'เดินยังไม่หมด'

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองแต่ละพรรคก็เริ่มจะมีการประชุมใหญ่เป็นปกติ เพราะนอกจากจะทำหน้าที่ในสภาแล้ว นักการเมืองก็ต้องลงพื้นที่ด้วยเช่นกัน ซึ่งพรรคที่เพิ่งจะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ไป นั่นคือ พรรคประชาชาติ ที่เป็นพรรคสังกัดของ อ.วันนอร์ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนปัจจุบัน

และเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ในช่วงเช้า พรรคประชาชาติได้นำสมาชิกพรรคชมอาคารรัฐสภา ซึ่งคนที่เข้ามาอาคารรัฐสภาครั้งแรกต่างตะลึงในความใหญ่โตของอาคารรัฐสภา

โดยก่อนที่ วันนอร์ จะให้โอวาทกับเหล่าสมาชิกพรรคประชาชาติ อ.วันนอร์ แซวเล่นว่า

“มาที่สภาได้รับการต้อนรับที่ดี แต่เดินไม่ดี ตกน้ำไปแล้ว 1 คน นานๆ จะมีคนตกน้ำสักครั้ง ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ สภาเราใหญ่มาก”

ทำให้สมาชิกในห้องต่างหัวเราะกัน เพราะบ่อน้ำในตัวอาคารรัฐสภา ถึงแม้จะตื้น แต่ด้วยความที่เงาเหมือนกระจก ก็สามารถทำให้คนที่ไม่เคยมามองผิดคิดว่าเป็นพื้นกระเบื้องที่ขัดเงาได้

“สภาแห่งนี้ใช้เงินไม่น้อยในการสร้าง ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และห้องทั้งหมดมีทั้งหมดประมาณ 1 พันห้อง ผมก็เดินยังไม่หมด ฝั่ง สส.ประมาณ 500 ห้อง ห้องประชุมกรรมาธิการของ สส.และ สว. ผมคิดว่ามีไม่น้อยกว่า 150 ห้อง ซึ่งทั้งหมดคือที่ทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ หนึ่งในอำนาจอธิปไตย”

ซึ่งภายในอาคารรัฐสภามีบ่อน้ำ หรือที่ทุกคนจะคุ้นชื่อกันในนาม สระมรกต เป็นสระน้ำตรงกลางตัวอาคาร และพื้นผิวน้ำขนาบไปกับพื้น หากวันไหนที่ไม่มีลมพัด น้ำในสระจะนิ่งจนคิดว่าเป็นกระจกก็เป็นได้ โดยก่อนหน้านี้มีคนที่เข้ามาชมอาคารรัฐสภาตกน้ำหลายครั้ง จนคิดกันว่าเป็นเรื่องปกติ

แหม่ๆ ล่าสุดได้มีการนำแถบไฟ LED มาติดรอบสระน้ำ ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ คงต้องเปิดไว้ตลอด เพราะคนก็เดินกันไม่ขาดสาย ทั้งข้าราชการ หรือบุคคลภายนอก ถ้าคนไม่คุ้นชินกับสถานที่ก็อาจจะตกน้ำอีกก็เป็นได้.

 

เจ้าพระพาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า

หนีแสงซะงั้น

ปกติไม่ใช่คนเดินหนีไมโครโฟน แต่เป็นประเภทวิ่งเข้าใส่ นักข่าวมีแรงถามแค่ไหน จะยืนตอบให้ทุกประเด็น สำหรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม