นิราศเมืองสงขลา

เคลียร์แผงร้านค้าบนฟุตปาธ ล้างทำความสะอาดพื้นที่บริเวณ “ตลาดกิมหยง” ถนนศุภสารรังสรรค์ ชนิดเรี่ยมเร้เรไร ประดุจเปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ!

เป็นการคืนพื้นที่สาธารณะ-ทางเท้า ให้ประชาชน-นักท่องเที่ยว แขกไป-ใครมาได้เดิน-ทอดน่องด้วยความสะดวกและปลอดภัย!

เนี่ย..เห็นแล้วก็ปลอดโปร่งโล่งตา สบายใจ และหวังว่าคณะผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ (ชุดนี้) จะได้เดินหน้าอย่างขยันขันแข็ง..

ลุยปรับทัศนียภาพหาดใหญ่ให้ไฉไล สะอาดหมดจดทุกซอก-ทุกซอยทั่วเมือง ก่อนจะได้ทันร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่กันนะครับ!

เบิ่งดูเมืองหาดใหญ่ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกตั้งให้เป็น “จังหวัดหาดใหญ่” แล้ว ก็ขอเถลไถล แฉลบไปที่ตัวจังหวัดสงขลาหน่อยละกัน

ที่นั่น..ยังคงเข้มขลังตามแบบฉบับ “เมืองเก่า” ที่คงรักษาไว้เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสพธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร..

นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งเที่ยว-แหล่งกินที่เป็นที่นิยม และถ้าจะให้รู้สึกไปถึงเมืองสงขลาจริง ก็อย่าลืมต้องไปถ่ายรูปกับ “นางเงือก” ที่ริมหาดสมิหลา ด้วยล่ะ!

ที่พัก-โรงแรม ถ้าเก่าแก่สุดก็ต้อง “บีพี สมิหลา” สนนราคายังพอกล้าควัก-กล้าจ่าย แม้จะไม่หรูหราทันสมัย..

แต่ยังคงสะอาด สะอ้าน แถมอาหารเช้า..ยังครบเครื่อง-คงเอกลักษณ์รสชาติปักษ์ใต้ทั้งอาหาร-ขนมอย่างสมบูรณ์แบบ!

หรือหากจะแวบไปสูดอากาศปลอดโปร่ง พลางดูทิวทัศน์ทะเลสาบสงขลา ก็ต้อง “เกาะยอ” นู้น และผมขอแนะนำเลย ไปแล้วต้องไปให้ถึง “เดอะ พราวด์” ครับ

ขอบอก..เป็นห้องอาหาร-คาเฟ่ที่โอ่อ่าหรูหรา วิวพาโนรามา สวยงามเหมาะกับการถ่ายรูป (อวด) แต่ต้องปีนลิฟต์ขึ้นไปนะถึงจะได้สัมผัส!

แวะกลับเข้ามาที่ตัวเมืองยามเย็นย่ำ ก็ไปทอดน่องเดินชมงานอาร์ต-งานศิลปะ พร้อมชิมอาหารคาว-ขนมหวานที่ “ถนนนางงาม” เสียหน่อยเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์

และที่ต้องย้ำเตือนเอาไว้เลย มื้อเช้าต้องไปร้านข้าวสตู “เกียดฟั่ง” อยู่ที่ถนนนางงามนั่นแหละ นั่งเบียดๆ กันหน่อย แต่อร่อยสุด ไม่ว่าจะสตูหมู ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ

และไม่ควรพลาดสั่ง “ซาลาเปาลูกใหญ่” ..เห็นแล้วอาจตกใจ แต่รับรอง คนเดียวเคี้ยวเพลิน แป้งนุ่ม ไส้เยอะ หมูฉ่ำ หรอยจังหู้!

อิ่มแล้ว..ก่อนแดดเปรี้ยง ไม่ว่าจะสายบุญหรือสายมู อยากให้นั่งรถไปที่วัด “ทรายขาว” ต.ทุ่งหวัง อ.เมืองสงขลา ที่อยู่ไม่ใกล้-ไม่ไกล ไปดูความคืบหน้าของการสร้าง “หลวงปู่ทวด”

ที่หลังประกอบพิธี “ยกหน้าตักหลวงพ่อทวด” ชิ้นแรก ขึ้นสู่อาคารประดิษฐาน เป็นชิ้นปฐมฤกษ์ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567

ตอนนี้ก็ได้มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าพิธียกหลวงพ่อทวด “เต็มองค์” ที่ท่านพระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ จิตตปาโล เจ้าอาวาส กำหนดไว้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปีหน้า จะแล้วเสร็จทัน..

ถ้ายังไงก็จองตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้า และหาโรงแรมในตัวเมืองสงขลาหรือหาดใหญ่เสียแต่วันนี้..

ขืนลังเล-ชะล่าใจ นอกจากตั๋วเครื่องบินที่ขึ้น-ลงตามอำเภอใจของสายการบินจะแพงมหาโหดแล้ว ที่พัก-โรงแรมก็อาจจะแพงตามได้..

แล้วไว้ไปร่วมพิธีกันนะครับ!.

สันต์ สะตอแมน