กว่าจะชัดเจนเป็นรูปธรรมก็กินเวลาข้ามปี การโยก บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ข้ามห้วยจากรั้วปทุมวัน มานั่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯ สมช.)
หลังจาก นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่งหนังสือด่วนที่สุดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 ถึงบิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
การขอรับโอนข้าราชการตำรวจ
เนื้อหาใจความอ้างถึง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ พิจารณาเห็นว่า พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์ที่เหมาะสม จึงมีความประสงค์จะขอรับโอน มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาฯ สมช.
เพื่อประโยชน์ของทางราชการ!!!
ที่สำคัญหนังสือระบุ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57(1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้เห็นชอบให้ดำเนินการขอรับโอนแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป
ครับ...การโยก พล.ต.อ.รอย ไปเป็น เลขาฯ สมช. ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่ประเด็นเซอร์ไพรส์ มีข่าว มีคราวกันมาตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับการจะขยับ บิ๊กจวบ-พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 39 เกษียณอายุราชการปี 2568 ขึ้นแทนที่ ในการแต่งตั้งวาระเดือนเมษายน เพราะเมื่อมีตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ว่างลง 1 ตำแหน่ง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ซึ่ง พล.ต.ท.ประจวบ เป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด
ก็ไม่มีรายการเซอร์ไพรส์เช่นกัน
แต่ที่จะ "เซอร์ไพรส์" หากข่าวลือนี้เป็นจริง ก็คือการปรับแก้กฎ แก้ระเบียบ แก้ระยะเวลาในการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง "ตำรวจ" ระดับ "นายพล"
จากเดิมที่การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี ตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมทั้งตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และจเรตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึงระดับ ผู้บังคับการ (ผบก.)
ต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคมของทุกปี
แว่วๆ ว่า หลังจากการแต่งตั้ง "นายพล" และ "นายพัน" วาระประจำปี 2566 ที่ผ่านมาเสร็จสิ้น ได้เกิดบัญหาการจัดทำบัญชี เกิดอุปสรรค เกิดปัญหาหลายๆ อย่าง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ จึงมีแนวคิดที่จะเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ในข้อกำหนดที่เป็นอุปสรรคเกี่ยวกับการแต่งตั้ง
อันมีข้อมูลจากการแต่งตั้งวาระประจำปี 2566 เป็นตัวตั้งต้นในการแก้ไข
ไฮไลต์สำคัญอีกอย่างที่แว่วๆ ออกมา อาจจะปรับแก้ห้วงเวลาการคัดเลือกหรือแต่งตั้งระดับ "นายพล" โดยแบ่งเป็น 2 สเต็ป คือ แต่งตั้ง "ผบ.ตร." จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนของทุกปี ส่วน รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติลงมาถึง ผบก. จะเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมของทุกปี
ข่าวลือนี้จะเท็จ จะจริง หรือไม่ อย่างไร คงต้องรอดู เพราะนั่นย่อมเกิดแรงกระเพื่อมไปถึง "ผู้มีอำนาจ" จะถูกเตะตัดขา
ทีนี้ก็ต้องวัดใจระดับนโยบายจะกินดีหมีหัวใจเสือแค่ไหนเท่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว


