“พี่-น้อง”..ทางเดินที่ถูกกำหนด!

เจ้าตัวจะยืดอกยอมรับรึไม่..ไม่รู้!

รู้แต่..ประโยค “ผมเชื่อว่าสังคมไทยมีประสบการณ์ อ่านขาดว่าเรื่องนี้คือการเมืองของฝ่ายขวาสุดขอบ ซึ่งรัฐบาลยังต้องรับมืออีกหลายขนาน” ของคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

หลายคนมองว่าเป็นการกระแทกเข้าใส่คุณตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตพี่น้องเพื่อนร่วมรบ เพื่อหวังผลักให้เกิดภาพ “ฝ่ายขวาสุดขอบ” ที่อยู่ตรงข้ามกับประชาธิปไตย เป็นแม่นมั่น!

และนั่น..ก็จากการที่พี่ตู่ของน้องเต้น เกาะติด ตามขยี้บี้บดเรื่องของ MOU 44-เกาะกูดแบบไม่ละ-ไม่วางมือสักวันเดียว!

ซึ่งป่านนี้ พี่ตู่ก็คงจะได้ออกมาเฉลยให้ได้ฟัง-ได้รู้กันไปแล้ว หรือถ้ายัง ก็เชื่อว่าวันนี้ตะวันไม่ทันตกดิน คุณจตุพรต้องเปิดปาก..

จะยอมรับ “เป็นขวาตกขอบ” หรือจะเป็น “ก้อนกรวด” ในรองเท้านายทักษิณ เชิญน้องเต้นปูเสื่อรอฟังได้เลย!

ไม่แน่นะ พี่ตู่อาจมีของแถมให้น้องเต้นได้ซี้ดซ้าดก็เป็นได้ เพราะเมื่อเปิดหน้ากันอย่างนี้แล้ว จะเกรงใจ-ถนอมไมตรีอยู่ทำไมอีกเล่า?

อ้อ..แต่เรื่องนี้ไม่ต้องปูเสื่อรอ (นาน) เพราะหลังแฟนเพจ “คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี” โพสต์ข้อความ..

 “พระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ซุกเลี้ยงอยู่หรู ขอเงินได้เงิน ขอรถได้รถ โอนแล้วแถมเงินสดใจป๋าสุดๆ” ไม่ทันไร

ล่าสุด..พระปลัดใจป๋า-รองเจ้าอาวาสรูปนั้นก็ได้ชิงลาสิกขาไปเป็นที่เรียบร้อย โดยนายสมพร จันอุด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) มหาสารคาม กล่าวว่า..

ภายหลังจากทราบเรื่องดังกล่าวทางสำนักพุทธก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งให้กับคณะสงฆ์ต้นสังกัดและเจ้าอาวาสให้ทราบเมื่อช่วงเย็นวานนี้

ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของกระบวนการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะปกครองในปัจจุบัน ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาให้ได้มีโอกาสได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงท่ามกลางคณะสงฆ์

คณะสงฆ์ได้เรียกพระรูปดังกล่าวเข้าพบ และได้สอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พระเห็นว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่พระศาสนาและวัดอย่างกว้างขวาง จึงลาสิกขาไปแล้ว

เมื่อพระท่านลาสิกขาแล้ว ก็ถือว่ากระบวนการของสงฆ์เป็นอันสิ้นสุด เรื่องของการปกครองคณะสงฆ์ถือว่ายุติ”

เอ้าเหรอ..ยุติ หมายถึงพระรูปนั้นสึกออกไปใช้ชีวิตคู่ผัวตัวเมียกับสาวที่เปย์ไม่อั้นแบบชิลๆ สบายๆ อย่างนั้นสินะ?

อืมม..ก็ง่ายดี แต่ด้วยพฤติกรรมแบบนี้ กับบทลงโทษแค่สึกหรือยินดีสึกเองแบบนี้ ไม่คิดกันบ้างรึว่า ต่อไปภายภาคหน้า..

ไม่ว่าจะวัดป่า-วัดเมือง จะเต็มไปด้วยมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาเป็นพระ เพื่อหวังกอบโกยเงินจากญาติโยมใจบุญ ไว้ปรนเปรอ-เปย์ผู้หญิงแลกกับการมีเพศสัมพันธ์!

เพราะแม้จะถูกจับได้ไล่ทันเอากับสีกา ก็แค่กล่าวคำ “ลาสิกขา” แล้วออกไปใช้ชีวิตหรูหรา (จากเงินบุญ) แบบสุขี-สุขัง..

ไม่ต้องเสี่ยงคุก-ถูกยึดทรัพย์เช่น “บอสพอล-บอสดารา” ที่ก็มีพฤติกรรมหลอกต้มตุ๋นผู้คนไม่ต่างกันแต่อย่างใด!

นี่..พูดไป-บ่นไปก็ทุกข์ใจตัวเองเปล่าๆ อีกอย่างวิจารณ์เรื่องพระ-เรื่องสงฆ์ก็เหมือนกับยืนอยู่บนขอบเหวนรก ในเมื่อผู้มีอำนาจ-รัฐบาล ไม่เดือดร้อนใจ ไม่คิดหาหนทางแก้ไข

แล้วผมจะเอาตัวเองไปแบกทุกข์-ไปเดือดร้อนกับมันทำไม จะมี.. “พระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ซุกเลี้ยงอยู่หรู ขอเงินได้เงิน ขอรถได้รถ โอนแล้วแถมเงินสดใจป๋าสุดๆ” สักกี่ร้อยกี่พันวัด

ก็..ขออนุโมทนาสาธุการแล้วกัน และสื่อเองก็ไม่ควรนำเสนอข่าวอีกต่อไป เพราะอ่านแล้ว-ดูแล้ว พุทธศาสนิกชนก็มีแต่ความสังเวช หดหู่ หงุดหงิด-อารมณ์ขุ่นมัว..

นอกเสียจากมีกฎหมาย พระปี้สีกา มีโทษจำคุกสัก 10 ปีเมื่อไหร่นั่นแหละ สื่อถึงค่อยรายงานข่าว เพื่อชาวบ้าน-สาธุชนจะได้ยกมือท่วมหัว..

สาธุ.. ติดคุกเสียให้เข็ด!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชาธิปไตยจอมปลอม

“หาดใหญ่ยังห่างไกลความปกติ.. ขยะเป็นล้านตันไม่ใช่เรื่องที่จัดการง่าย และเรายังลุยต่อกับอีกหลายหน่วยงานในทุกๆ วันค่ะ”

ร่างทรงชาวบ้าน

ว้าวว..ลูกชาย “เจ๊แดง” นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 เพื่อไทย! เสียงเพื่อนบนโต๊ะกินข้าวคนหนึ่งอุทานลั่น ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะหันมองหน้าด้วยความพร้อมเพรียง ก่อนที่อีกคนจะเอ่ยถาม..

‘ขอเวลาอีกไม่นาน’!

คั่นสงครามด้วยข่าวบันเทิง!.. เริ่มที่เจ้าพ่อโหนกระแส “คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” โพสต์ถึงใครก็ไม่รู้.. “ก่อนจะดูถูกคนอื่น ล้างมือล้างตีนตัวเองก่อนดีมั้ย ตีนยังดำอยู่เลย”

‘เด็กเสียนิสัย’?

“สงคราม” ..สนุกแต่เฉพาะในหนังฮอลลีวูด.. นอกจาก “ของจริง” ไม่ใช่เรื่องเล่น-เรื่องสนุก หรือเรื่องที่จะคุยโม้ โอ้อวด เพราะสนามสงคราม คือ “สนามแห่งความเป็น-ความตาย” ของชีวิต (จริง) เหล่าทหารกล้า!

‘ดิสนีย์แลนด์’..ฝันเก้อ?

แก้วตา...หันมาฟังพี่จะบอก เจ้าจงตั้งใจฟังไว้ให้ดี.. คืองี้..เหตุที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน และคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร มีมติไม่ส่งคุณธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ “แก้วตา” ลงสมัคร สส.กรุงเทพฯ ต่อนั้น..

เหลือไว้ความทรงจำ

สงครามมาพร้อมกับ “ซีเกมส์” แต่ด้วย “ซีเกมส์” เป็นการแข่งขันกีฬาของมวลมนุษยชาติที่จัดกันมาต่อเนื่องจนถึงครั้งที่ 33 ในปีนี้-2568