มีลูกกันเถอะหนา?!?

นิด้าโพลได้เผยแพร่ผลสำรวจสถานภาพของคนในสังคมไทย โดยใช้หัวข้อ "มีลูกกันเถอะหนา" ไว้อย่างน่าสนใจ เพราะผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า มนุษย์คู่สามีภริยาในยุคดิจิทัล ม่ปรารถนาการมีลูกมาเป็นโซ่ทองคล้องใจ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา 

ทำให้มนุษย์ป้าได้ประจักษ์แจ้งเด่นชัดยิ่งขึ้น เพราะระยะหลังนี้เวลาไปงานแต่งงานของคนรุ่นลูกรุ่นหลาน เจ้าภาพมักจะกำชับกะเกณฑ์ผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ขึ้นไปอวยพรบ่าวสาวว่า ห้ามอำนวยพรขอให้มีลูกมีหลานเต็มเมืองนะคะ เพราะเด็กยุคนี้เขามีความคิดต่าง และถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่ไม่ต้องการให้ใครมากดดัน

ผลสำรวจของนิด้าระบุว่า เมื่อสอบถามผู้ที่ไม่อยากมีลูก (จำนวน 334 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับสาเหตุที่ไม่อยากมีลูก พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.32 ระบุว่า ไม่อยากเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูก และเป็นห่วงว่าลูกเราจะอยู่อย่างไรในสภาพสังคมปัจจุบัน ในสัดส่วนที่เท่ากัน รองลงมา ร้อยละ 37.72 ระบุว่า ไม่อยากมีภาระต้องดูแลลูก ร้อยละ 33.23 ระบุว่า ต้องการชีวิตอิสระ ร้อยละ 17.66 ระบุว่า กลัวเลี้ยงลูกได้ไม่ดี ร้อยละ 13.77 ระบุว่า อยากให้ความสำคัญกับงานมากกว่า ร้อยละ 5.39 ระบุว่า สุขภาพตนเองหรือคู่ครองไม่ค่อยดี ร้อยละ 2.10 ระบุว่า กลัวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จะไม่ดี ทำให้ลูกที่เกิดมาไม่ดีไปด้วย และร้อยละ 0.90 ระบุว่า  กลัวกรรมตามสนองเนื่องจากเคยทำไม่ดีไว้กับพ่อแม่

เป็นคำตอบที่ให้แง่คิดอย่างน่าสนใจ และเป็นประเด็นที่มนุษย์ลุงมนุษย์ป้าต้องใส่ใจเตรียมตัวให้พร้อมกับการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวโด่เด่ในอนาคตข้างหน้า เพราะการจะลูกหลานมาดูแลเมื่อยามแก่เฒ่านั้น..ลืมไปได้เลยว่าเคยมีสังคมแบบนี้ในประเทศไทย

สอดคล้องกับตัวเลขรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ.2564 ซึ่งคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ได้จัดทำขึ้น และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่า ปี 2564 เป็นปีแรกที่มีจำนวนคนตาย (563,650 คน) มากกว่าจำนวนเด็กเกิด (544,570 คน) ทำให้อัตราประชากรติดลบเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดการณ์ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะมีจำนวนลดลง โดยจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นจาก 12.5 ล้านคน ในปี 2564 เป็น 20.5 ล้านคน ในปี 2583 คิดเป็นร้อยละ 31.4 ของประชากรทั้งหมด

บานตะไท ไชโย คนแก่จะครองเมือง ในระยะเวลา 17 ปีข้างหน้า สงสารลูกหลานภายภาคหน้านะคะ เพราะถึงแม้คุณจะไม่มีลูกมาเป็นห่วงผูกคอ แต่ในฐานะคนไทยแล้ว อย่างน้อยที่สุดคุณต้องจ่ายภาษีเพื่อให้รัฐบาลมีไว้ดูแลคนชรานะจ๊ะ..จะบอกให้.

'ป้าเอง'

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผ้าพันคอ...เป็นยา

มนุษย์ป้าแชร์กันในห้องไลน์ ระบุว่า แพทย์แผนจีน อู๋ หมิงจู เสนอแนะให้คุณพกผ้าพันคอติดตัว เพราะมันมีประโยชน์เหมือนยาชนิดหนึ่ง

การท่องเที่ยว..ที่เปลี่ยนไป

ทุกวันนี้ เห็นบรรดากลุ่มเกษียณสำราญไปเที่ยวนั่นโน่นนี่เป็นกลุ่มเป็นแก๊ง มองแล้วให้รู้สึกน่าเอ็นดู เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยแบบไปไหนมาไหนไม่จำเป็นต้องรอวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดเทศกาลแล้ว ยังถือเป็นการออกกำลังทั้งกายและใจให้เข้มแข็งได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย

เกษียณ..ให้สำราญ

แนวโน้มของอายุประชากรชาวโลกยาวนาน อายุยืนกันมากขึ้น ทำให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งเอกชนและราชการ พยายามจัดหากิจกรรมที่จะช่วยเพิ่มพูน เสริมสร้าง ความมั่นคงของมนุษย์ลุงมนุษย์ป้ากันแบบคึกคัก

เงินดิจิทัล..แก่แล้วอย่าคิดมาก

แพลมออกมาเรียบร้อยแล้ว และอย่างชัดเจนมากพอสมควร สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน หลังจากปล่อยให้เดากันไปเดากันมากว่า 2 เดือน

คนแก่..อยู่กันที่ไหนในบ้านเรา

ข้อมูลจากกรมการปกครองเผยว่า ผู้สูงอายุเกิน 100 ปี ในประเทศไทย (รวมชาวต่างชาติ) อายุตั้งแต่ 100-120 ปี ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,172 คน