เดินเท้าเปล่า

กลายเป็นเรื่องตื่นเต้นในโลกโซเชียลของคนตะวันตกทีเดียว เมื่อมีวิดีโอไวรัล TikTok ของครีเอเตอร์รายหนึ่งที่แชร์ว่าเธอและสามีปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และรองเท้าของพวกเขาอย่างไรเพื่อให้รู้สึกได้ เชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมของตนมากขึ้น

มีคนดู 4.1 ล้านครั้งบน X (ชื่อเดิมคือ Twitter) และ 50.7 ล้านครั้งบน TikTok ในหนึ่งสัปดาห์ ด้วยหัวข้อ "Barefooting" หรือการเดินเท้าเปล่า

เดือดร้อนบรรดานักวิชาการและคุณหมอสิคะ ที่ต้องออกโรงสะกิดเตือนว่า ก่อนที่จะเลียนแบบหรือทำตามเจ้าของคลิปไวรัลนั้น ควรจะพิจารณาสภาพแวดล้อมของตัวเองให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เพราะไม่ใช่ว่าคิดจะเดินเท้าเปล่าที่ไหนๆ ก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงสถานที่ที่จะลงไปย่ำเท้าหรือเดิน

 มนุษย์ป้าอ่านเรื่องราวนี้แล้ว มีความรู้สึกอยู่ 2 อย่าง อย่างแรก อิทธิพลของไวรัลคลิปนี่มันเหลือร้ายจริงๆ และประการต่อมาคือ ให้รู้สึกแปลกใจว่าฝรั่งมังค่าตื่นเต้นอะไรหนักหนา กับการถอดรองเท้าเดิน!!

แต่แล้วก็มาฉุกคิดได้ว่า วัฒนธรรมของชาวตะวันตกนั้น เขามักจะใส่รองเท้าภายในบ้านกันเป็นนิสัยปกติ หรืออย่างน้อยที่สุดก็สวมถุงเท้า หรือไม่ก็สลิปเปอร์ ฉะนั้นพอมีคนเสนอแนะให้ลองถอดรองเท้า ด้วยเหตุผลว่ามันดีต่อสุขภาพ เขาก็เลยตื่นเต้นทดลองกันยกใหญ่

สำหรับวัฒนธรรมบ้านเรา ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าบ้านต้องถอดรองเท้า บางบ้านถึงขั้นถอดรองเท้าไม่พอ แต่ต้องล้างเท้าก่อนเข้าบ้านอีกต่างหาก ไม่ว่าพื้นบ้านจะเป็นไม้เป็นพื้นหินขัด หรืออะไรก็ตาม และหลายๆ ครั้ง เวลาเราออกไปสนามในบ้าน เราก็จะเดินเท้าเปล่าเป็นประจำ

ด้วยสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง และวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน คุณหมอที่ชำนาญเรื่องเท้าก็เลยแนะนำว่า เราไม่อาจแน่ใจว่าบนพื้นถนน หรือพื้นทราย พื้นหญ้า มีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่จะทำร้ายเท้าเปล่าของเราหรือไม่ ดังนั้น ถ้าใครที่อยากจะถอดรองเท้าทำกิจกรรมต่างๆ ควรจะลองเล่นโยคะ พิลาทิส ยูโด ที่มีกติกาให้เดินด้วยเท้าเปล่า ในสถานที่ที่สามารถไว้ใจได้ว่า เราจะไม่เจอกับอันตรายที่ไม่คาดคิดกับเท้าของเรา

นับว่าเป็นแง่คิดที่น่าสนใจสำหรับคนบ้านเขานะคะ ส่วนบ้านเรา เวลาเดินจงกรมในวัดหรือสถานที่ปฏิบัติ เราก็เดินเท้าเปล่ากัน ซึ่งก็คือการสร้างเสริมสุขภาพไปในตัวโดยอัตโนมัติ จริงไหมคะ.

'ป้าเอง'

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันหยุด...ไม่มีชดเชย

กลับไปเยือนเมืองจีนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากไปมาครั้งสุดท้าย เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ทำบุญ..รู้รักษาสุขภาวะ

ยังคงอยู่วนเวียนอยู่ในเดือนเมษา.หน้าร้อน และเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเกี่ยวเนื่องกับเทศกาลวันสงกรานต์ ที่คนไทยนิยมเข้าวัดเข้าวา เพื่อกราบสักการบูชาและสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่แบบไทย

ของฝาก..จากวัยอิสระ

ห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย เชื่อว่าอย่างน้อยสัก 1 วัน เราจะต้องเข้าไปกราบเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ตามประเพณีอันดีงาม พร้อมๆ กับขอพรจากท่าน

ร้อน..ตับแตก

กรมอุตุนิยมวิทยาท่านประกาศว่า ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายนนี้ ความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

เรารักกรมสมเด็จพระเทพฯ

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนชาวไทยร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทำความดีบริจาคโลหิตในโครงการ “เรารักกรมสมเด็จพระเทพฯ”

หรือ?!?จะเป็นปัญหา..โลกแตก

เพราะโลกไร้พรมแดน จากเทคโนโลยีแสนล้ำทันสมัย ส่งผลให้ทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งข้อดีก็คือ มนุษย์วันนี้ไม่ต้องเสียเวลากับการค้นหา หรือต้องเดินทางไปเพื่อเรียนรู้ แต่ดูเหมือนข้อเสียก็มีไม่น้อย