บันทึกหน้า 4

"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" เดือดต้อนรับปี 67 หลังสื่อดัง “หนุ่มเมืองจันท์” ออกมาตั้งข้อสังเกตชวนคิด ถึงความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย ด้วยการจั่วหัวโพสต์ "แบงก์กำไรสูงสุด 2.2 แสนล้าน อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น-BBL แชมป์" โดยเห็นพาดหัวข่าวของ "ประชาชาติธุรกิจ" วันนี้แล้วอึ้งเลยครับ ผมไม่รู้ว่า “แบงก์ชาติ” จะรู้สึกตงิดอะไรในใจบ้างไหม"

ภายหลังโพสต์ดังกล่าวออกมาปรากฏว่า คนพรรคเพื่อไทยออกมาขานรับกันเป็นทิวแถว แม้แต่นายกฯ และ รมว.คลัง “เศรษฐา ทวีสิน” ยังต้องออกมาแสดงความเห็นว่า จากการที่แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยทั้งๆ ที่เงินเฟ้อติดลบติดต่อกันหลายๆ เดือนนั้น ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเลย และยังมีผลกระทบต่อประชาชนที่มีรายได้น้อย และ SME อีกด้วย 

 “ผมจึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูราคาสินค้าเกษตรบางชนิดให้เหมาะสม เพราะอาจจะต่ำไปก็ได้ และหวังว่าแบงก์ชาติจะช่วยดูแลประชาชน ไม่ขึ้นดอกเบี้ยสวนทางกับเงินเฟ้อนะครับ”

แต่ที่ดุเดือดคือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์ว่า “ธุรกิจที่การแข่งขันต่ำ รวมหัวกัน "ทำกำไรสูง" บนความวินาศของลูกค้า... ถือว่าน่ารังเกียจนัก และที่น่าตำหนิที่สุดคือ "ผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรง" ที่ (ไม่) กำกับดูแล” 

ไม่นับบรรดาคนเพื่อไทยออกมาขานรับข้อเขียนของหนุ่มเมืองจันท์ผ่านโลกโซเชียล พร้อมตั้งคำถามว่า มีแบงก์ชาติไว้ทำไม... อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองวิเคราะห์กันว่า การออกมาเคลื่อนไหว เพราะก่อนหน้าคนแบงก์ชาติเคยออกมาแสดงท่าทีเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ 

จึงต้องดูว่าหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบงก์ชาติ หรือธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะออกมาชี้แจงประเด็นนี้อย่างไรหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มันก็แทงใจประชาชนอยู่เหมือนกัน เพราะหากเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ไม่นับดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่มีอัตราสูงลิบลิ่วมากถึงร้อยละ 16     

เมื่อพูดถึงแบงก์ชาติก็อดสงสัยไม่ได้ว่า นอกจากมีหน้าที่บริหารจัดการให้ระบบเศรษฐกิจ การเงินของประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีเสถียรภาพและยั่งยืน สิ่งที่อยากรู้ ผู้บริหารระดับสูงสุดมีรายได้มากน้อยเพียงใด  

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2566 สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ "ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี 

โดยนายเศรษฐพุฒิและนางวีรวรรณ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวม 254,799,325 บาท มีหนี้สิน 15,225,600 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของนายเศรษฐพุฒิ 179,149,133 บาท ได้แก่ เงินสดทั้งเงินไทยและเงินตราต่างประเทศรวม 488,228 บาท เงินฝาก 15 บัญชี 49,129,873 บาท ในจำนวนนี้มีฝากที่ Morgan Stanley, USA 115,420 บาท และที่ UOB Singapore 6,202,724 บาท เงินลงทุนหน่วยลงทุนในกองทุนทั้งในและต่างประเทศ 76,242,435 บาท ที่ดินมรดก 2 แปลงในเขตคลองตันเหนือ และบึงกุ่ม กทม. รวม 31.9 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3 ล้านบาท ยานพาหนะ 150,000 บาท สิทธิและสัมปทานเป็นประกันชีวิตและเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวม 17,332,596 บาท 

มีทรัพย์สินอื่น 906,000 บาท อาทิ นาฬิกา 3 เรือน สร้อยคอทองคำ 2 เส้น พระสมเด็จ 2 องค์ และพระอื่นๆ 3 องค์ ซึ่งระบุไม่ทราบมูลค่า แหวนสามกษัตริย์ 1 วง เหรียญทองคำในประเทศและต่างประเทศ และมีหนี้สินเป็นเงินกู้ธนาคาร UOB Singapore เมื่อ 3 ต.ค.2562 โดยยังมียอดหนี้เหลือเต็มจำนวน 15,225,600 บาท

ที่น่าสนใจ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติยังแจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 20,803,148 บาท แบ่งเป็นจากเงินเดือน 13,338,859 บาท เบี้ยประชุม 4.72 ล้านบาท บำนาญ 2,344,288 บาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 300,000 บาท เงินปันผล 100,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปีประมาณ 5,750,000 บาท โดยเป็นค่าอุปโภคบริโภค 2.4 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกัน 200,000 บาท ค่าอุปการะบิดามารดา 2 ล้านบาท ค่าท่องเที่ยว 750,000 บาท เงินบริจาค 4 แสนบาท

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้รับเงินเดือน 75,590 บาท และเงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท รวม 125,590 บาท ต่อเดือน หรือปีละ 1,507,080 บาท. 

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

กลายเป็นเรื่องใหญ่เขย่าเก้าอี้นายกฯ ปมคุณสมบัติ "ทนายถุงขนม" พิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังเมื่อวันอังคาร "คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม" ยกพวกบุก กกต.

บันทึกหน้า 4

สะท้อนชัดเจนอีกครั้งหนึ่งถึงการทำหน้าที่ของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เพราะก่อนหน้านี้ในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ใน การประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) “เสี่ยนิด” ก็ส่งงานให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย”

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

บันทึกหน้า 4

เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทย (พท.) ภายหลังโปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 2 ที่มีชื่อ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็น รมว.การต่างประเทศ ตำแหน่งเดียว ถูกริบตำแหน่งรองนายกฯ

บันทึกหน้า 4

ควันหลงการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดดรามามากมาย โดยเฉพาะจากคนที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พ้นกระทรวงสาธารณสุข กลับไปทำงาน สส. รวมถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่หลุดจากตำแหน่งรองนายกฯ

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันอากาศร้อนไม่เท่ากับอุณหภูมิทางการเมืองฮอตปรอทแตก เพราะทันที..ที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศรายชื่อ ครม.เศรษฐา 2