คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่..

มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

ถาม..เพราะคิดถึง รำพึงด้วยเห็นใจ-สงสาร เสมือนหนึ่ง “ทหารผ่านศึก” ที่ถูกลืม ซึ่งก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แม้จะได้ยิน-ได้ฟังอยู่บ้างว่าที่ทั้งสองหลบหน้าหายไปจากพื้นที่ข่าว..

ด้วยนักโทษเทวดาไม่ชอบขี้หน้า หรือจะพูดว่า “โกรธ-อาฆาตแค้น” ก็เห็นจะไม่ผิด จึงได้สกัดกั้นทุกวิถีไม่ให้อดีตนักรบข้างกายลุงตู่ได้เข้าไปนั่งในสภา หรือมีบทบาทตำแหน่งแห่งหน

ทำไมลุงตู่จึงทิ้งขว้างได้ลงคอ? หลายท่านอาจตั้งคำถามด้วยสงสัย หรือบ้างก็มองลุงตู่ไร้น้ำใจ ไม่คิดจะปกป้องดูแลช่วยเหลือทหารร่วมรบ

ซึ่งก็มีสิทธิ์จะมอง-คิดไปได้ ผมเองก็เช่นกัน แต่จะให้ (บังอาจ) ถามเอากับลุงตู่ตรงๆ ก็ดูกระไรอยู่ จึงได้แต่หวังและภาวนา ลุงตู่จะยังคงเหลือบตาแล..

ไม่ปล่อยให้ทั้งสองเคว้งคว้างอ้างว้างเป็นแน่!

ส่วนคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หากมีโอกาส มีช่องทางที่จะฉุดให้คุณแรมโบ้-คุณอ้น ทิพานัน ได้กลับมามีตำแหน่งแห่งหนก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี!

และหรือหากเป็นไปตามคุณตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ คาดการณ์.. “นายพีระพันธุ์ มีแววจะถูกปรับออกจาก ครม. แม้จะมีภูมิต้านทานจากสังคม เพราะความนิยมเริ่มขยับเพิ่ม

เพราะนายพีระพันธุ์ต้องการล้างบางทุนผูกขาดน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้าที่มีสัมพันธ์แน่นหนากับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย คงมีแต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้พีระพันธุ์รอดได้..”

ก็..อยากให้คุณพีระพันธุ์ได้เรียกใช้บริการของคนทั้งคู่ เพราะยิ่งอยู่ในซีก “ฝ่ายค้าน” ด้วยแล้ว ดูเป็นงานถนัดของคุณแรมโบ้-คุณทิพานันเลยเชียวล่ะ!

อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับ “ปาฏิหาริย์” จะมีอยู่จริงหรือไม่? แต่ก็ให้สงสัย..นายทักษิณจะกล้าหักด้ามพร้าด้วยเข่ากระนั้นหรือ?

ครับ..ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของ “หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)” ที่แต่ละปีจะได้ออกปาก (โพสต์) เชิญชวนให้ประชาชนคนไทย..

ร่วมเสนอชื่อ 1 ภาพยนตร์ไทยในดวงใจ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกภาพยนตร์ของชาติ” ประจำปี 2568!

โดยเสนอภาพยนตร์เรื่องใดก็ได้ท่านละ 1 เรื่อง ไม่จำกัดประเภทภาพยนตร์ เพียงเป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับคนไทยหรือถ่ายทำโดยคนไทย

สำหรับภาพยนตร์ที่ท่านเสนอจะถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกร่วมกับภาพยนตร์ในคลังอนุรักษ์ของหอภาพยนตร์ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติประจำปี

พิจารณาโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ จากหลักเกณฑ์การเป็นภาพยนตร์ที่มีคุณค่าบันทึกประวัติศาสตร์ ความทรงจำที่สำคัญของประเทศไทย

หรือมีคุณค่าทางศิลปะภาพยนตร์อย่างโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ หรือเป็นภาพยนตร์ที่มีอิทธพลต่อคนและสังคมไทยโดยวงกว้าง

อาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านค่านิยม ขนบธรรมเนียม ทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาว ซึ่งจะประกาศผลในวันอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทย 4 ตุลาคม 2568

สำหรับผู้ร่วมเสนอรายชื่อตามเงื่อนไขที่กำหนดผ่านเว็บไซต์หอภาพยนตร์ หอภาพยนตร์จะมีของที่ระลึกกิจกรรม เพื่อขอบคุณที่ท่านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทย

โดยทางหอภาพยนตร์จะจัดส่งให้กับท่านทางไปรษณีย์ (จำนวนจำกัด) เสนอรายชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2568 ที่ https://fapot.or.th/main/news/1045

เนี่ย..ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร ก็ลองนั่งคิด-นอนนึก เผื่อจะมีหนังไทยที่ทรงคุณค่าผุดขึ้นมาในหัว อย่างผมปุบปับ นึกขึ้นได้..

“โอ๊กอ๊าก” พอจะเป็นมรดกหนังไทยได้ไหม?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เหตุเกิดที่‘ไทยพีบีเอส’

“ช็อกตาตั้ง” ครับ! เปล่า..ไม่ได้ช็อกที่ทัพเซปักตะกร้อ “ทีมเดี่ยวชายไทย” พลาดท่าแพ้ให้กับเวียดนาม 1-2 เซต ชวดเข้าชิงชนะเลิศเซปักตะกร้อ ทีมเดี่ยวชาย กีฬาซีเกมส์ 2025 นั่นหรอก!

ประชาธิปไตยจอมปลอม

“หาดใหญ่ยังห่างไกลความปกติ.. ขยะเป็นล้านตันไม่ใช่เรื่องที่จัดการง่าย และเรายังลุยต่อกับอีกหลายหน่วยงานในทุกๆ วันค่ะ”

ร่างทรงชาวบ้าน

ว้าวว..ลูกชาย “เจ๊แดง” นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 เพื่อไทย! เสียงเพื่อนบนโต๊ะกินข้าวคนหนึ่งอุทานลั่น ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะหันมองหน้าด้วยความพร้อมเพรียง ก่อนที่อีกคนจะเอ่ยถาม..

‘ขอเวลาอีกไม่นาน’!

คั่นสงครามด้วยข่าวบันเทิง!.. เริ่มที่เจ้าพ่อโหนกระแส “คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” โพสต์ถึงใครก็ไม่รู้.. “ก่อนจะดูถูกคนอื่น ล้างมือล้างตีนตัวเองก่อนดีมั้ย ตีนยังดำอยู่เลย”

‘เด็กเสียนิสัย’?

“สงคราม” ..สนุกแต่เฉพาะในหนังฮอลลีวูด.. นอกจาก “ของจริง” ไม่ใช่เรื่องเล่น-เรื่องสนุก หรือเรื่องที่จะคุยโม้ โอ้อวด เพราะสนามสงคราม คือ “สนามแห่งความเป็น-ความตาย” ของชีวิต (จริง) เหล่าทหารกล้า!

‘ดิสนีย์แลนด์’..ฝันเก้อ?

แก้วตา...หันมาฟังพี่จะบอก เจ้าจงตั้งใจฟังไว้ให้ดี.. คืองี้..เหตุที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน และคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร มีมติไม่ส่งคุณธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ “แก้วตา” ลงสมัคร สส.กรุงเทพฯ ต่อนั้น..