ช่วยกันประหยัดพลังงาน

ช่วงนี้ราคาพลังงานลดลงจากนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะลดราคาค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย และล่าสุดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบลดราคาน้ำมันเบนซินลง 2.50 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยใช้แนวทางเดียวกับการลดราคาดีเซล ตามที่กระทรวงพลังงาน ภายใต้การนำของ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากค่ายรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เสนอในการประชุม

แต่ถึงราคาพลังงานจะลดลง แต่ก็เป็นมาตรการในระยะสั้นเท่านั้น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนในระยะยาวทุกคนก็ยังต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน งานนี้เจ้ากระทรวงอุตสาหกรรม อย่าง “รมต.ปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จากค่ายรวมไทยสร้างชาติเช่นกัน

ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ช่วยชาติประหยัดพลังงานสุดๆ โดยการประชุม ครม.แต่ละสัปดาห์ รมต.ปุ้ยจะไม่ใช้ลิฟต์ขึ้นไปยังห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล แต่จะใช้การเดินเท้าทั้งขาขึ้นและขาลงแทน ด้วยเหตุผลว่าได้ทั้งการออกกำลังกาย และได้ช่วยชาติประหยัดค่าไฟฟ้าไปด้วย

โดยเจ้าตัวบอกอย่างอารมณ์ดีว่า “ประชุม ครม.ทีไร  เดินขึ้นเดินลงเบาๆ 5 ชั้น ได้ออกกำลังกาย แถมช่วยลดค่าไฟอีกด้วย” หรือแม้แต่อยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ก็มักจะเห็น รมต.ปุ้ยเดินลงบันไดด้วยเช่นกัน งานนี้ถ้าไม่ฟิตจริงๆ เดินขึ้นเดินลงบันไดถึง 5 ชั้นก็อาจมีเหนื่อยกันบ้าง  แต่ รมต.ปุ้ยบอกยังเดินได้สบายชิลๆ นะจ๊ะ

และนอกจากช่วยชาติประหยัดพลังงานแล้ว ตอนนี้ภารกิจของ รมต.ปุ้ยก็กำลังเร่งแก้ปัญหาสินค้าออนไลน์ไม่ได้มาตรฐาน ตามเป้าหมายภายใน 6 เดือน ซึ่งอยู่ภายใต้ภารกิจ “Quick Win” 8 มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ 1.มาตรการ 3 ร. (เร่งตรวจ เร่งกำกับ เร่งปราบ) 2.มาตรการจับจริง-ปรับจริง 3.มาตรการเชื่อมโยงข้อมูล 4.มาตรการให้ความรู้

5.มาตรการขยายผลอย่างยั่งยืน 6.มาตรการสร้างความตระหนัก 7.มาตรการใกล้ชิดประชาชน และ 8.มาตรการเพิ่มอาวุธ เพื่อกำกับดูแล ควบคุม และส่งเสริมให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ถูกหลอกจากการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ โดยทั้ง 8 มาตรการนี้ รมต.ปุ้ยย้ำว่า จะต้องสามารถกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพที่จำหน่ายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ให้หมดไปจากท้องตลาดให้ได้!

บรรจง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า

หนีแสงซะงั้น

ปกติไม่ใช่คนเดินหนีไมโครโฟน แต่เป็นประเภทวิ่งเข้าใส่ นักข่าวมีแรงถามแค่ไหน จะยืนตอบให้ทุกประเด็น สำหรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม

กองเชียร์ไม่เยอะ

กระแสข่าวเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เล่นเอารัฐมนตรีว้าวุ่นแล้ว ไม่พอยังลามไปถึงการยกเครื่อง การทำงานของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย