ยกเลิก “แบนหนัง”?

เร็วกว่าพรรคการเมือง!

GMM TV โพสต์จดหมาย.. “จากกรณีที่ “ภวิน-ธนิก กมลธรานนท์” นักแสดงในสังกัด GMMTV ได้มีผู้ใช้ บัญชี Account Imstagram: Kaellynnn

กล่าวถึงในเนื้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นทางบริษัทฯ ได้รับทราบถึงกรณีดังกล่าวและไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการเก็บรวบรวมข้อเท็จจริง

หากได้ข้อสรุปต่างๆ แล้ว ทางบริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป

 และหากพบว่านักแสดงในสังกัดมีความผิดจริง จะดำเนินการตามมาตรการขั้นสูงสุดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน”

ครับ..ก็รับทราบกันเอาไว้ ซึ่งจดหมายดังกล่าวนี้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 และรอดูซิว่า “กระบวนการเก็บรวบรวมข้อเท็จจริง” จะใช้เวลากี่วัน?

เอ้า..ส่วนนู่น “สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” จะได้เก็บรวบรวมข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้วหรือไม่ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าเมื่อวานซืนได้โพสต์..

“สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ชวนทุกท่านมาถอดบทเรียนกัน จากกรณีภาพยนตร์ไทยที่ถูกแบน เช่นเรื่อง “เชคสเปียร์ต้องตาย” และ “ Insects in the backyard”

จนมีการฟ้องร้องคณะกรรมการเซ็นเซอร์ และชนะคดี

ท่านคิดว่าประเทศไทย ยังควรมีการแบนหนังต่อไปหรือไม่ จงให้เหตุผล เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาร่างกฎหมายต่อไป #ยกเลิกการแบน #ปลดแอกภาพยนตร์

นี่..ถ้าไม่บอกเป็นสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ผมคงคิดเอาว่าเป็น “สาร” จากพรรคก้าวไกลแล้วล่ะ เพราะมาทรงเดียวกันเด๊ะ..

คือ..การจุดกระแสให้เกิดการถกเถียง เกิดการแตกแยกทางความคิดขึ้นในสังคมด้วยข้อมูล-ข้อเท็จจริงที่บิดเบี้ยว!

บิดเบี้ยว ด้วยเพราะ “Insects in the backyard” ที่เจ้าของหนังฟ้องร้องคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ที่ “แบนหนัง” ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่ง “ยกฟ้อง” นะจ๊ะ!

ส่วน “เชคสเปียร์ต้องตาย” ผมไม่ทราบคำตัดสิน รู้แต่เพียงว่าเรื่องนี้อยู่ในศาลปกครองชั้นต้นมาเป็น 10 ปี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ดองเอาไว้เสียนาน?

บิดเบี้ยวต่อมา.. “คณะกรรมการเซ็นเซอร์” น่ะ ได้ยกเลิกไปนานแล้ว หลังมีการประกาศกฎกระทรวง การกำหนดลักษณะประเภทภาพยนตร์ หรือ “เรตติ้ง” เมื่อ 10 สิงหา. 2552

ซึ่งผู้กำกับบางท่านอาจจะยังศึกษาวิชาภาพยนตร์อยู่ในรั้วมหาลัยก็เป็นได้ จึงไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้!

ความจริง..ควรแบนหนังต่อไปหรือไม่? ไม่ต้องถามความเห็นประชาชนก็ได้ นอกเสียจากเจตนาถามเพื่อให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์..

 จะเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาร่างกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์ใครคณะใด-คณะหนึ่งหรือไม่ ผมก็ชักไม่แน่ใจ?

แต่ที่พอจะมั่นใจ..นายกฯ และกรรมการบริหารสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยุคนี้ ดูจะมีแนวคิด-อุดมการณ์ที่ค่อนข้างเอนอิงไปทางการเมือง ส่วนจะเป็นพรรคไหนคงไม่ต้องบอก

เพราะแค่เห็นแฮชแท็ก #ปลดแอกภาพยนตร์ ก็พอจะเดาออก ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ภาพยนตร์ไทยนั้นถูกควบคุม หรือถูกกดขี่จากผู้มีอำนาจแบบไหน-อย่างไร?

ด้วยผมคลุกคลีอยู่กับแวดวงคนทำหนังมาก็หลายปี รวมทั้งการได้เป็นกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ฯ ในห้วงเวลา 8-9 ปี..

ผมไม่เคยรู้สึกหนังไทยถูกกดขี่ จะมีก็แต่ “นายทุน” ที่พยายามจะ “ขี่” ผู้กำกับ และไม่เคยมี “อำนาจ” จากคนในองค์กร หน่วยงาน หรือรัฐบาล มาชี้นำ หรือบังคับแม้แต่สักครั้งเดียว!

และจากประสบการณ์-ความรู้สึกตัวเอง ผมอยากยืนยันเสียตรงนี้..การกำหนดลักษณะประเภทภาพยนตร์ (เรตติ้ง) ไม่ได้เป็นปัญหาหรืออุปสรรคต่อการทำหนังเลย

ส่วนผู้กำกับที่สนับสนุนให้ยกเลิก “แบนหนัง” ขอถามนิด..ถ้าหนังมีเนื้อหากระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื้อหาก่อให้เกิดการแตกแยกของคนในชาติ

เนื้อหาที่มีการแสดงฉากร่วมรัก เห็นการสอดใส่อวัยวะเพศเหมือนหนังเอ็กซ์ล่ะ..

ทำไง?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชาธิปไตยจอมปลอม

“หาดใหญ่ยังห่างไกลความปกติ.. ขยะเป็นล้านตันไม่ใช่เรื่องที่จัดการง่าย และเรายังลุยต่อกับอีกหลายหน่วยงานในทุกๆ วันค่ะ”

ร่างทรงชาวบ้าน

ว้าวว..ลูกชาย “เจ๊แดง” นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 เพื่อไทย! เสียงเพื่อนบนโต๊ะกินข้าวคนหนึ่งอุทานลั่น ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะหันมองหน้าด้วยความพร้อมเพรียง ก่อนที่อีกคนจะเอ่ยถาม..

‘ขอเวลาอีกไม่นาน’!

คั่นสงครามด้วยข่าวบันเทิง!.. เริ่มที่เจ้าพ่อโหนกระแส “คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” โพสต์ถึงใครก็ไม่รู้.. “ก่อนจะดูถูกคนอื่น ล้างมือล้างตีนตัวเองก่อนดีมั้ย ตีนยังดำอยู่เลย”

‘เด็กเสียนิสัย’?

“สงคราม” ..สนุกแต่เฉพาะในหนังฮอลลีวูด.. นอกจาก “ของจริง” ไม่ใช่เรื่องเล่น-เรื่องสนุก หรือเรื่องที่จะคุยโม้ โอ้อวด เพราะสนามสงคราม คือ “สนามแห่งความเป็น-ความตาย” ของชีวิต (จริง) เหล่าทหารกล้า!

‘ดิสนีย์แลนด์’..ฝันเก้อ?

แก้วตา...หันมาฟังพี่จะบอก เจ้าจงตั้งใจฟังไว้ให้ดี.. คืองี้..เหตุที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน และคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร มีมติไม่ส่งคุณธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ “แก้วตา” ลงสมัคร สส.กรุงเทพฯ ต่อนั้น..

เหลือไว้ความทรงจำ

สงครามมาพร้อมกับ “ซีเกมส์” แต่ด้วย “ซีเกมส์” เป็นการแข่งขันกีฬาของมวลมนุษยชาติที่จัดกันมาต่อเนื่องจนถึงครั้งที่ 33 ในปีนี้-2568