เบื่อ..น่ารำคาญ?

ทำไมพรรคเพื่อไทย ใช้เด็กฝึกงานมาเป็นผู้นำประเทศ?

นี่..ไม่เฉพาะคุณอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ที่ (โพสต์) ถาม แต่ได้ยินใครต่อใครตั้งคำถามกันมาเป็นเดือนแล้ว และมาหนักหน่วงเอาในห้วง 2-3 วันนี้..

หลังจากที่ปรากฏข่าว-ภาพนายกฯ แพทองธารนั่งอ่านจอ iPad ในการเจรจาทางการทูต!

แต่คุณอัษฎางค์นั้น ไม่ได้เพียงถามและอบรม หากยังได้กรุณาแนะนำ “เด็กฝึกงาน” ด้วยความเมตตาอีกเป็นข้อๆ

อย่างข้อ 2 คุณอัษฎางค์บอกว่า.. “เน้นการสื่อสารที่ไม่ใช่คำพูด (Non-verbal Communication): ควรฝึกฝนภาษากาย การแสดงออกทางใบหน้า และการสบตา

เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่เจรจา การสบตาและภาษากายที่เปิดกว้างจะช่วยให้คู่เจรจารู้สึกว่าผู้นำไทยใส่ใจและให้เกียรติในการสนทนา”

ครับ..คุณอัษฎางค์คงลืมไปแล้วว่า อดีตเมื่อครั้งนั่งอยู่หน้าบัลลังก์ศาลนั้น นายกฯ แพทองธารได้แสดงออกทางใบหน้าอย่างไร..

เธอทำท่าเบะปาก แสดงถึงความไม่พอใจในคำพิพากษา จนกลายเป็นภาพจดจำจนถึงวันนี้ไงล่ะ!

ซึ่งข้าทาสบริวาร-พี่เลี้ยง-ที่ปรึกษาในพรรคเพื่อไทย คงจำภาพนั้นได้เป็นอย่างดี จึงเดาว่าน่าจะได้คิดหาทางตัดปัญหาความบกพร่องในการแสดงออกทางใบหน้านั้นเสีย

ด้วยการสั่ง-กำชับให้นายกฯ เด็กฝึกงาน นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านไอแพดในการเจรจา เพื่อป้องกันไม่ให้เธอเงยหน้าสบตาและเผลอ “เบะปาก” ใส่คู่สนทนาเข้ากระมัง?

ส่วนคุณพิชัยก็ดี คุณนพดลก็ดี คุณจิรายุก็ดี ที่ออกมาปกป้องผสมยกยอปอปั้น หรืออวยเด็กฝึกงานนั้น ก็คงไม่ได้รู้ถึงเบื้องลึก-เบื้องหลังของทีมงานผู้กำกับ-คนเขียนสคริปต์..

จึงเลยแก้ต่าง แก้ตัว แถกันไปคนละทิศละทาง ซึ่งป่านนี้ไม่รู้ว่าลูกสาวนายห้างจะตบรางวัลให้อย่างสาสม หรือ “เบะปาก” ใส่กันแน่?

อ้อ..แต่ที่แน่ๆ การแต่งตั้งคุณเต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษานายกฯ จุดประสงค์ก็คงเพื่อเอามาเป็น “กันชน” คอยรับแรงกระแทกจาก (ปาก) คุณตู่-จตุพร พรหมพันธุ์..

ที่ได้ประกาศตัวเป็น “ศัตรู” กับนายทักษิณตราบชั่วฟ้าดินสลาย ไปเมื่อวันก่อน!

ส่วนจะรับมือไหวหรือไม่ก็เอาไว้ตามดูกันไป แต่ในศึกสงครามที่เริ่มก่อตัวนี้ดูแล้วก็ให้หวั่นใจ-หนักใจแทนอำมาตย์เต้นอยู่ไม่น้อย แม้จะได้เปรียบอยู่กับฝ่ายอำนาจก็จริง

แต่เกรงว่าเมื่อประดาบ..ก็เลือดเดือด ยิ่งคำว่า “พี่-น้อง” ได้เจือจางเลือนหายไปนับแต่ทั้งสองสวมคอนเวิร์สเลือกเดิน “ทางใคร-ทางมัน” ด้วยแล้ว..

เห็นจะไม่เหลือความปรานีให้กันแน่ หากต้องมาเผชิญหน้าในท่ามกลางสนามรบ!

เออ..ว่าแต่ที่คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องไปยัง กกต. ขอให้สอบปมนายกฯ แพทองธาร ตั้ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กับคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษา

เป็นการทำผิดมาตรฐานจริยธรรม ทำให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เหตุทั้งสองคนเคยต้องคำพิพากษาจำคุกมาก่อนนั้น

หาก กกต.ตรวจสอบแล้วส่ายหัว หมายถึงข้อเท็จจริงไม่มีมูลก็แล้วไป แต่หากเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องมีมูล แล้ว กกต.ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยแบบฉับไว

ก็..ไม่รู้ว่าอำมาตย์เต้นจะได้ชื่อเป็น “ที่ปรึกษานายกฯ” อยู่ได้สักกี่วัน เพราะศาลอาจมีคำสั่งให้คุณแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย!

เฮ้ออ..ก็เบื่อ-น่ารำคาญนะ ไม่ได้หมายถึงคุณเรืองไกรที่มีประเด็นร้องเรียนไม่เว้นวัน แต่เบื่อ-รำคาญคนที่อยู่เบื้องหลังหรือ “ผู้ครอบครอง” นายกฯ นู่นต่างหาก!

คนมีความรู้ความสามารถมีอยู่ดาษดื่นทั้งในพรรคและนอกพรรคเพื่อไทย ทำไมจึงไม่หยิบจับมาวางให้สมภูมิ สมเกียรติ สมฐานะกับตำแหน่งแห่งหน

ดันไปเอาคนที่มีแผลมีมลทินให้เกิดประเด็นให้เป็นปัญหา อย่างงี้..

นอกจากจะน่ารำคาญแล้ว มันน่า..!?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝากถึง ‘อาจารย์เชน’

“สรรพลี้หวน” (อ่านว่า สับ-พะ-ลี้-หวน).. ใครที่เป็นคนปักษ์ใต้ ก็น่าจะพอได้ยิน-ได้รู้มาบ้างหมายถึงอะไร หรือหากสงสัยด้วยไม่คุ้นตา-คุ้นหูมาก่อน ก็ลองอ่านจากที่วิกิพีเดียบันทึกไว้ก็ได้..

ใครต้องการ?

ธาตุไฟแตกอาการเป็นอย่างไร? ดูได้จากคุณอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ที่โพสต์เมื่อวานนี้.. “การเมืองที่ดี ต้องพาประเทศไปข้างหน้า ไม่ใช่พากลับไปซ้ำรอยเดิม

‘ฝ่ายค้าน’นิรันดร์กาล!

“เวลานี้ด้วยความที่ทุกคนกล่าวขานกันอย่างชัดเจนว่า พวกส้มมาแน่ วันนี้เราจึงเจอปฏิบัติการ IO ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารพยายามทำลายดิสเครดิตพรรคประชาชนกันอย่างถ้วนหน้า

‘ทนาย’..ไม่ต้อง!

เรื่องใกล้ตัว! บางคนท่านอาจเคยมีประสบการณ์ทั้งกับตัวเอง ทั้งกับการที่ตาได้แลเห็น ผมหมายถึงกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทะเลาะกันหน้าร้านสะดวกซื้อ

เหตุเกิดที่‘ไทยพีบีเอส’

“ช็อกตาตั้ง” ครับ! เปล่า..ไม่ได้ช็อกที่ทัพเซปักตะกร้อ “ทีมเดี่ยวชายไทย” พลาดท่าแพ้ให้กับเวียดนาม 1-2 เซต ชวดเข้าชิงชนะเลิศเซปักตะกร้อ ทีมเดี่ยวชาย กีฬาซีเกมส์ 2025 นั่นหรอก!