
ฮื่ออ์อ์อ์...หันไป “เชียร์บอล” ตามที่ “ป๋าเปลว สีเงิน” ท่านชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา น่าจะเป็นอะไรที่เข้าท่า สนุกสนาน มีโอกาสได้กรี๊ดๆ กร๊าดๆ ยิ่งกว่าการ “เชียร์การเมือง” เป็นไหนๆ อีกทั้งด้วยความเป็นชาติ เป็นประเทศ เป็นผู้ที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในแผ่นดินเดียวกัน คงไม่น่าจะมีใครหันไปเห็นดี-เห็นงามกับฝ่ายตรงข้าม หรือหันมา “ชังชาติ” ตัวเอง ให้ต้องเปรี้ยวมือ เปรี้ยวไม้ เปรี้ยวตีน แต่อย่างใด...
------------------------------------------------
คือด้วยเหตุเพราะ “การเมือง” ไม่ว่า ณ วันนี้ หรือปีหน้า ปีโน้น ปีโน้นๆ มันคงไม่น่าจะ “เปลี่ยนแปลง” อะไรมาก ยังน่าจะหนักไปทาง "วนไป-วนมา" เปลี่ยนตัว เปลี่ยนพรรค เปลี่ยน “รูปแบบ”
โดยสิ่งที่ถือเป็น “เนื้อหา-สาระ” คงไม่ผิดแผก-แตกต่างไปจากเดิมๆ มากมายซักเท่าไหร่ หรือยังน่าจะ “ชุ่ย-เพียบพูนด้วยเล่ห์-โง่-และแสนทราม” อย่างที่อดีตนักคิด-นักเขียน นักโหราศาสตร์ คุณลุง “ยอดธง ทับทิวไม้” ท่านเคยให้คำนิยามเอาไว้เมื่อซัก 40-50 ปีที่แล้ว เพราะแม้แต่การเปลี่ยนในแง่รูปแบบก็เถอะ ท่าทางมันน่าจะออกไปทางเลวลงๆ ชุ่ยลงๆ หรือโง่ลงๆ ฯลฯ อันเนื่องมาจาก “สภาวะแวดล้อม” ที่ถือเป็นตัว “ปรุงแต่ง” อุปนิสัย ใจคอ อารมณ์-ความรู้สึกของบรรดา “คนรุ่นใหม่ๆ” ทั้งหลายให้ออกมาในแนวนี้ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง...
-----------------------------------------------
ด้วยแนวโน้มที่น่าจะเป็นไปในแบบเดิม เหมียนน์น์น์เดิม นั่นเอง...มันเลยไม่ส่งผลช่วยให้เกิดความกรี๊ดๆ กร๊าดๆ ซี้ดๆ ซ้าดๆ ซู้ดๆ ซ้าดๆ สำหรับบรรดาปุถุชนคนธรรมดา หรือบรรดานักสังเกตการณ์ทั้งหลาย แต่กลับก่อให้เกิดความห่อเหี่ยว ความอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ไม่อยากจะลุ้น ไม่อยากจะเชียร์ใครต่อใคร ไม่อยากจะถือหางฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน ที่มักก่อให้เกิดความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท ริษยาและชิงชัง ไปแทนที่ แม้แต่ต่อคนชาติเดียวกัน ประเทศเดียวกัน เกิดและเติบโตภายในแผ่นดินกัน หรือแม้แต่พี่ๆ-น้องๆ เพื่อนฝูง ญาติสนิทมิตรสหายในแต่ละครอบครัว แต่ละกลุ่ม แต่ละพวก เอาเลยก็ยังมี ไม่ได้เกิดความสนุกสนาน ความเข้าท่า ความผูกพัน-กลมเกลียว ของผู้ที่อยู่ในชาติเดียวกัน แผ่นดินเดียวกันเอาเลยแม้แต่น้อย...
---------------------------------------------
แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...ในขณะที่ “การเมือง” แทบไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน และยังไม่มีแนวโน้มใดๆ ที่จะเปลี่ยน แต่โดยฉากสถานการณ์ความเป็นไปของโลก หรือแม้แต่สังคมไทยก็แล้วแต่ มันน่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แบบชนิดน่าตกตะลึง พรึงเพริด หรือน่าตาแหก-ตาค้าง ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะในแง่เศรษฐกิจ สังคม ไปจนกระทั่งถึง “การเมือง” จนได้ เศรษฐกิจที่ระบบการเงิน-การทอง การค้า หรือแม้แต่การประกอบการแบบเดิมๆ มันอาจถูกก่อกวน ถูกดิสรัปต์ จนไม่อาจดำรง ทรงตัวได้เลย ถ้าหากไม่คิดจะปรับตัว ปรับสภาพ ให้สอดคล้อง ต้องกัน กับอุปสงค์ใหม่และอุปทานใหม่ๆ ที่มันไปไกลในระดับ 5-G, 6-G หรืออาร์ติฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ ยิ่งเข้าไปทุกที...
---------------------------------------------------
และในเมื่อเศรษฐกิจจำเป็นต้องเปลี่ยน...วิถีชีวิต การทำมาหารับประทานเลี้ยงปาก-เลี้ยงท้อง ยังไงๆ มันคงต้อง “เปลี่ยน” ไปด้วย อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้เลยแม้แต่น้อย เหมือนอย่างที่การ “ทำมา-หากิน” เมื่อยุคร้อยๆ ปีที่แล้ว ต้องถูกเปลี่ยนไปเป็นการ “ทำมา-ค้าขาย” กันไปแทนที่ ส่งผลให้ไม่ใช่แต่เฉพาะ “ปัจเจกบุคคล” เท่านั้นที่จำเป็นต้องเปลี่ยน แต่ถึงขนาด “โครงสร้าง” ของสังคมทั้งสังคม ยังหนีไม่พ้นต้องปรับตัว ปรับสภาพ จนแทบไม่เหลือวิถีทางดั้งเดิม หรือวิถีชีวิตแบบเดิมๆ อีกต่อไปแล้ว แถมยังก่อให้เกิดอุปนิสัย วาสนาและสันดานใหม่ๆ ที่ออกจะน่าเกลียด น่ากลัว หรือออกเป็นอะไรที่ “แทบรับไม่ได้” ยิ่งเข้าไปทุกที...
-----------------------------------------------
ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปในลักษณะทำนองนี้นี่เอง...มันเลยไม่เพียงแต่ส่งผลต่อค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณี แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ “การเมือง” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ หรือทำให้สิ่งที่เรียกว่าการเมืองนั้น ออกจะเป็นอะไรที่น่ารังเกียจ น่าทุเรศ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่การเมืองในแบบที่เรียกว่า “ประชาธิปไตย” อันเคยเป็นสิ่งที่สุดจะสูงส่ง วิเศษวิเสโส มาโดยตลอด แต่มาถึง ณ วันนี้ ณ วินาทีนี้ ไม่ว่าจะประชาธิปไตยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ถือเป็น “ของแท้และดั้งเดิม” มาก่อนด้วยกันทั้งสิ้น กลับเป็นอะไรที่น่ารังเกียจ น่าทุเรศ จนแม้แต่คนในประเทศเดียวกันเอง สังคมเดียวกันเอง ยังต้องยกขบวนออกมาประท้วง ออกมาต่อต้านเรื่องโน้น เรื่องนี้ จนแทบหาความสุข-ความสงบ ความเรียบ-นิ่ง ภายในแต่ละชาติ แต่ละสังคม แทบไม่ได้...
---------------------------------------------------------
ส่งผลให้เกิดความพยายามแสวงหาหนทาง “ปรับเปลี่ยน” กันชนิดอุตลุด ชุลมุน วุ่นวาย เกิดความพยายาม “The Great Reset” กันในระดับโลกเอาเลยโน่นแหละ โดยไม่ว่าจะเปลี่ยนกันในแบบไหนต่อแบบไหน แต่ถ้าหากยังไม่สามารถก่อให้เกิดเสียงกรี๊ดๆ กร๊าดๆ ซี้ดๆ ซ้าดๆ ซู้ดๆ ซ้าดๆ ได้เท่ากับการ “เชียร์บอล” แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะ “ประชาธิปไตย” หรือ “เผด็จการ” มันก็แค่...งั้นๆ เท่านั้นเอง!!! ไม่ได้ช่วยให้ “ช่องว่าง” ระหว่างความรวย-ความจน คนรวยกับคนจน มีโอกาสลดๆ ลงไปมั่ง หรือมีโอกาสเชื่อมประสาน เชื่อมโยงและผูกพันระหว่างกันและกันเอาเลยแม้แต่น้อย ต่างไปจากสังคมยุคดึกดำบรรพ์ ยุคบุพกาล ที่อย่างน้อย...ยังพอหลงเหลือคุณธรรม ศีลธรรม มโนธรรม ที่ช่วยผูกโยงชนชั้นและชั้นชนต่างๆ ให้เป็นอันหนึ่ง-อันเดียวกัน ให้สอดคล้อง-กลมกลืนระหว่างกัน หรือให้เกิด “สามัคคีธรรม” ภายในแต่ละชนชาติขึ้นมาได้มั่ง ไม่ว่ามากหรือน้อย...
----------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...เลยทำให้สู้หันไป “เชียร์บอล” น่าจะเข้าท่าซะยิ่งกว่าเป็นไหนๆ อย่างน้อย...ก็คงไม่ถึงกับทำให้ต้องเสียเวลาโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท ริษยาและชิงชังใครต่อใคร ให้ต้องเปรี้ยวมือ เปรี้ยวตีน กันอีกต่อไป ไม่ว่าแพ้-ไม่ว่าชนะ แต่ด้วยเหตุเพราะ “กีฬา-กีฬา...คือยาวิเศษ แก้กองกิเลสทำคนให้เป็นคนนั่นแล” มันเลยพอที่จะซู้ดๆ ซ้าดๆ ซี้ดๆ ซ้าดๆ และกรี๊ดๆ กร๊าดๆ ไปโดยตลอด ด้วยประการฉะนี้แล...
---------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก “Alston Chase”... “When the search for truth is confused with political advocacy, the pursuit of knowledge is reduce to the quest for power. – เมื่อเกิดความสับสนระหว่างการแสวงหาความจริงกับการสนับสนุนทางการเมือง สิ่งที่ตามมาในความรับรู้ทั้งหลาย ก็จะเหลือเพียงแค่...การแสวงหาอำนาจเท่านั้นเอง...”
---------------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าถึงกับต้องไปถือสาหาความ
ถือซะว่า...ท่านอาจ หาเสียง มาซะจนเคย!!! คือการประกาศจะสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.มาก่อนล่วงหน้า 2 ปีเนี่ย ย่อมมิใช่น้อยๆ
ต้องเริ่มต้นด้วยการทำลาย 'ความเกลียด'
นับตั้งแต่คุณน้า ชัชชาติ บุรุษผู้กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี ท่านแลนด์สไลด์ แอฝะล้านช์ หิมะถล่ม ดินทลาย ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!
เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย
ว่าด้วย...ชัยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
อืมม์ม์ม์...ต้องเรียกว่าทั้ง แลนด์ ทั้ง สไลด์ เอาเลยทีเดียวเจียว สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
จาก กทม.ถึงความเป็นชาติ เป็นสังคมไทย
ขณะกำลังปั่นต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่มีโอกาสรับรู้ได้เลยว่า ตกลงใครเป็นหมู่ เป็นจ่า เป็นสารวัตรกันแน่!!!
ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”
หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น

