ผู้นำที่ดีในแบบพีระพันธุ์

ลุยงานเต็มที่ สำหรับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ตอนนี้มีห้องทำงาน ทั้งบ้านพิบูลธรรมของกระทรวงพลังงาน ห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งพีระพันธุ์ รับบทหัวหน้าพรรค นำทัพอยู่

แต่เมื่อมารับบทเจ้ากระทรวงพลังงานแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะนั่งที่ห้องทำงานบ้านพิบูลธรรม และใช้ห้องที่ทำเนียบรัฐบาลบ้างตามความเหมาะสมของงานและการประชุมต่างๆ

และถึงแม้ตอนนี้เจ้าตัวจะขึ้นนั่งเก้าอี้รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แล้ว แต่ก็ยังเป็นคนกินง่ายๆเหมือนเดิม ข้าวมื้อเที่ยงยังจัดเมนูข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาว ร้านประจำย่านซอยอารีย์เจ้าเดิม ตบท้ายด้วยของหวานไอกรีม ให้พอชื่นใจ และเพื่อมีแรงทำงานแก้ไขปัญหาพลังงานให้ประชาชนต่อไป

ล่าสุด “พีระพันธุ์” ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. ยังได้นำทีมสมาชิกรุ่นใหม่ของพรรค รทสช. ร่วมพบปะพูดคุยกับเด็กๆและเยาวชนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผู้นำทางสังคมยุคใหม่ ในโครงการ “UTN Academy Young Leadership” โดยพูดคุยในหัวข้อ “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของคน GEN Z” ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวน้องๆเยาวชนที่ปลื้มและเป็นแฟนคลับของลุงพีฯ ก็ได้ถือโอกาสขอลายเซ็น  และถ่ายรูปกับลุงพีฯด้วย

ในงานนี้นอกจาก “พีระพันธุ์” จะเล่าถึงประสบการณ์ในการเรียนและการทำงานของตัวเองทั้งในฐานะอดีตผู้พิพากษา จนเข้าสู่การทำงานทางการเมืองแล้ว ยังสอนเด็กๆด้วยว่า เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จึงควรใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ทั้งการให้ความสำคัญกับครอบครัวและประเทศชาติ เพราะประเทศชาติก็เปรียบเสมือนบ้านของทุกคน เมื่อดูแลครอบครัวอย่างดีแล้ว ขอให้ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อบ้านเมืองด้วย

จังหวะหนึ่งลุงพีฯ ได้ตอบคำถามเด็กๆถึงการเป็นผู้นำที่ดีต้องทำอย่างไรด้วย ว่า “การเป็นผู้นำที่ดีก็คือ การต้องนำตัวเองให้ดีได้ก่อน ถ้านำตัวเองให้ดีไม่ได้ ก็ไปนำคนอื่นไม่ได้  การที่เราจะเป็นผู้นำที่ดีของตัวเองได้ เราต้องมีความเป็นตัวตนของเรา ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวตนเราถูกครอบงำโดยอิทธิพลของคนข้างนอก  เราไม่ได้เป็น Gen X  Gen Y Gen Z หรือ Gen อะไรหรอก เราคือเรา เราคือความเป็นคนไทย”

แหม..ฟังแล้วต้องยกให้เป็นแบบอย่าง ผู้นำที่ดีในฉบับของ “ลุงพีระพันธุ์” ที่เด็กๆต้องนำไปปฏิบัติตามแล้วล่ะ

 

บรรจง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า

หนีแสงซะงั้น

ปกติไม่ใช่คนเดินหนีไมโครโฟน แต่เป็นประเภทวิ่งเข้าใส่ นักข่าวมีแรงถามแค่ไหน จะยืนตอบให้ทุกประเด็น สำหรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม

กองเชียร์ไม่เยอะ

กระแสข่าวเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เล่นเอารัฐมนตรีว้าวุ่นแล้ว ไม่พอยังลามไปถึงการยกเครื่อง การทำงานของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย