บันทึกหน้า 4

 “ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ควันหลงการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดดรามามากมาย โดยเฉพาะจากคนที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พ้นกระทรวงสาธารณสุข กลับไปทำงาน สส. รวมถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่หลุดจากตำแหน่งรองนายกฯ เหลือตำแหน่งกระทรวงบัวแก้วอย่างเดียว ที่สร้างความแปลกใจให้กับแวดวงการเมืองว่าเกิดอะไรขึ้น   

เริ่มที่ “หมอชลน่าน” หรืออดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำพาพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งปี 66  แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่หมอชลน่านเปรียบเสมือนหนังหน้าไฟให้กับพรรคเพื่อไทยในการแสดงละครกับพรรคก้าวไกล ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมถูกสังคมประณาม เหยียดหยาม เย้ยหยัน สารพัด จนต้องแสดงความรับผิดชอบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค และได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตอบแทน

ซึ่งในทางการเมือง หัวหน้าพรรคโดยทั่วไปควรจะมีสิทธิ์เลือกกระทรวงได้เป็นคนแรก และควรจะเป็นคนที่จัดสรรตำแหน่งให้คนอื่น ไม่ใช่ให้คนอื่นมากำหนดอนาคตของตัวเอง 

การที่ผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทยปรับหมอชลน่านออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติอดีตหัวหน้าพรรค เหมือนกับเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล การปูนบำเหน็จเป็นรัฐมนตรีเพียง 7 เดือน ไม่เพียงพอสำหรับความมุ่งมั่นของหมอชลน่าน ในการต่อสู้ให้กับพรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง  

อีกคนก็คือ “ปานปรีย์” มีรายงานสาเหตุที่น้อยใจลาออก เป็นผลมาจากรัฐบาลได้ลดตำแหน่งลงจากรองนายกฯ เหลือแค่เก้าอี้ รมว.การต่างประเทศเท่านั้น เปรียบเหมือนการถูกลงโทษ ทั้งที่ผลงานในช่วงที่ผ่านมาก็มีหลายเรื่องที่ผลักดันออกมาอย่างต่อเนื่อง

ต่างจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายพิชัย ชุณหวชิร กลับถูกตั้งขึ้นมาเป็นรองนายกฯ คนใหม่แทน โดยนายสุริยะให้ควบรองนายกฯ อีกตำแหน่งนอกเหนือจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็เป็นหนึ่งในโควตาพรรค 

แต่กรณีการตั้งนายพิชัยขึ้นมาเป็นรองนายกฯ นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า ทั้งๆ ที่นายพิชัย ก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในพรรคเพื่อไทย และยังไม่มีผลงานอะไร แต่กลับได้ตำแหน่งใหญ่ ทั้งรองนายกฯ คุมเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกระทรวงเศรษฐกิจเบอร์หนึ่งของประเทศ

ขณะที่นายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้มีหน้าที่ทางกฎหมายในการปรับ ครม. ชี้แจงถึงประเด็นดรามาว่าไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวกับรัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่ง แต่ก็เข้าใจได้ว่าคงมีคนผิดหวังและสมหวังอย่างที่บอก และเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องบริหารเรื่องของความคาดหวังและเรื่องของหน้าที่ใหม่ๆ ควบคู่ไปกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย 

ในส่วนนายปานปรีย์ นายกฯ ได้มีการส่งข้อความไปหานายปานปรีย์ บอกว่าขอโทษถ้าเกิด ทำให้ไม่สบายใจเรื่องอะไร ก็ขอขอบคุณที่ช่วยงานกันมา และเรื่องที่ถามว่าได้มีการแจ้งนายปานปรีย์ก่อนที่จะปรับ ครม.หรือไม่นั้น 

“อย่างที่ผมเรียนเมื่อวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเชิญหลายๆ ท่านมาพูดคุยกัน และนายปานปรีย์ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ ท่านที่เรียกเข้ามาพูดคุยกัน ผมเชื่อว่าวันนั้นก็เป็นเรื่องของการสนทนาระหว่างบุคคลสองคนแล้วกัน ผมมั่นใจว่าผมพูดอะไรไป และผมเชื่อว่าในฐานะนายกฯ ผมมีความชัดเจนในเรื่องของการที่ผมได้มีการบอกกล่าวอะไรไป”  

ส่วนหมอชลน่าน “ผมก็เคยพูดว่าพี่หมอชลน่านเองเป็นคนที่ช่วยติวเวลาที่ผมจะลงพื้นที่ รวมถึงการปราศรัยต่างๆ เราก็ต่อสู้ด้วยกันมา แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว หรือมีความขัดแย้งอะไร แต่ก็เข้าใจว่าท่านคงมีความผิดหวัง แต่เดี๋ยวก็คงมีการพูดคุยกัน ก็หวังว่าทุกอย่างจะเดินไปข้างหน้าได้” นายกฯกล่าว และว่า ไม่ใช่ นพ.ชลน่านเพียงคนเดียว ยังมีนายไชยา พรหมา อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ช่วยทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอดในช่วงการเลือกตั้ง

หลังจากนี้ต้องติดตามดูว่า รอยร้าวที่เกิดขึ้นจะยุติหรือขยายเพิ่มขึ้นหรือไม่. 

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่ายังคงเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” อย่างต่อเนื่องทั้งในโลกความจริงและโลกเสมือน โดยเฉพาะในโซเชียลต่างๆ จาก การเสียชีวิตของ “น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม” หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” โดยงานนี้ใครสนใจที่มาที่ไปว่าทำไมบุ้งถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้

บันทึกหน้า 4

สหายอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ของขึ้น! หาว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ข้าวสารค้างสต๊อก 10 ปีในโครงการจำนำข้าว เป็นการด้อยค่าโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง พร้อมขู่จะใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จัดการ

บันทึกหน้า 4

การดึงพืชกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แม้ฉากหน้าบรรดาแกนนำของสองพรรค “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย

บันทึกหน้า 4

เปิดบันทึกช่วงเวลาฝนตกฟ้าร้อง แม้ยังไม่ย่างเข้าเดือนหก แต่เสียงร้องระงมแซงเสียงกบ..อ๊บๆ ก็หึ่งไปทั่วว่าด้วยอีเวนต์กินโชว์ "ข้าว 10 ปี" กินได้กินดี แต่ลงท้ายกลายเป็น "ข้าวเน่า" ไปเสียฉิบ!! เพราะเกิดคำถาม "ได้ไม่คุ้มเสีย" ชื่อเสียงข้าวไทยป่นปี้เละเทะเป็นโจ๊กไปเรียบร้อยแล้ว

บันทึกหน้า 4

ปรับ "ครม.เศรษฐา 2" ไม่ทันไร ไขก๊อกไปแล้ว 2 ราย คนแรก "ปานปรีย์ พหิทธานุกร" กลับโดนลดตำแหน่งโดยไม่แจ้งกันล่วงหน้า ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีที่มีผลงาน เจอวิถีการเมืองไร้มารยาทแบบนี้จำต้องโบกมือบ๊ายบาย

หุงข้าว 10 ปี เลี้ยงครม.

ขอสยบดราม่า สำหรับ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ก่อนหน้าในช่วงเดือนมีนาคม เคยไปตรวจโกดังข้าวที่เก็บข้าวไว้ 10 ปีตามโครงการรับจำนำข้าว แล้วบอกว่า กินได้ แต่กลับได้รับเสียงสะท้อนว่าเป็นการเล่นละครจัดฉาก