ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ไม่เกี้ยเซียะจริงหรือ? "ทะแนะแม้ว" นพดล ปัทมะ ช่วงนี้ออกโรงถี่ๆ เคลียร์ประเด็นร้อน "MOU 2544" ป้องทั้งนายใหญ่ นายหญิงน้อย การันตี "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร นำทีมหอบคณะเพื่อไทยบินกัมพูชากลางเดือนนี้ คารวะ "ฮุน เซน" เป็นเรื่องของพรรคล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ไม่มีการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล แค่กระชับความสัมพันธ์ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ส่วนอดีตนายกฯ กัมพูชา นั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเยี่ยมทักษิณถึงจันทร์ส่องหล้า ก็เพราะเป็นเพื่อนกันมา 30 ปี แถมยังเปรียบเปรยสายสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า “เวลาคนเรารักกัน เชื่อมั่นกันและกัน ก็จะคุยกันได้ง่าย เหมือนมีแฟน ถ้าหวาดระแวง ดูโทรศัพท์กันประจำก็จะลำบาก การสร้างความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าความสัมพันธ์ดี สารเคมีตรงกัน ก็จะเจรจากันได้ง่าย จะมาบอกว่าเกี้ยเซียะกันไม่ได้"
๐ "อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่" ความน่าเชื่อถือไม่ได้อยู่แค่คำพูด แต่ดูที่การกระทำมากกว่า ตัวเองก็มีชนักติดหลังอยู่ทนโท่ ไม่งั้นคงไม่ได้นั่งเก้าอี้เสนาบดีบัวแก้วได้เพียงกว่า 5 เดือน หลังก่อวีรกรรม ลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา วันที่ 18 มิ.ย.2551 สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ส่งผลยูเนสโกมีมติเห็นชอบเมื่อ 7 ก.ค.2551 แทนที่จะเป็นการขอขึ้นทะเบียนร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะยังมีข้อพิพาทระหว่างกันในเรื่องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร หลังจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 วันที่ 8 ก.ค.2551 ชี้ว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง คำวินิจฉัยนี้ทำให้ "นพดล" จำต้องลาออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ และถูก ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหาว่า เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยและคนไทยทุกคน และยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถึงแม้ว่าในที่สุดศาลฎีกาฯ มีมติ 6 ต่อ 3 ยกฟ้องข้อหาขายชาติก็ตาม
๐ ถึงว่าการเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ วันก่อนประธานวิปฝ่ายค้านจากพรรคก้าวไกลแบะท่าจะไม่ยื่นซักฟอกรัฐบาลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กระเหี้ยนกระหือรือจะลากขึ้นเขียงให้ได้ จนเจอกระแสตีกลับ ล่าสุด ผู้นำฝ่ายค้าน "ชัยธวัช ตุลาธน" หัวหน้าพรรคก้าวไกล เลยต้องออกมาแก้เกี้ยวปัดพัลวันไม่มีแผ่ว แถมคุยอีกต่างหากว่าข้อมูลเพียบจนต้องคัดออก แต่แค่ชำแหละเล็กๆ อภิปรายแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 รอคิวหลังวุฒิสภาบรรเลงเสร็จ เข้าตำราขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน ของแบบนี้ใครๆ ก็คิดได้ พอทักษิณรีเทิร์น ท่าทีที่อ่อนอยู่แล้วก็พลอยยวบลงไปอีก ขืนไม่ทำอะไรสักอย่าง "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" จะเสียคนเอา ก็เล่นประกาศโรดแมปปาวๆ ว่า เดือน เม.ย. ก้าวไกลจะยื่นซักฟอกแน่ เนื่องจากรัฐบาลทำงานผ่านมาครึ่งปีแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเปิดอภิปราย จ่อฟัน 3 หัวข้อใหญ่ 1.ความล้มเหลวในการบริหาร 2.การประพฤติมิชอบคอร์รัปชัน และ 3.การทำงานช้า น้อย หรือสายเกินไป ไม่ตรงกับความท้าทายของศักยภาพประเทศ พร้อมตบท้ายเท่ๆ ตามสไตล์ "สัญญากับพี่น้องประชาชนว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง”.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



