อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่ง เดอะวิสดอมกสิกรไทย ระบุว่า เศรษฐกิจอินเดียได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐ จีน เยอรมนี และญี่ปุ่น และฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ อินเดียจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
และยังระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญจากภาคเกษตรกรรมไปสู่ภาคบริการและภาคดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยี fintech ก็เป็นหนึ่งในภาคที่เติบโตเร็วที่สุด การเปลี่ยนแปลงนี้ได้สร้างโอกาสใหม่ๆ และดึงดูดการลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก
ด้วยประชากรที่มากกว่า 1.42 พันล้านคน (ข้อมูลจาก World Bank ณ เดือนธันวาคม 2565) ซึ่งสร้างฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสำหรับการบริโภคสินค้าและบริการ นอกจากนี้ อินเดียยังมีกลุ่มประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีการศึกษาสูงและมีทักษะที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
อีกทั้งการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจอินเดียไปสู่ภาคบริการและดิจิทัลได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการพัฒนาในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการเงิน ทำให้เศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียได้แสดงความมุ่ง ส่งเสริมธุรกิจและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผ่านการปฏิรูประบบราชการ กระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายเหล่านี้ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับการลงทุนและการเติบโตของธุรกิจ นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลอินเดียสนับสนุนให้ครัวเรือนสะสมเงินออมสำหรับวัยเกษียณผ่าน Systematic Investment Plans (SIPs) ซึ่งเป็นแผนการลงทุนที่ช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับการลดหย่อนภาษี พร้อมทั้งมีระบบการลงทุนแบบประจำทุกเดือน นโยบายนี้ส่งผลให้เงินทุนในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความมั่นคงให้กับตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับตลาดหุ้นอินเดียในระยะยาวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยแวดล้อมข้างต้นเป็นส่วนผลักดัน ทำให้ที่ผ่านมานั้นมีต่างชาติเข้าไปลงทุนในอินเดียเพิ่้มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ การผลิต และพลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียยังมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น การลดข้อจำกัดทางกฎหมายและการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่ง ชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) หนึ่งในนักลงทุนไทยที่ควักกระเป๋าลงทุนเบื้องต้น 300 ล้านบาทปักหมุดตั้งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารในเมืองปูเน่ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 7-8 ของประเทศอินเดีย และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินเดียทางฝั่งตะวันตก รองจากเมืองมุมไบ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐมหาราษฏระ เป็นศูนย์กลางของความเจริญ อินเดียฝั่งตะวันตกเป็นพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศที่ประชากรมีกำลังซื้อสูง มีรสนิยมที่ทันสมัย และเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มากกว่าพื้นที่อื่น ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมากที่สุดสำหรับค้าปลีกสมัยใหม่ โดยเฉพาะเมืองมุมไบ และเมืองปูเน่
ชัยวัฒน์ ระบุว่า โรงงาน เอกา โกลบอล อินเดีย เรียกว่า นิคมอุตสาหกรรมของรัฐมหาราษฏระ ซึ่งทางรัฐสนับสนุนนักลงทุนชาวต่างชาติโดยลด VAT ได้ อย่างของไทยลงทุนเท่าไหร่ก็ไปหักภาษีเงินได้นิติบุคคลตามจำนวนการลงทุน เช่น ลงทุน 100 ล้านบาท ก็สามารถหักภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ถึง 100 ล้านบาท ที่อินเดียเขาใช้ลด VAT ลด GSP โดยเขามี GSP 2 ตัว คือสำหรับประเทศที่รัฐบาลกลางเก็บ กับอีกประเภทคือ GSP สำหรับรัฐ เก็บสองต่อเลย โดยรัฐโลคัลที่นี่สนับสนุน โดยหากเราลงทุนที่รัฐมหาราษฏระจำนวนเท่าไหร่ก็ไม่รู้แหละ อาจจะ 200 ล้าน 100 ล้าน ก็สามารถนำเอาเงินลงทุนตรงนี้ไปหัก VAT ได้ภายใน 10 ปีเท่าๆ กันให้หมด อย่างเช่น ลงทุน 300 ล้านรูปี ปีหนึ่งก็สามารถหัก VAT ได้ประมาณ 30 ล้านรูปี หักปีละประมาณ 9%
ดังนั้น อินเดียจึงเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีความต้องการที่หลากหลาย จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปลงทุนในอินเดีย รวมถึงการส่งออกสินค้าและบริการของไทยในหลายภาคส่วน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดันSMEอีอีซีบุกตลาดตปท.
ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะยังไม่ได้พูดถึงโครงการพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี มากนัก เนื่องจากคงจะยุ่งกับการบริหารงานในแนวทางอื่นๆ อยู่ แต่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
โรงไฟฟ้าฟอสซิลต้นทุนพุ่งโตช้า
ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าฟอสซิลยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2568 ความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจจะโต 1% ชะลอลงจาก 2.8% ในปี 2567 จากการใช้ไฟฟ้าในภาคการผลิตและภาคบริการที่เพิ่ม
เคลียร์ปมสถานีอยุธยา
เมื่อพูดถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ไฮสปีดเทรนไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) พบว่าปัจจุบันงานโยธาทั้ง 14 สัญญาคืบหน้าไม่สอดคล้องกัน รวมทั้งปัจจุบันยังมีอีก 2
แจกเงินหวังคะแนน
เก็บตกการประชุม ครม.ในสัปดาห์นี้ ตอนแรกก็รอลุ้นโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 2 ที่ช่วงเช้า นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาให้ข่าวว่า จะให้ที่ประชุมอนุมัติในวันนี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นรอเก้อ เพราะ ครม.ไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้ เนื่องจากยังติดขัดปัญหาบางประการ
เทรนด์Pet Parentบูมไม่หยุด
คงต้องยอมรับว่า Pet Parent ยังคงเป็นกระแสนิยมในปัจจุบัน สะท้อนแนวโน้มและรูปแบบการเลี้ยงสัตว์ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงสมือนคนในครอบครัว ยิ่งกว่านั้น
ปี 67 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยหืดจับ!!
ปี 2567 เป็นอีกปีที่มีความท้าทายอย่างมากสำหรับ “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ที่ยังคงเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นปัจจัยที่กดดันการเติบโตของธุรกิจ ซึ่ง KKP Research