ทำไมยูเครนเรียกร้องอยากได้ขีปนาวุธ Taurus ของเยอรมนี?

แปลตรงตัว Taurus คือ “ดาววัว” หรือสัญลักษณ์ของราศีพฤษภ

ความจริงอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐ ได้จัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลให้กองทัพยูเครนอยู่แล้ว แต่ที่เรียกร้องจริงๆ คืออยากได้ เจ้า Taurus ของเยอรมันมากกว่า

แต่สัปดาห์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีบอกว่ายังส่งให้ไม่ได้

เพราะถ้าส่งขีปนาวุธทรงอานุภาพนี้ไปให้ยูเครนก็ต้องส่งทหารไปประกบด้วยเพื่อตั้งโปรแกรมการใช้ระบบนี้

หากเป็นเช่นนั้น เยอรมนีก็กลัวว่าจะถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งกับรัสเซีย

อีกทั้งยังหวั่นว่าหากเยอรมนีส่งอาวุธหนักนี้ไปให้ยูเครน อาจทำให้รัสเซียมีข้ออ้างที่จะยกระดับการโจมตีหนักขึ้นอีก

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ขีปนาวุธร่อนทอรัส ซึ่งยิงโดยเครื่องบินรบ มีความยาวและน้ำหนักพอๆ กันกับขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ของสหราชอาณาจักร และสกาล์ป-อีจี ของฝรั่งเศส

แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างคือ ระบบหัวรบอัจฉริยะ Mephisto ซึ่งต่างจากหัวรบแบบดั้งเดิมที่จะระเบิดหลังจากเวลาที่กำหนด 

เจ้าระบบเมฟิสโตนี้แหละที่สามารถเจาะวัสดุได้หลายชั้น

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อน เพราะมีคลิปเสียงที่รัสเซียอ้างว่าแอบได้มาเมื่อเร็วๆ นี้ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่เยอรมันได้หารือเกี่ยวกับการถล่มสะพานไครเมีย

ในบทสนทนาลับนั้นมีการตั้งข้อสังเกตว่า Taurus ไม่เหมือนกับขีปนาวุธ Storm Shadow/Scalp-EG ตรงที่มันสามารถ "เจาะ" โครงสร้างของเป้าหมายได้ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด

เทคโนโลยีและการออกแบบพิเศษทำให้มันสามารถร่อนได้ต่ำถึง 50 เมตร

สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับจากเรดาร์ส่วนใหญ่

ไปยังยูเครน

Taurus ถูกสร้างขึ้นโดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท MBDA ผู้ผลิตขีปนาวุธรายใหญ่ที่สุดของยุโรปในเยอรมนี และ Saab ของสวีเดน TDW ซึ่งมีฐานอยู่ในแคว้นบาวาเรีย

กองทัพสเปน เกาหลีใต้ และเยอรมนีมีขีปนาวุธ Taurus สำรอง แต่ไม่ถูกนำมาใช้ในสงคราม

อังกฤษ ฝรั่งเศส ไม่เปิดเผยว่าได้ส่งขีปนาวุธไปยูเครนกี่ลูก แต่ก่อนที่จะส่ง Storm Shadows ไปให้ยูเครน อังกฤษมีคลังเก็บมากถึง 850 ชุด

ฝรั่งเศสมีคลังขีปนาวุธ Scalp-EG มากถึง 460 ลูก ก่อนส่งมอบให้กับยูเครน

สหรัฐเริ่มส่งระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก หรือขีปนาวุธที่เรียกว่า ATACMS ให้กับยูเครน เมื่อปลายปีที่แล้ว

ATACMS สร้างโดย Lockheed Martin โดยถูกยิงจากเครื่องยิงภาคพื้นดิน และมีพิสัยการบินสูงสุด 300 กม. แต่ที่ส่งไปให้ยูเครนมีพิสัย 165 กม.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ขีปนาวุธ Taurus รุ่นใหม่จะใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการผลิต

การเพิ่มหรือเริ่มผลิตใหม่ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน

เพราะห่วงโซ่อุปทานยังต้องเพิ่มผลผลิตหรือเริ่มการผลิตส่วนประกอบอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา

แต่รัสเซียก็ไม่ได้นิ่งเฉย เมื่อยูเครนขอ Taurus จากเยอรมนี แม้จะยังไม่มีการส่งมอบ แต่มอสโกก็ได้เพิ่มการผลิตขีปนาวุธพิสัยไกลจากประมาณ 40 ต่อเดือน ในปี 2565 เป็นประมาณ 100 ต่อเดือน ภายในสิ้นปีที่แล้ว

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่กำลังอยู่บนเส้นทางการสืบทอดอำนาจต่อไปอีก 6 ปี ประกาศว่าจะลงโทษยูเครนเพื่อแก้แค้นเหตุโจมตีในช่วงวันเลือกตั้ง

การเลือกตั้งของรัสเซียเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน เพราะเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ครอบคลุมเขตเวลา (ไทม์โซน) รวม 11 เขตนี้

และเป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศสงครามกับยูเครน ที่ปูตินระบุว่ามีการยิงปืนใหญ่ใส่รัสเซียที่ชายแดนฝั่งตะวันตก และมีกองกำลังตัวแทนของยูเครนจำนวน 2,500 นาย พยายามข้ามแดนเข้ามาด้วยรถถัง

ปูตินแสดงอาการโกรธระหว่างประชุมกับสภาความมั่นคงรัสเซียว่า “เราจะไม่ยอมให้การโจมตีของศัตรูไม่ผ่านไปโดยไม่ได้รับการลงโทษ”

ยูเครนอ้างว่าเหตุการณ์นั้นเกิดจากกลุ่มติดอาวุธสัญชาติรัสเซียที่มีฐานปฏิบัติอยู่ในยูเครน และมีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลเครมลิน

เจ้าหน้าที่จากยูเครนยังแจ้งว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีของรัสเซียใส่เมืองท่าโอเดสซาของยูเครนนั้นได้สังหารประชาชนไปอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บอีกมากกว่า 70 คน

ถือเป็นการโจมตีจากรัสเซียที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบหลายสัปดาห์

โดยโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า รัสเซียจะได้รับ “การตอบโต้อย่างสาสม”

ปูตินในวัย 71 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีในรัสเซีย โดยมีผู้ลงแข่งอีก 3 ราย

แต่ก็ไม่ถือเป็นปัจจัยท้าทายอะไรสำหรับปูตินที่จะครองอำนาจสูงสุดต่อไป

สะท้อนถึงการมีอิทธิพลเหนือภูมิทัศน์ทางการเมืองของรัสเซีย แม้ในช่วงเวลาที่สงครามกับยูเครนดำเนินมายาวนานเกิน 2 ปีแล้วก็ตาม

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คนรัสเซียที่มีสิทธิ์ออกเสียงได้มากกว่า 114 ล้านคน

อันรวมถึงประชาชนใน 4 พื้นที่ที่รัสเซียยึดมาจากยูเครนด้วย

การหย่อนบัตรที่ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 3 วัน ต้องเจอกับเหตุปั่นป่วนตั้งแต่วันแรก

สื่อรัสเซียรายงานว่า มีการเทสีใส่กล่องลงคะแนนเสียงในกรุงมอสโก แคว้นไครเมีย และเขตการปกครองคาราชาเยโว-ซีร์คัสเซีย

ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการแสดงออกเพื่อต่อต้านปูติน

อีกทั้งยังมีเหตุปาระเบิดขวดใส่คูหาเลือกตั้งในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บ้านเกิดของปูติน

นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า มีความพยายามจุดไฟเผาคูหาเลือกตั้งในกรุงมอสโกและไซบีเรียด้วย

ปูตินดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองทั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 1999

และยังคงได้รับการสนับสนุนให้มีอำนาจต่อไป

เพราะปูตินสามารถน้าวโน้มให้คนรัสเซียจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเขาได้พารัสเซียกลับมายืนหยัดต่อสู้กับชาติตะวันตกได้อีกครั้งหนึ่งเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมหาอำนาจของรัสเซีย!.