นรกกาสิโน

เปิดมาเลยครับ...

ใครมีข้อมูลเกี่ยวกับกาสิโน และพนันออนไลน์ ทั้งข้อดี ข้อเสีย ช่วยกันเปิดออกมาให้หมด ให้สาธารณชนได้ตัดสินว่า ประเทศไทยควรมี หรือไม่มี กาสิโน

ฝั่งรัฐบาลเปิดแต่ข้อดีครับ เรื่องข้อเสียถูกซุกไว้ใต้บาทา

ที่เห็นอยู่ทนโท่ ก็บิดเบือนเสียจนคิดว่าชาวบ้านตามไม่ทัน

อ้างว่า ๙๐% ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นห้างสรรพสินค้า สวนน้ำ ที่พักผ่อนสำหรับประชาชน มีเพียง ๑๐% เท่านั้น เป็นบ่อนกาสิโน

ลิ้นพันครับ!

เพราะรัฐบาลอ้างว่าเป็นนโยบายนำธุรกิจใต้ดินมาไว้บนดิน เพื่อนำเงินเข้ารัฐ

มีห้างสรรพสินค้า สวนน้ำที่ไหน เป็นธุรกิจใต้ดินบ้างครับ

บ่อนทั้งนั้นครับที่อยู่ใต้ดิน

อีกอย่างร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ไม่มีมาตราไหนกำหนดคุณสมบัติของห้าง หรือสวนน้ำเลยครับ ไม่มีการพูดถึงแม้แต่น้อย  เพราะมันมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว

ร่างกฎหมายฉบับนี้จึงว่าด้วยเรื่องการเปิดกาสิโนล้วนๆ

แถมยังทำราวกับวาระแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี มานั่งหัวโต๊ะคุมการเปิดกาสิโนด้วยตัวเอง

ฉะนั้นเลิกเสียทีเถอะครับ สำหรับการอธิบายกับประชาชนว่าสถานบันเทิงครบวงจร ไม่ได้เน้นกาสิโน

เลิกเห็นประชาชนกินหญ้าเสียที

วานนี้ (๒๒ มกราคม) มีนักวิชาการ ๒ คน ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับ กาสิโน

ได้ข้อสรุปคือ อันตรายสำหรับประเทศไทย

"รศ. ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล" อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านนี้ เกาะติดร่างกฎหมายกาสิโนมาอย่างต่อเนื่อง

จุดเปลี่ยนเกมอาจจะเป็นประเด็นการทำผิดกฎหมายของรัฐบาล  

"...พรรคการเมืองไม่ได้ชูนโยบายพนันออนไลน์ถูกกฎหมายและกาสิโนถูกกฎหมายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา รวมถึงไม่ได้รายงานนโยบายดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐

และเนื่องจากเป็นนโยบายที่มีความเสี่ยงและผลกระทบต่อสังคมอย่างร้ายแรง การผลักดันนโยบายเหล่านี้จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย..."

รอ "นักร้อง" ไปร้อง กกต.

อีกคนคือ    "กมล กมลตระกูล" นักวิชาการอิสระ และประธานอนุกรรมการด้านการเงินและการธนาคาร สภาผู้บริโภค โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล

"เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คือ ศูนย์อาชญากรรมครบวงจร"

อ้างรายงานของยูเอ็น ว่า การขยายตัวของการพนันออนไลน์และการแทรกซึมเข้าไปดำเนินการของขบวนการอาชญากรรม

"...จากการประเมินล่าสุดตลาดการพนันออนไลน์จะเติบโตมียอดเงิน ๒ แสน ๕ พันล้านดอลลาร์ (US $205 billion) ในปี ๒๐๓๐* (๗ ล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณแผ่นดิน (๒ เท่า) ต่อปี) โดยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีส่วนแบ่งมากที่สุดร้อยละ ๓๗* เมื่อเทียบกับการเติบโตในปี ๒๐๒๒-๒๐๒๖

ที่น่ากังวลคือ การเติบโตของอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์นอกชายฝั่งทะเล (รวมทั้งการพนันกีฬาออนไลน์) ในพื้นที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงที่มีความเสี่ยงสูง เพราะขอบเขตอำนาจที่ศาลและกฎหมายควบคุมไปไม่ถึง หรือเจ้าหน้าที่คอร์รัปชันให้ความร่วมมือด้วย การบังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน กระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือ จึงเป็นความท้าทายของเจ้าหน้าที่ทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค

บริษัททัวร์การพนันของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าและบรรดาเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ คือผู้ผลักดันหลักของแนวโน้มนี้

แพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ทั้งที่ไม่ถูกควบคุมและควบคุมไม่ถึงที่บริหารโดยองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยตั้งบริษัททัวร์การพนัน โรงแรม บริษัทสวนสนุก บริษัทจัดประชุมระหว่างประเทศ หรือบริษัทอสังหาริมทรัพย์พัฒนาพื้นที่มาบังหน้า และรับผลกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง

นอกจากนี้แล้ว ยังทำหน้าที่ฟอกเงิน ชำระบัญชีระหว่างบริษัทกับลูกค้าด้วย โดยยูเอ็นตั้งข้อสังเกตว่า มีการซ่อนเร้นปลอมแปลงหลีกเลี่ยงเอาผลกำไรออกไปให้ดูเสมือนถูกต้องตามกฎหมายอย่างมหาศาล

บริษัททัวร์การพนันระดับใหญ่ๆ เกือบทั้งหมด ที่ควบคุมโดยองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่มาในรูปของนักลงทุน ล้วนดำเนินการแบบนี้ ในขณะที่ กลุ่มรายย่อย และแพลตฟอร์มขนาดเล็กทำหน้าที่เป็น นายหน้า ลูกค้าหรือส่งลูกค้าให้เพื่อสร้างชั้นของการฟอกเงินให้มีความซับซ้อนขึ้น

ในขณะเดียวกัน บ่อน และบ่อนการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้ดำเนินการแตกสาขาทำธุรกิจผิดกฎหมายอย่างหลากหลาย เช่น การฉ้อโกง หลอกลวงออนไลน์ ที่เรียกว่าคอลเซ็นเตอร์ หรือการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์ โดยจับตัวไปบีบบังคับและทำทารุณกรรมให้ทำงานผิดกฎหมาย การจับตัวเรียกค่าไถ่ ซึ่งมีหลักฐานแน่ชัดว่าขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติได้แทรกซึมเข้าไปดำเนินการในบ่อนและในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือศูนย์การพนันครบวงจร (Entertainment  Complex) ที่สร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่นๆ..."

อย่าบอกว่ายูเอ็นไม่ใช่พ่อนะครับ!      

รัฐบาลเข้าไปอ่านได้เลยครับ เขาตั้งหัวข้อไว้น่ากลัวมาก

"กาสิโน การฟอกเงิน การธนาคารใต้ดิน และกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภัยคุกคามที่ซ่อนเร้นและทวีความรุนแรงมากขึ้น"

เนื้อหาในรายงานก็ยิ่งกว่าสะพรึง!

กรณีของกาสิโนและเขตเศรษฐกิจพิเศษ  ขยายตัวไปทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถลักลอบค้าสินค้าผิดกฎหมาย เปิดกาสิโนผิดกฎหมาย และแหล่งฉ้อโกงทางไซเบอร์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการฟอกเงินในระดับอุตสาหกรรมและธนาคารใต้ดินอีกด้วย 

ความเสี่ยงเหล่านี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลโดยเฉพาะใน ๕ ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม

รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางสังคมและการเมืองในภูมิภาค

ครับ...อย่าหวังว่าไทยเปิดกาสิโนแล้วจะเหมือนสิงคโปร์ เพราะสภาพแวดล้อมเราจะเหมือนกาสิโนในกัมพูชา ลาว เมียนมา ที่เป็นแหล่งรวมอาชญากรรมมากกว่า

สื่อต่างประเทศอย่าง Nikkei Asia ให้ข้อมูลน่าสนใจครับ เขาระบุว่า กาสิโนมีความเสี่ยงจากการฟอกเงิน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมไม่มีผู้ประกอบการชาวอเมริกันในฟิลิปปินส์

เพราะผู้ประกอบการชาวอเมริกันต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลตัวเองในการลงทุนต่างประเทศ และหากที่ไหนมีความเสี่ยงต่อการฟอกเงิน หรืออาชญากรรม จะกระทบต่อใบอนุญาตในประเทศด้วย

เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่เผชิญกับกรณีการฟอกเงินอย่างมากในปี ๒๕๖๖ มานี่เอง ทำให้รัฐบาลต้องออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อตรวจสอบธุรกรรม

และต้องให้มีการเข้าถึงข้อมูลร่วมกันเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วย

ฉะนั้นหากรัฐบาลจะเดินสู่นรก ที่ "ทักษิณ" บอกว่าเคยไปมาแล้ว ก็อย่าลากประชาชนลงไปด้วย

เปิดเล่นกันเองที่จันทร์ส่องหล้าดีมั้ยครับ 

ให้ลูกหลานเผาเวลาไปกับการพนัน จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างประเมินมิได้เลยทีเดียว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เป็นทุกอย่างให้ 'กาสิโน'

คือ.... บอกตรงๆ ฟัง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ปกรณ์ นิลประพันธ์ อธิบายเรื่อง การปรับถ้อยคำร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกติดปากว่า ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือร่างกฎหมายกาสิโน แล้ว ต้องเกาหัวแกรกๆ เพราะมีบางอย่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

ศรีธนญชัยสีส้ม

ซี้ซั้วต่า... พวกพูดไม่หมด พูดเข้าข้างตัวเอง บิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้คนในสังคม เมื่อไหร่จะหมดไปเสียที

'๔๔ สส.ส้ม' เจตนาเซาะกร่อน

แผ่นเสียงตกร่อง มาแนวเดียวกับลุงป้าติดคุกเพราะเก็บเห็ดเลยครับ ๔๔ สส.พรรคส้มถูก ป.ป.ช.ออกหนังสือเชิญให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา คดีร่วมลงชื่อแก้ ม.๑๑๒ มีความผิดต่อมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง

สภาล่ม-จมรัฐบาล

ล่มซ้ำซาก... แต่ก็ดีแล้วครับที่สภาล่ม ๒ วันติด เพราะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ไม่ควรถูกฉีก

ส่งเสริม 'ผีพนัน-ขี้เหล้า'

สภาล่ม... วานนี้ (๑๓ กุมภาพันธ์) เปิดวิทยุคลื่น ๘๗.๕ ฟังประชุมรัฐสภา เพราะเขามีวาระแห่งชาติ จะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกัน

ตายยกเข่ง

วันก่อนโน้น.... ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “คนตั้งคำถามกันมากว่า ทำไมคอร์รัปชันไม่ลดลง!!”