ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net 13 ตุลาคม หนึ่งในวันสำคัญของคนไทย โดยปีนี้ครบรอบ 7 ปี ของวันสวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือเรียกว่า “สัตตมวรรษ” โดยคณะรัฐมนตรีได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเป็น “วันนวมินทรมหาราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกเฉกเช่นทุกปี ในโอกาสพิเศษนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนวางพวงมาลาและถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันศุกร์ที่ 13 ต.ค.-วันอาทิตย์ที่ 15 ต.ค.นี้
๐ ที่แท้ฝีมือ "หมอมิ้ง" นี่เอง! โฆษกรัฐบาล "ชัย วัชรงค์" เฉลยแล้ว หลัง "คารม พลพรกลาง" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากพรรคภูมิใจไทย ออกมาแฉคำสั่งพิลึก ห้ามไม่ให้รองโฆษกฯ ทั้งหมดเข้าประชุม ครม. พร้อมกัน โดยไม่ทราบเหตุผล เพียงได้รับข้อความจากโฆษกฯ ว่าผู้บริหารให้ผลัดเวียนกันทำหน้าที่ ทำให้อดเข้าฟังการประชุม ครม. 10 ต.ค. เพราะเป็นคิวของรัดเกล้า สุวรรณคีรี เจอโวยแบบนี้ โฆษกฯ รีบชี้แจงว่าเป็นคำสั่งจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ต้องการจัดระเบียบเรื่องพื้นที่ เนื่องจากรัฐบาลนี้ใช้ห้องประชุมชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งมีพื้นที่คับแคบกว่าตึกสันติไมตรีสถานที่ประชุม ครม. ยุค พล.อ.ประยุทธ์ แถมไล่ให้สื่อไปลองถาม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพราะเจ้าตัวแค่ปฏิบัติตามระเบียบเท่านั้น
๐ นึกย้อนไปเดือนที่แล้ว สัปดาห์ที่สองของครม.เศรษฐา เมื่อ 13 ก.ย.66 มีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการรักษาความลับของทางราชการที่เกี่ยวข้องกับการประชุม ครม. และการให้ข่าวสารแก่สื่อมวลชน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ แปลเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ คลอดกฎเหล็กปิดปากรัฐมนตรีและข้าราชการ ไม่ให้ข่าวกับสื่อมวลชน โดยเฉพาะข้าราชการคาดโทษหนักถึงขั้นไล่ออก คราวนั้นโฆษกชัยอ้างว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องแจ้งให้ผู้เข้าร่วมประชุม ครม. ทราบถึงแนวทางปฏิบัติ ไม่เผยแพร่ข้อมูลใดๆ ในที่ประชุม ครม. โดยเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอาจมีความอ่อนไหว และมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหรือผลประโยชน์แห่งชาติ ต้องให้หน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงชี้แจง หรือให้โฆษกรัฐบาลแถลง ยกเว้นเรื่องที่เป็นมติเห็นชอบหรืออนุมัติแล้ว สามารถเผยแพร่สื่อสารได้ตามเหมาะสม คนจัดแจงเรื่องนี้ก็ "หมอมิ้ง" สายตรง "ทักษิณ ชินวัตร" นั่นแหละ แค่เริ่มต้นรัฐบาลก็กลัวข้อมูลรั่วไหลถึงหูสื่อ ถ้าไม่มีวาระซ่อนเร้น หรือทำอะไรมุบมิบ ก็ไม่จำเป็นต้องสกัดขนาดนี้ ยุครัฐบาลเศรษฐา บทบาท "นายกฯ น้อย" ที่อยู่หลังบ้านดูท่าจะใหญ่กว่านายกฯ ตัวจริงซะอีก
๐ ข่าวฉาวโฉ่ไม่หยุดจริงๆ พรรคคนรุ่นใหม่ "ก้าวไกล" ตั้งแต่กรณี "หมออ๋อง" ปดิพัทธ์ สันติภาดา โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องเบียร์คราฟต์ เลี้ยงหมูกระทะ จนถึงทัวร์สิงคโปร์ ตามด้วยมติปาหี่ขับออกจากพรรค ใช้วิธีศรีธนญชัยอาศัยช่องโหว่กฎหมายรักษาเก้าอี้รองประธานสภาฯ หรือเคส "เจ๊เจี๊ยบ อมรรัตน์" ช่วงที่นั่งเป็นกุนซือหมออ๋อง ล่าแม่มด! สถานที่ทำงานของแฟนคลับตัวยงพรรคเพื่อไทย ที่แย่กว่านั้นคือพฤติการณ์คุกคามทางเพศของ สส. และอดีต สส. ล่าสุดก็ราย สส.ปราจีนบุรี "วุฒิพงศ์ ทองเหลา" แชตหื่นใส่อาสาสมัครช่วยงานการเมืองส่วนตัว เลยเจอวิจารณ์เละถึงมาตรฐานการคัดกรองบุคคลที่มาทำหน้าที่ผู้ทรงเกียรติในสภา ก้าวไกลเลยต้องออกปฏิบัติการกู้หน้าบ้าง ส่ง "พริษฐ์ วัชรสินธุ" โฆษกพรรค ควง "ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์" สส.กทม. ในฐานะกรรมการวินัยพรรค แถลงขับอดีตผู้สมัคร สส.ชัยภูมิ "เกรียงไกร จันกกผึ้ง" พ้นพรรค ด้วยข้อหาล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียหายชัดเจน ส่วน "สิริน สงวนสิน" สส.กทม. ที่ซ้อมแฟนสาวจนต้องขึ้นโรงพัก ลงโทษแค่คาดโทษ ตัดสิทธิไม่ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรค แต่ถ้าทำผิดร้ายแรงซ้ำจะยกระดับขับออกจากสมาชิกภาพ สำหรับเคส สส.ปราจีนบุรี ยันจะเร่งสรุปผลสอบภายในเดือนนี้ คงต้องรอดูว่าสุดท้ายจบแค่คาดโทษอีกหรือเปล่า แล้วถ้ายังมีวีรกรรมฉาวแบบนี้รายต่อไปเรื่อยๆ คงไม่ใช่แค่เรื่องตัวบุคคล ถึงเวลาที่ผู้บริหารพรรคต้องออกมาโชว์สปิริตรับผิดชอบต่อสังคมด้วย.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



