3วิธีแก้ถ.พระรามสอง

ธรรมชาติของมนุษย์ที่แต่ละคนจะมีสุขทุกข์แตกต่างกัน สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ภาคเหนือ ภาคกลางก็กำลังกังวลว่าน้ำจะเข้าท่วมขยายกว่าเดิมตามบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรของประชาชนหรือไม่ ซึ่ง นายกฯก็ได้ลงไปติดตามสถานการณ์น้ำด้วยตัวเองแล้ว จึงพออุ่นใจได้บ้างว่าอยู่สายตาของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐแล้ว              

ส่วนชาวกรุงเทพฯ ความระทมใจคือการจราจร ยิ่งฝนตกด้วยแล้ว กทม.คืออวสาน โดยเฉพาะกับถนนพระรามสอง ผู้คนที่เป็นขาจรยังพอเลี่ยงได้ แต่สำหรับชาวบ้านที่อาศัยละแวกนั้นต้องจำใจและอดทนจนกลายเป็นชิน กับถนนเส้นที่บางคนเรียกว่า 7 ชั่วโคตร เพราะก่อสร้างไม่เสร็จเสียที

ล่าสุด สภาองค์กรของผู้บริโภค เชิญผู้ดำรงตำแหน่งจากหลายพรรคการเมือง ลงพื้นที่สำรวจรับฟังปัญหาการก่อสร้างถนนพระราม 2 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 สาย

ดาวคะนอง–วังมะนาว ด้วยการก่อสร้างนานกว่า50ปี และร่วมรับฟังปัญหาเพื่อหาทางออกร่วมกัน ได้แก่ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เคยดำรงตำแหน่งนายกสภาวิศวกรสมัยที่ 7 และอดีตผู้สมัครสส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ นายสารัช ม่วงศิริ สก. เขตบางขุนเทียน พรรคประชาธิปปัตย์  นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. เขตจอมทอง พรรคก้าวไกล นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา สก. เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย

 “ดร.เอ้ สุชัชวีร์”  เสนอ 3 วิธี ทางแรก คือ “ติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นเพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลที่แท้จริง” หน่วยงานกทม.ควรติดตั้งแสดงตัวเลขค่าฝุ่น ซึ่งปัจจุบันมีแล้ว แต่ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ กทม. มีกฎหมายดูแลความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ค่อยบังคับใช้เข้มข้น กทม. เป็นผู้ออกใบอนุญาตก่อสร้าง และเพิกถอน ระงับได้ ดังนั้นหากพบว่าการก่อสร้างส่งผลกระทบต่อประชาชน ระงับได้เลย แบบนี้เจ้าของโครงการกลัวมาก จะต้องไปกำชับผู้รับเหมาให้รับผิดชอบมากขึ้น ฝุ่นพิษก็น้อยลง จริงไหม?

ทางที่สอง คือ “ปั๊มสูบน้ำ”  และต่อท่ออ่อน เนื่องจากน้ำในชุมชนไม่สามารถระบายออกไปได้ เกิดจากโครงการก่อสร้างปิดทางระบายน้ำ ส่งผลให้น้ำในชุมชนเน่าและส่งกลิ่นเหม็น ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างจึงจำเป็นต้องเยียวยาช่วยเหลือให้ตรงจุด เพื่อดูแลชุมชนความเป็นอยู่ของชุมชน

ทางสุดท้าย คือ “ขอคืนผิวทางจราจร ให้ได้สัญจรตามมาตรฐานสากล” เมื่อโครงการก่อสร้างใช้พื้นที่ในส่วนของการสัญจรแล้วนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องโยกย้ายสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆออกไป เพื่อเปิดทางให้การสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น

แหม งานนี้ถ้ามีผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะเฟอร์เฟคมากเลย

                                                                                                               มินนี่ เม้าธ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ดวงเฮงแม้จมบ๊วย’

ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า หลายคนเริ่มออกเดินทางไปเที่ยวกันแล้ว ยกเว้นนักการเมืองที่ยังวุ่นกันสุดๆ ในตอนนี้ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองบีบคั้น เนื่องจากมีการยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งในช่วงนี้

‘ขออะไรทำให้หมด’

ช่วงนี้เข้าสู่เทศกาลหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะได้มีการจับหมายเลขกันแล้วเรียบร้อย ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองต่างก็กระจายสรรพกำลังลงพื้นที่หาเสียงทั่วทั้งประเทศ

สู้ครั้งสุดท้าย

สนามเลือกตั้งคึกคักทั่วไทย หลังผู้สมัครและทุกพรรคจับเบอร์กันเรียบร้อย ก็ลุยหาเสียงทันที ทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ต่างงัดกลยุทธ์และไม้เด็ดต่างๆ มาสู้คู่แข่ง ที่สำคัญคือนโยบาย ตัวผู้สมัคร และตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ที่จะช่วยกันโกยคะแนน งานนี้ทุกพรรคต่างฟิตสู้ศึกรอบนี้

หลายคนนับถือหัวใจ

ถือว่าสะเทือน หลัง ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุเรื่องสุขภาพ ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.หลายคนถือจังหวะกระโดดหนีไปหาต้นสังกัดใหม่เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ในครั้งนี้

เข้าใจคนชายแดน

ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด

เปิดซีเกมส์อีกรอบ

การเมืองช่วงนี้ทำให้เราเหนื่อยมากพอแล้ว ย้ายมาวงการการเมืองผสมกีฬาหน่อย ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีคนเก่งของเรา ที่ไปสร้างตำนานโป๊ะแตกในงานพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ นี่เอง