
ปิดสมัยประชุมสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนปิดได้เกิดเหตุการณ์มากมาย เพราะการเมืองในแต่ละวันร้อนแรงไม่แพ้แสงจากดวงอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นวันอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 หรือวันอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้จบเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
โดยสมาชิกรัฐสภาทั้งฝั่ง สส.และ สว.ได้ทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ซึ่งผลงานในฝั่ง สส.ที่มี “รองอ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้แถลงข่าวเปิดตัว MP Profile เป็นการประมวลผลงานสมาชิกสภาทางเว็บไซต์สภา ที่มีการรวบรวมทั้งประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา การทำงานก่อนการเลือกตั้ง ให้ประชาชนสามารถเข้าไปดูได้
โดยทาง “รองอ๋อง” ชี้แจงว่า “ประชาชนสามารถติดตามการทำงานได้ เป็นความโปร่งใสในการทำงาน และเป็นมาตรฐานที่พี่น้องประชาชนใช้พิจารณาในการเลือกตั้งในรอบต่อไป ส่วนเรื่องการขาด ลา สายและเรื่องต่างๆ และเมื่อวันที่ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา สภาได้เปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมสังเกตการณ์การพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปมาตรา 152 มีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมทั้งสิ้น 377 คน
จากการเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์มีความพอใจอยู่ในเกณฑ์ดีและดีมาก และเห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมนี้ ทุกคนประทับใจที่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ ได้ชมบรรยากาศการอภิปราย ได้เห็น สส.และคณะรัฐมนตรีตัวจริงๆ และได้ให้ข้อเสนอแนะที่น่าสนใจกลับมายังสภา ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยมาดูตัวแทนของพวกเขาทำงาน มาดูสถานที่ที่พวกเขาเสียภาษี นี่เป็นการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เราอยากจะสร้างขึ้นให้สภาเป็นสภาของประชาชน”
อย่างไรก็ตาม การทำงานของทั้งฝั่ง สส.และฝั่ง สว. ที่พิจารณากฎหมายร่วมกันในหลายฉบับ แต่กฎหมายล่าสุดคือกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ “หมออ๋อง” ระบุว่า
“สิ่งที่กำลังรอเพื่อจะทำให้เรามีตัวตนในระดับประชาคมโลกได้คือ การแปลกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อสารกับประชาคมโลกว่าเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งตอนนี้ผ่านชั้น สว.แล้ว”
เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นใหญ่โบแดง ที่สะท้อนการทำงานของนิติบัญญัติไทยให้ประจักษ์สู่สายตาโลกอย่างแท้จริง
เอาเป็นว่า เปิดสมัยประชุมสภาใหม่ คงได้เห็นการทำงานของนักการเมืองที่ไม่ทำให้เสียงบประมาณแผ่นดิน เพราะอย่าลืมว่าประชาชนทั่วทั้งประเทศรอกฎหมายที่สำคัญๆ อยู่อีกหลายฉบับ อิอิ.
เจ้าพระพาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ดวงเฮงแม้จมบ๊วย’
ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า หลายคนเริ่มออกเดินทางไปเที่ยวกันแล้ว ยกเว้นนักการเมืองที่ยังวุ่นกันสุดๆ ในตอนนี้ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองบีบคั้น เนื่องจากมีการยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งในช่วงนี้
‘ขออะไรทำให้หมด’
ช่วงนี้เข้าสู่เทศกาลหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะได้มีการจับหมายเลขกันแล้วเรียบร้อย ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองต่างก็กระจายสรรพกำลังลงพื้นที่หาเสียงทั่วทั้งประเทศ
สู้ครั้งสุดท้าย
สนามเลือกตั้งคึกคักทั่วไทย หลังผู้สมัครและทุกพรรคจับเบอร์กันเรียบร้อย ก็ลุยหาเสียงทันที ทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ต่างงัดกลยุทธ์และไม้เด็ดต่างๆ มาสู้คู่แข่ง ที่สำคัญคือนโยบาย ตัวผู้สมัคร และตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ที่จะช่วยกันโกยคะแนน งานนี้ทุกพรรคต่างฟิตสู้ศึกรอบนี้
หลายคนนับถือหัวใจ
ถือว่าสะเทือน หลัง ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุเรื่องสุขภาพ ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.หลายคนถือจังหวะกระโดดหนีไปหาต้นสังกัดใหม่เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ในครั้งนี้
เข้าใจคนชายแดน
ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด
เปิดซีเกมส์อีกรอบ
การเมืองช่วงนี้ทำให้เราเหนื่อยมากพอแล้ว ย้ายมาวงการการเมืองผสมกีฬาหน่อย ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีคนเก่งของเรา ที่ไปสร้างตำนานโป๊ะแตกในงานพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ นี่เอง

