
ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า
แม้ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจะใหญ่โต และแกนนำรัฐบาล พยายามจะป้อนงานต่างๆ ให้ แต่ถึงอย่างไรย่อมไม่สนุกเท่ากับงานกระทรวง
อีกทั้งก่อนตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ชื่อของ สมศักดิ์ เป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีในหลายกระทรวง แต่สุดท้ายจัดกันไม่ลงตัว จึงมาแปะไว้ที่ทำเนียบฯ ไว้ก่อน
จึงไม่น่าแปลกใจ พอมีข่าวปรับ ครม. ชื่อของ สมศักดิ์ จะเป็นตัวเต็งในการกลับไปนั่งทำงานในกระทรวง โดยเฉพาะเก้าอี้ รมว.สาธารณสุข
บางคนเกาหัว สมศักดิ์ เนี่ยนะ จะไปสวมบทหมอ ดูไม่ค่อยคือกัน แต่หากพลิกแฟ้มประวัติรัฐมนตรีในอดีต นักการเมืองดังสุโขทัย ไปอยู่กระทรวงนี้มาแล้ว 2 ครั้ง
ครั้งแรกตอนปี 2535 ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร โดยได้รับแต่งตั้งให้เป็น รมช.สาธารณสุข ที่มีนายบุญพันธ์ แขวัฒนะ เป็น รมว.สาธารณสุข นั่งทำหน้าที่เสนาบดีกระทรวงหมอไป 54 วัน
ต่อมาครั้งที่สอง สมศักดิ์ ขยับเลเวล จาก รมช.สาธารณสุข ขึ้นเป็น รมว.สาธารณสุข ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อปี 2540 แต่อยู่สั้นกว่าเดิมแค่ 15 วัน
เรียกว่า เป็นเสนาบดีกระทรวงหมอมา 2 ครั้ง แต่ยังไม่ทันได้แสดงฝีมือเท่าไหร่ ครั้งนี้ไม่แน่อาจได้ทำลายสถิติตัวเอง
วันก่อนนักข่าวพยายามซอกแซกถามข่าวจะไปนั่งเป็น รมว.สาธารณสุข เจ้าตัวรูดซิปปาก บอกไม่ทราบ ไม่รู้ เพราะต้องให้เกียรตินายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา
หลายคนถอดรหัสนักการเมืองจอมเก๋า ไม่ค่อยอยากพูด สงวนท่าที แสดงว่า มีโอกาสสูง เพราะโดยวิสัยคนอยากได้ แต่ยังไม่ได้ ต้องพยายามพรีเซนต์ตัวเองให้เข้าตา
แต่นี่พยายามอยู่เงียบๆ นักวิเคราะห์การเมืองฟันธง ทรงนี้เข้าวินแล้ว.
ฌ.เฌอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กัดไม่ปล่อย
ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.
‘เซนส์’ ที่ดี
นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว
'เสือกระดาษ' ยามสงคราม
สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
“พบกันในสนามอ่างทอง”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สู้เต็มที่
เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

