
นับว่าเรื่องนี้ยาวติดต่อกันมาหลายวัน สำหรับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกสว.ระดับประเทศในลำดับที่ 1 แต่สังคมไทยก็ยังมีเรื่องแคลนใจจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยที่เรียน หรือวุฒิการศึกษา ล่าสุดมีคนในโซเชียลได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในหลายทาง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค. เป็นวันที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้รายงานตัววันสุดท้ายสำหรับผู้ที่ได้รับเลือกมาเป็นสว. โดย “หมอเกศ” ได้เข้ามายังอาคารวุฒิสภาเพื่อมายื่นเอกสารเพิ่มเติม เจ้าตัวใส่เสื้อสีขาว สวมสูททับ ใช้เวลาในการยื่นเอกสารและรับบัตรไม่เกินสั้นๆ ไม่เกิน 10 นาที ซึ่งระหว่างนี้มีช่างภาพขอบันทึกภาพ “พญ.เกศกมล” ได้หันมายิ้มให้ แต่ไม่ได้กล่าวอะไร
และเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เกิดเรื่องบังเอิญขึ้นอีกครั้ง เมื่อ “หมอเกศ” เดินทางมายังอาคารรัฐสภาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้าตัวมาที่โรงอาหารของฝั่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หรือฝั่งสส. ซึ่งเป็นอีกอาคารหนึ่งของรัฐสภา แต่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ โดยเจ้าตัวมาอย่างเงียบๆ แต่เรื่องไม่เงียบเพราะเหล่าผู้สื่อข่าวที่ประจำอยู่ที่รัฐสภา วิ่งกรูเข้าหา “หมอเกศ” โดยทันที ทาง “หมอเกศ” ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาคุย และเจ้าตัวก็ยิ้มให้กับผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวไม่ยอมแพ้ได้ตาม “หมอเกศ” จนถึงที่สุดและพยายามที่จะสอบถามว่ามีภารกิจอะไร มายื่นเอกสารอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ “พญ.เกศกมล” ก็ปฏิเสธทุกข้อซักถาม
ผู้สื่อข่าวจึงถามถึงความเห็นเรื่องแพทยสภาฯ ว่าได้เห็นมติหรือไม่ จะมีคำชี้แจงอะไรหรือไม่ “พญ.เกศกมล” ได้แต่ยิ้ม และเดินผ่านไป ก่อนจะขึ้นลิฟต์ที่บริเวณโถงด้านหน้าชั้น 1 โดยมีเจ้าหน้าที่สภาฯ ท่านหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่ลิฟต์จะปิดว่า “มาพบผม”
ทำให้ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่ามาพบเรื่องอะไร เจ้าหน้าที่ท่านนั้นจึงตอบว่า “คุยเรื่องส่วนตัว”
และแล้วเรื่องนี้จึงเกิดเป็นไวรัลเมื่อตอนที่ “หมอเกศ” รับโทรศัพท์ แต่หน้าจอไม่ดับทั้งๆที่เอาไปแนบกับหู เพราะเมื่อทดลองแล้ว ไม่กี่วินาทีโทรศัพท์ก็จะดับอัตโนมัติ
หรือมีข้อสันนิษฐานหนึ่งคือ “หมอเกศ” อาจจะไปตั้งค่าโทรศัพท์อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ทำให้หน้าจอไม่ดับ เรื่องนี้สามารถตีความได้หลายแง่ แต่ยังไงคนในสังคมก็ต้องการฟังข้อเท็จจริงจาก “หมอเกศ” ทั้งสิ้น
แหม่ๆ ถึงแม้ว่า “หมอเกศ” จะออกมาให้เห็นหน้าเพียงแค่ไม่กี่นาที ก็สามารถสร้างมีมได้โดยอัตโนมัติ แต่อย่างน้อยให้สัมภาษณ์สักหน่อยก็ดีนะ นอกจากแจกยิ้มให้สื่อ อิอิ.
เจ้าพระพาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พูดอังกฤษเก่งเป็นเหตุ
สารพัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงนี้ออกมากันหลายสูตร แม้ หนูอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะบอกให้เหล่าเสนาบดีทำใจนิ่งๆ เพราะใดๆ โลกนี้เป็นอนิจจังก็ตาม
“เป็นแมวน้อยอยู่”
กว่า เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล จะนำพรรคภูมิใจไทย มาเป็นพรรคอันดับสองในรัฐบาล ควบคู่ตำแหน่งใหญ่โต อย่างรองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ที่คนการเมืองต่างๆหมายปอง ไม่ใช่เรื่องง่าย รวมถึง ก่อนหน้ายังเป็นรัฐมนตรีหลายสมัยทั้งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการ
ลูกพีชติดคอ
วงการการเมืองท้องถิ่นปทุมธานีร้อนฉ่ากว่าแดดเมืองไทย ตัวเอกของเราคือ “น้องพีช” สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ วัย 28 ปี ผู้สมัคร สท.ธัญบุรี เขต 2 หมายเลข 1 ลูกชายสุดรักของ “นายกเบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์
‘คนกลาง’
เรื่องผลกระทบหลังแผ่นดินไหวไม่ใช่มีแค่ After shock แต่มีประเด็นใหญ่ นั่นคือ เรื่องการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องเงินที่ต้องประเมินจากความเสียหาย หรือเรื่องจิตใจ เพราะมีคนจำนวนมากได้รับผลกระทบ อาจจะทั้งทางตรงและทางอ้อม และเรื่องนี้ประชาชนยังรอคำตอบอยู่
ร่วมฟ้อนบันทึกสถิติโลก
เมืองเชียงใหม่จัดกิจกรรมบันทึกสถิติลงกินเนสส์ เวิล์ด เรคคอร์ด สมโภชเมืองเชียงใหม่ครบรอบ 729 ปี ด้วยการรวมตัวนักฟ้อนนับหมื่นคน ร่วมฟ้อนเล็บมากที่สุดในโลก เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมล้านนา
ชนะแล้วยิ่งลุย
เป็นคำค่อนแคะของชาวบ้านเวลานักการเมืองหาเสียงเลือกตั้ง ชนะแล้วหายหัว ไม่เหมือนตอนเดินมาไหว้ขอคะแนน แต่นั่นไม่ใช่กับ หนูกวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทายาทนักการเมืองคนดังจังหวัดศรีสะเกษ