ถูกใจรถใหม่

ประเดิมนั่งรถยนต์ประจำตำแหน่งคันใหม่ของ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียบร้อย หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัว นั่งรถยนต์ส่วนตัว Lexus LM 350h Executive สีดำ ทะเบียน 3 ขส 30 กรุงเทพมหานคร มาทำงานทุกวัน โดยเลข 30 ตามทะเบียนรถนั้นมีความหมายคือ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30

และเจ้าตัวยังเพิ่งขับรถไฟฟ้าส่วนตัวยี่ห้อ  Fiat & Abarth  รุ่น 500 electric  ทะเบียน ศฐ 30 กรุงเทพมหานคร ราคา 2.38 ล้านบาท มาทำงานที่ทำเนียบฯเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย โดยทะเบียนรถดังกล่าวก็มีความหมาย “ศฐ” มาจากอักษรย่อชื่อนายเศรษฐา และ 30 คือนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ล่าสุดได้เวลาประจวบเหมาะ รถยนต์ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคันใหม่ มาส่งที่ทำเนียบรัฐบาลให้นายกฯนิดได้ใช้แล้ว หลังเว็บไซต์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ประกาศสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องประกาศผู้ชนะการเสนอราคาการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จำนวน 1 คัน

โดยรถยนต์ประจำตำแหน่งนายกฯ ของนายเศรษฐา เป็นรถยนต์ All NEW Lexus LM 350h Executive 4-Seater สีเงิน Sonic Titanium ทะเบียน “สร 30 กรุงเทพมหานคร”

ซึ่งตัวย่อทะเบียนรถนั้นมีความหมาย เหมือนเช่นรถยนต์ทุกคันที่นายกฯนิดใช้เช่นกัน โดย “สร” ย่อมาจาก สร.1 คือ นามเรียกขานของ “นายกรัฐมนตรี”  ส่วนเลข 30 คือลำดับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน หมายถึง นายกรัฐมนตรีคนที่ 30

และหลังประเดิมรถยนต์คันใหม่นายกฯนิดก็ใช้ลุยงานทันทีในวันเดียวกัน โดยไปตรวจเยี่ยมอาคารสงเคราะห์กองทัพบกส่วนกลาง (เกียกกาย) เพื่อดูความเป็นอยู่ของกำลังพล และไปตรวจระบบบริการของสนามบินสุวรรณภูมิแบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้า  เมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

และจากได้ทดลองใช้รถยนต์ประจำตำแหน่งคันใหม่แล้ว เจ้าตัวชอบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสีของรถที่ถูกใจสุดๆ นายกฯนิดถึงกับเอ่ยปากว่า “รถเหมือนกับคันเดิมทุกอย่าง ยกเว้นสี ซึ่งส่วนตัวชอบสีเงินนี้มากกว่า”

งานนี้เรียกว่า ได้รถคู่ใจที่ถูกใจ แถมป้ายทะเบียนมีความหมาย ซึ่งคาดว่ารถคู่ใจคันนี้จะมาพร้อมกับภารกิจที่แน่นขึ้นอีกด้วย แหะๆๆ

 

บรรจง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พร้อมปฏิบัติหน้าที่

คัมแบ็คอีกครั้งในตำแหน่งรัฐมนตรีป้ายแดง สำหรับ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จากค่ายรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่เข้าวินรัฐมนตรีช่วยฯ ในรัฐบาล “นายกฯนิด”

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า