ท่านรักษาการกระทำเช่นนี้ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ขอนายกฯ เก็บอารมณ์ให้ได้ เมื่อต้องเจอวาทกรรมของฝ่ายค้าน และคำถามของสื่อมวลชนบางราย หวังว่าท่านจะอดทน อดกลั้นกับความถ่อยเถื่อนของนักการเมืองบางคน ที่อาจจะมีการสำทับให้รุนแรงขึ้นโดยสื่อมวลชนบางสำนักและนักวิชาการบางคน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะได้เห็นปัญญาและวุฒิภาวะของนายกฯ เศรษฐาแล้ว สิ่งที่เรายังรู้สึกเป็นห่วงก็คือ นายกฯ เศรษฐาจะมีโอกาสได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ในการบริหารประเทศได้มากน้อยแค่ไหน นายกฯ เศรษฐาจะเป็นตัวของตัวเองในการบริหารได้แค่ไหน และเมื่อท่านได้ยินได้ฟังการอภิปราย การท้วงติง และการให้ข้อเสนอแนะที่ดีๆ ของสมาชิกรัฐสภาแล้ว ท่านจะฟังเสียงท้วงติงของสมาชิกรัฐสภาที่หวังดีต่อประเทศชาติหรือไม่ ท่านจะน้อมนำเอาคำชี้แนะไปปรับนโยบายหรือไปกำหนดแนวทางการทำงานของท่านหรือไม่ ท่านมีโอกาสจะพิจารณาได้เอง หรือท่านจะเป็นได้เพียงผู้แสดงนำที่ต้องแสดงตามผู้กำกับบางคน ประชาชนยังมีภาพจำการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี คือมันเป็นเรื่องที่คนอื่นเป็นคนคิด และเพื่อไทยเป็นคนทำ และเมื่อทำแล้วประเทศไทยต้องพบกับความเสียหายมหาศาล หลายคนจึงเป็นห่วงเรื่องอิสรภาพทางความคิดของนายกฯ เศรษฐา ไม่ได้คิดดูถูกท่านนะ แต่อดห่วงไม่ได้ เพราะประสบการณ์ในอดีตที่ไม่อาจมองข้ามได้

อีกเรื่องที่เชื่อว่าประชาชนหลายคนเป็นห่วงเป็นใย ก็คือ พวกเขาหวังว่าท่านนายกฯ และพรรคร่วมทั้งหลายจะไม่ใช้โครงการประชานิยมหาคะแนนเสียงจนไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับประเทศชาติ อย่าทำอะไรให้ประชาชนมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน อย่าทำอะไรให้ประชาชนเห็นว่าเป็นการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย ถ้ารัฐบาลนี้ที่มีพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยความมุ่งมั่นสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชนก็น่าจะอยู่ได้นาน

เรื่องหนึ่งที่ท่านต้องระวัง อย่าให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว หรือเป็นระเบิดเวลาที่จะสร้างปัญหาให้รัฐบาลจะต้องมานั่งแก้ไข นั่นคือเรื่องนักโทษเด็ดขาดชายนั้น ท่านจะต้องทำทุกอย่างให้มีความชัดเจน รักษาความเป็นนิติรัฐของประเทศไทยที่จะต้องดำรงนิติธรรมนะ อย่าตีเนียนนิ่งเฉย ประชาชนเขาติดตามอยู่นะ อย่าคิดว่าตอนนี้ที่เขาไม่พูดอะไรนั้น แปลว่าพวกเขาปล่อยผ่านแล้วนะ เวลานี้ความไม่พอใจอาจจะอยู่ในช่วงระยะฟักตัว และเมื่อพ้นช่วงเวลาของการฟักตัวจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่อาจจะคาดการณ์ได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ดังนั้น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อย่านิ่งเฉยจนประชาชนไม่พอใจ ต้องปฏิบัติหน้าที่พิสูจน์หลักนิติธรรม และอย่าสร้างความหนักใจให้หมอทั้งโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจเลยนะ ทุกๆท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายหน่อยเถอะ

สำหรับฝ่ายค้านที่เคยเรียกหาความทัดเทียมมาโดยตลอด แสดงท่าทีรังเกียจความเป็นอภิสิทธิ์ชนมาโดยตลอด แทนที่จะเปลี่ยน DNA ของสภาเป็นดินแดนแห่งวาทกรรมต่ำตม เชือดเฉือน ประชดประชันด้วยข้อความจริงบ้างไม่จริงบ้าง ลองปรับ DNA ของพรรคให้เป็นฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้มีความถูกต้อง จะได้มีคนยกย่อง เลิกปรามาสพวกท่านนะคะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

ดร.เสรี ชำแหละดิจิทัล 10,000

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า แจกเงินดิจิทัล 10,000 แก่คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปที่รายได้น้อยกว่า 840,000 หรือเงินเก็บไม่เกิน 500,000 บาท ยังมีคำถามมากมาย

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล