บันทึกหน้า 4

“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” สัญญาณสนับสนุนให้ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ไปต่อเริ่มเพิ่มขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญกำหนดวันชี้ชะตา 14 ส.ค. ว่าการกระทำขัดรัฐธรรมนูญกรณีแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ 

หลังก่อนหน้าได้ อ.วิษณุ เครืองาม มาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ด้วยเครื่องหมายการันตีสมัยเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาลบิ๊กตู่ ไม่เคยแพ้คดีในศาลรัฐธรรมนูญ

รวมถึงข้อต่อสู้สำคัญในเอกสารปิดคดีของ "เศรษฐา” เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ก็ได้อ้างบันทึกการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ 60 ที่มี "นายมีชัย ฤชุพันธุ์" เป็นประธาน

ช่วงนั้นถกเถียงถึงการตีความบทบัญญัติมาตรา 160 (4) และ (5) แห่งรัฐธรรมนูญ ที่ให้รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติกรรมทางจริยธรรมที่ดี ซึ่ง "มีชัย" ระบุว่า ในเรื่องการขาดคุณสมบัติให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย   

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องสัญญาณทางการเมืองหลังนายกฯ ได้รับ “สัญลักษณ์พิเศษสำคัญ” ก่อนวันสำคัญ และล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. เวลา 18.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกฯ ได้ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมคุณแม่ชดช้อย ทวีสิน มารดานายเศรษฐา ที่วัดเทพศิรินทราวาส โดยมีรัฐมนตรีและ สส.จากพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมงานด้วย โดย “พลเอกประยุทธ์” บอกว่า “นายกฯ เศรษฐา เอาใจช่วยตลอด" และบอกลูกพรรค รทสช. “เกเรไม่ได้นะ” และ “ขอให้ช่วยงานนายกฯ ให้ดีๆ”

คำถามต่อมา หาก “นายกฯ รอด” ช็อตต่อไปจะมีการเช็กบิลทางการเมืองและปรับ ครม.ใหญ่หรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวเตรียมเขี่ยพลังประชารัฐ ปลีก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็หมายถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวกล้อม น้องชายของ พล.อ.ประวิตร 

พร้อมดึงพรรคประชาธิปัตย์จำนวน 21 คน สาย “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค เข้ามาเป็นรัฐบาล และปล่อยให้สายผู้อาวุโสของพรรค ปชป. 4 คน ต้องตรอมใจ เพื่อสนองความสะใจของนายใหญ่พรรคเพื่อไทย   

ขณะเดียวกันยังมีสัญญาณเร็วกว่าแสง และจมูกไว เมื่อ “นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. ทำหนังสือถึงนายกฯ แสดงเจตจำนงว่า สำหรับโควตารัฐมนตรีของพรรค รทสช.ที่ว่างอยู่ 1 ตำแหน่งนั้น หลังจากนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกจากตำแหน่ง รมช.การคลังนั้น 

หากมีการปรับ ครม. พรรคขอเสนอชื่อของ “นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์” สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรค เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากขณะนี้นายเอกนัฏถือว่าไม่มีคดีความติดตัวแล้ว อีกทั้งนายเอกนัฏได้ทำผลงานในการเลือกตั้ง และงานสภาได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ดังนั้น หากนายกฯ จะปรับ ครม. พรรค รทสช.พร้อมเสนอชื่อนายเอกนัฏทันที ทั้งนี้ หนังสือฉบับดังกล่าวได้ส่งถึงมือของนายเศรษฐาแล้วเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา 

สอดคล้องกับเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้ “น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 และเลื่อนให้นายก่อแก้ว พิกุลทอง ขึ้นมาเป็น สส.บัญชีรายชื่อแทน 

วงในบอกว่าสะท้อนให้เห็นว่า “นายใหญ่” การันตีให้ “ลูกสาวเสี่ยแป้งมันโคราช” เป็นรัฐมนตรีต่อไป เช่นเดียวกับ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” “สมศักดิ์ เทพสุทิน” “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ที่ลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อก่อนหน้านี้ และได้รับการยืนยันนั่งรัฐมนตรีแบบยาวๆ มาแล้ว 

ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ อดเหนื่อยแทน “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย (มท.4) ที่ไม่แน่ใจว่าหมดโปรแล้วหรือยัง และเปลี่ยนไปนั่งในสภาแทน เพราะยังมี สส.บัญชีรายชื่อรองก้นอยู่.

 

คางดำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0

บันทึกหน้า 4

ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้

บันทึกหน้า 4

ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล

บันทึกหน้า 4

ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา

บันทึกหน้า 4

บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น