การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ต้องรอคอยแต่ต้องเตรียมรับมือ

หรือบุญบังเอิญสำหรับผู้นำรัฐบาลรายนี้เป็นอย่างยิ่ง จะด้วยเหตุเพราะ “ชาติปางก่อน” ได้ทำบุญ ทำทาน เอายาเสน่ห์ ยาชูกำลัง ใส่บาตรพระเอาไว้เป็นกุรุสๆ หรือไม่ อย่างไร ก็ตามที ชาตินี้ หรือมาถึง ณ ขณะนี้ ก็เลยอยู่รอด ปลอดภัยและอยู่ยาวว์ว์ว์ ชนิดชักจะอีเหลนเป๋นยิ่งเข้าไปเรื่อยๆ ทำท่าว่าอาจทำลายสถิติ “ป๋าเปรม” ไม่วันหนึ่ง วันใด เอาเลยก็ไม่แน่ๆ...

--------------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุที่ความเปลี่ยนแปลง ความไม่จีรัง ยั่งยืน ไม่อาจคงทน ถาวร ไปตลอดชั่วนิจนิรันดรกาล ย่อมถือเป็นความจริงแท้ แน่นอน เป็น “กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ” อันมิมีผู้หนึ่ง-ผู้ใด หรือสิ่งหนึ่ง-สิ่งใดสามารถปฏิเสธ หรือสามารถสร้างข้อยกเว้นได้ง่ายๆ การอยู่-การไป การเจ๊ง-ไม่เจ๊ง ของ “บิ๊กตู่” แม้จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม หรือผู้ที่คิดจะโค่นล้ม ทำลาย ใดๆ ก็ตาม แต่ยังไงๆ...มันคงต้องเกี่ยวข้อง พัวพัน อย่างแยกไม่ออก กับฉากสถานการณ์ความเป็นไปของโลก ของสังคมไทย นับแต่นี้ต่อไป ว่ามันจะหนักหนา-สาหัส หนักหน่วง รุนแรง ไปถึงขั้นไหน...

------------------------------------------------------

โดยเฉพาะในเรื่องการ “ป่วยตาย” และการ “อดตาย” นั่นแหละเป็นหลัก...อันเป็นฉากสถานการณ์ที่กำลังบีบคั้น บีบบังคับ ใครต่อใครกันในระดับโลกเอาเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะสังคมไทยเพียงรายเดียวเท่านั้น คือสถานการณ์ที่ท่านเชื้อไวรัสโควิดท่านออกฤทธิ์ ออกเดช ออกอาละวาด แบบชนิดยืดเยื้อ คาราคาซัง ต่อเนื่องมาในระดับ 2 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่สาม ก็ยังไม่คิดจะแล้วเสร็จ ไม่คิดจะหัวตก เหี่ยวปลาย ลงไปเลยแม้แต่น้อย ยังพยายามวิวัฒนาการ ยังพยายามกลายพันธุ์ จาก “เดลตา” ไปเป็น “โอมิครอน” และจะเป็นอะไรต่อมิอะไรอีกเมื่อไหร่ แบบไหน อย่างไร ก็ยังยากซ์ซ์ซ์ที่จะสรุปได้ง่ายๆ...

------------------------------------------------------

ส่งผลให้การ “ป่วยตาย” ระดับนับเป็นล้านๆ ราย พอๆ กับการเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ชนิดระเนระนาด ไม่ต่างอะไรไปจากการตายเพราะสงครามโลก สงครามภูมิภาค ของบรรดามวลมนุษยชาติทั้งหลายในช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เอาเลยถึงขั้นนั้น และด้วยความพยายามที่จะระงับ ยับยั้ง หน่วงเหนี่ยว ถ่วงรั้ง ไม่ให้เป็นอันต้องตายมากมายเกินไปกว่านี้ ก็เลยกลับส่งผลให้หนีไม่พ้นต้องเจอกับการ “อดตาย” กันไปแทบทั้งโลกอีกด้วยเช่นกัน คือเจอกับการผันผวน รวนเร ความปั่นป่วน ชุลมุน วุ่นวาย ในทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษยชาติ มันถูกบ่อนเซาะ ทำลาย ด้วยการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด จนต้องหาทางเลือก หาจุดสมดุล ระหว่างการป่วยตายและอดตาย ไม่ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง อาจต้องพังพินาศลงไปทั้งคู่ เอาเลยก็เป็นได้...

--------------------------------------------------------

อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้รัฐบาลแทบทุกรัฐบาล ต่างหนีไม่พ้นต้อง “อ้วกแตก” กันไปเป็นรายๆ รวมทั้งรัฐบาลท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” ของหมู่เฮา ก็คงไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้แต่น้อย ปัญหาขณะนี้...ก็จึงขึ้นอยู่กับว่า “ผลพวง” หรือ “ผลกระทบ” ที่กำลังจะอุบัติตามมาจากฉากสถานการณ์ดังกล่าว มันจะเตลิดเปิดเปิง หนักหน่วง รุนแรง หนักบ้าง-เบาบ้าง สำหรับแต่ละประเทศ แต่ละรัฐบาล ไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน ยิ่งถ้าเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้ถูกออกแบบให้มีโอกาสรับมือกับความวิปริต ผิดเพี้ยน ในลักษณะดังกล่าวมากมายซักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าในทางการเมือง หรือในทางเศรษฐกิจ หรือรัฐบาลที่เพลิดเพลินอยู่กับความเป็น “ประชาธิปไตย” จนแทบไม่ได้เหลือหมัดเหล็ก หมัดน็อก เอาไว้ในมือเอาเลยแม้แต่น้อย โอกาสจะต้องตายโหง ตายห่า ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ไปพร้อมๆ กับฉากสถานการณ์ใหม่ๆ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

-----------------------------------------------------

ดังนั้น...ทุกสิ่งทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับฉากสถานการณ์ที่ว่านั่นแหละ ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่ ตอนไหน แบบไหน และอย่างไร แม้ว่าในระหว่างนี้ มันยังไม่ถึงกับแสดงตัวตนของมันออกมาอย่างเด่นชัด แต่คงน่าจะอีกไม่นานนับจากนี้ หรือไม่น่าจะเกินปีนี้ ปีหน้า เป็นต้นไป ที่ “ผลพวง” หรือ “ผลกระทบ” มันจะปรากฏให้เห็นแบบจริงๆ จังๆ แบบมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ อันนั้นนั่นแหละ...ที่มันจะกลายเป็นตัวนำเอา “ความเปลี่ยนแปลง” ในลักษณะต่างๆ ทะลักหลั่งควั่งพรูเข้ามาในสังคมแต่ละสังคม ชนิดไม่ใช่แต่เฉพาะตัวบุคคล ปัจเจกบุคคล อย่าง “บิ๊กตู่” เท่านั้น ที่อาจต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลง จนหนีไม่พ้นต้องไปแล้ว-ไปเลย ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี กันตอนไหน เมื่อไหร่ ก็มิอาจคาดคะเนได้ แต่แม้กระทั่งระบบ-ระบอบหรือระเบียบประเพณีต่างๆ อาจหนีไม่พ้นต้องปรับสภาพ เปลี่ยนสภาพ เอาเลยก็ไม่แน่...

---------------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่คงไม่จำเป็นต้องไปตั้งเป้า ตั้งจุดมุ่งหมาย เพื่อหวังโค่นล้ม “บิ๊กตู่” ให้จงได้ ให้ต้องเสียเวลา และเสียเรี่ยว เสียแรง โดยใช่เหตุ เพราะภายใต้ฉากสถานการณ์ใหม่ๆ นั้น ท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” ท่านคงกลับไปนอนเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้านไปก่อนหน้านั้นแล้วก็ไม่แน่ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าจึงน่าจะเป็นเรื่องของการสร้างความพร้อม ความเป็นจริง-เป็นจัง และความไปได้ในการรับมือกับบรรดา “ความเปลี่ยนแปลง” ทั้งหลาย ไม่ให้มันเกิดการเลยเถิด การเตลิดเปิดเปิง ไปสู่สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในลักษณะต่างๆ อันนี้นี่แหละ...ที่จะต้องเร่งมองหา ค้นหา ต้องเตรียมปรับตัว ปรับสภาพ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป...

------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก “Children’s Moral Lesson”... “Look backward, how much has been won, Look round, how much is yet to win, The watches of night are done, The watches of day begin. – จงเหลียวหลังดูว่าเราสามารถเอาชนะอะไรมาบ้างแล้ว จงเหลียวมองรอบๆ ว่าอะไรที่เราสามารถเอาชนะได้อีก การเฝ้าดูกลางคืนว่าจะสิ้นสุดลงไปเมื่อใด การเฝ้ามองการมาถึงของกลางวัน ก็จะเริ่มต้นเมื่อนั้น...”

--------------------------------------------------------