อพิโธ่ อพิถัง กะละมังแตก ตำรวจโรงพักสำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งด่านตรวจค้นรถที่มีชายคนหนึ่งเป็นคนขับผ่านมา ขอตรวจค้นรถเจอซองเกล็ดสีขาวๆ อยู่ภายในรถ ตำรวจชิงจับกุมใส่กุญแจมือทันที กล่าวหามียาเสพติด “ยาเค” ในครอบครอง
ตามคลิปที่ปรากฏ ชายที่ถูกจับรีบปฏิเสธและโทร.หาแม่บอกถูกยัดยาเสพติด ตัวเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พอแม่มาถึงที่เกิดเหตุขอดูของกลางที่ตำรวจยึดเอาไว้ที่บอกเป็นยาเสพติด แล้วแกะซองดมก็ถึงบางอ้อ
“การบูรชัดๆ ฉันซื้อมาใส่ไว้ดมหอมๆ"
ดูข่าวนี้ก็งง เหตุใด “ตำรวจ” ไม่แกะซองออกมาดม ออกมาพิสูจน์ก่อนว่าเป็นยาเสพติดหรืออะไร หรือตำรวจแกะซองแล้วอันนี้ตามข่าวก็ไม่ได้แจ้งไว้
แต่ถึงอย่างไรจะแกะซองหรือไม่ก็ตาม กลิ่น "การบูร" กับกลิ่น "ยาเค" มันต่างกันชัดเจน ไม่ต้องถึงขั้นไปเข้าเครื่องทางวิทยาศาสตร์แยกสารด้วยซ้ำ
เห็นด้วยกับ “โฆษกแรก” พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ออกมาแถลงถึงเรื่องนี้ที่ชาวบ้านวิจารณ์การทำงานของตำรวจ
“เรื่องนี้ต้องกลับมาทบทวนการให้ความรู้เรื่องยาเสพติดตำรวจอีกครั้ง ส่วนการดำเนินการทางวินัยอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าพบว่าบกพร่องก็ดำเนินการไปตามระเบียบ”
ก็ อพิโธ่ อพิถัง คุณตำรวจ แค่ “การบูร” กับ “ยาเค” แยกกันไม่ออกว่าอันไหนยาเสพติด ชาวบ้านก็เอวัง
ครับ...เป็นภาพที่สวยงามที่ได้เห็น พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ นำทีมลูกน้องยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายในสิ่งที่ผิดพลาด และขอนำเรื่องนี้ไปถอดบทเรียน แก้ไข เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก
ถูกต้อง เหมาะสม ปรบมือให้กับความเป็นคนจริงของผู้กำกับและลูกน้อง ทำผิดก็ต้องรับผิด ต้องขอโทษ ไม่เสียหาย ไม่เสียเกียรติ ไม่เสียฟอร์ม
ผู้บริหาร ระดับ ตร. อย่าง “ผบ.ปั๊ด” ซึ่งเป็นพ่อบ้านตำรวจก็ควรจะขอโทษผู้เสียหาย ขอโทษประชาชน ที่คนในบ้านทำผิดพลาด ถ้า “ผบ.ปั๊ด” ไม่ว่าง ไม่สะดวก จะออกมาขอโทษชาวบ้านเอง ก็ให้ “โฆษก ตร.” ซึ่งเปรียบเสมือนกระบอกเสียง “ผบ.ตร.” ออกมา “ขอโทษ” ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ก็น่าจะทำให้ชาวบ้านรู้สึกดีขึ้น
แต่สิ่งที่เห็นคือ “โฆษก ตร.” ออกข่าวเตือนบรรดาผู้ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
“การจับกุมผู้กระทำผิดบ่อยครั้งที่ผู้กระทำความผิดบางรายไม่พอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการสบประมาท ดูถูก อันเป็นการดูหมิ่น เหยียดหยามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติตามหน้าที่ ...จึงอยากเตือนไปยังผู้ที่กระทำดังกล่าว อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ไม่รู้ว่า “โฆษก ตร.” ออกมาเตือนจากเรื่องนี้หรือไม่ หรือจากเรื่องอื่น แต่ถามว่าออกข่าวแบบนี้มาทำไมช่วงนี้ ระวังจะเหมือนคำที่คนจีนมักพูดกัน “เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ” องค์กรสีกากีจะเสียหายไปมากกว่านี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว


