งานเข้า

บุกทลายโรงงานเถือนกันไม่หยุด สำหรับแม่ทัพกระทรวงอุตสาหกรรม อย่าง “รัฐมนตรีขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ไม่ว่าจะเรื่องสินค้าเถื่อน สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไร้ มอก. ทุกประเภท

“รัฐมนตรีขิง” สั่งจัดการทันที ไม่ให้มีเล็ดลอดมาถึงมือผู้อุปโภคบริโภค เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับประชาชน

โดยมีทีม “ชุดตรวจการสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม ที่รัฐมนตรีขิง ตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ตรวจติดตาม จัดการโรงงานไร้มาตรฐานต่างๆทั่วไทยแบบเด็ดขาด ถอนรากถอนโคลน ไม่มียกเว้น ซึ่งล่าสุดชุดสุดซอยได้ลงไปทลายโกดังสินค้าไร้คุณภาพไม่มี มอก. ที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งพบว่ามีการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังด้วย

นอกจากนี้รัฐมนตรีขิง ยังสั่งขยายผลในทุกกรณีที่มีการตรวจจับ ให้สาวถึงต้นตอทุกเคส

ซึ่งจากมาตรการที่เด็ดขาดของรัฐมนตรีขิง ที่เอาจริงจนทุกโรงงานต้องผวาไม่รู้จะถูกเข้าซุ่มตรวจวันไหน แต่ทว่ามาตรการตรวจเข้มนี้ก็ไปโดนเส้นกลุ่มภาคธุรกิจที่เสียประโยชน์เช่นกัน ทำเก้าอี้เจ้ากระทรวงถึงกับสะเทือนมาแล้ว

เพราะกลุ่มภาคธุรกิจดังกล่าวลงขันตั้งค่าหัว 300 ล้านบาท เอารัฐมนตรีขิงออกจากเจ้ากระทรวงอุตสาหกรรมแบบไม่เกรงกลัว แต่รัฐมนตรีขิงก็ไม่กลัวเช่นกัน สั่งลุยงานต่อ ทลายและตรวจเข้มทุกโรงงานไร้มาตรฐานทั่วไทย

ช่วงนี้งานของรัฐมนตรีขิง จึงแน่นเป็นพิเศษ ล่าสุดหลังเสร็จงานราชการ เจ้าตัวไปออกงานส่วนตัว พร้อมกับ “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

แต่ทว่าแม้จะเลิกงานแล้ว แต่ก็ยังมีงานเข้า เมื่อมีเอกสารด่วนจี๋ของกระทรวงอุตสาหกรรม ตามมาให้เซ็นถึงในงาน ทั้งเลขาฯลอรี่ และรัฐมนตรีขิง ต้องเซ็นเอกสารด่วนทั้งคู่ จนถูกแซวว่าวันนี้จะเซ็นปิดโรงงานไหนอีก

“รัฐมนตรีขิง” ถึงกับหัวเราะพร้อมตอบเป็นนัยว่า “อยากรู้ไหม” ก่อนถูกแซวอีกด้วยว่าได้ข่าวค่าตัวท่านรัฐมนตรี 300 ล้านแล้ว เดี๋ยวเซ็นแล้วค่าตัวจะเพิ่มขึ้นอีกไหม เจ้าตัวตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “เพิ่มขึ้นทุกวัน” ก่อนลุยเซ็นแฟ้มเอกสารไปหลายหน้าเลยทีเดียว

เรียกว่าเป็นยุคที่กระทรวงอุตสาหกรรม ดุเดือดสุดๆ แต่เป็นความดุเดือดเรื่องการทำงาน ช่วงนี้ท่านรัฐมนตรีเลยมีงานเข้าตลอด ทั้งงานเข้าถูกตั้งค่าหัวและงานเข้าต้องเซ็นแฟ้มเอกสารแบบด่วนๆนี่แหละ แหะๆๆ

 

บรรจง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ศรีสะเกษยั่งยืน”

จังหวัดศรีสะเกษถือเป็นยุทธศาสต์สำคัญทางการเมือง หากพรรคใดช่วงชิงได้ ก็มีโอกาสจะขยายความนิยมครองพื้นที่ในดินแดนอีสานใต้

"กีกี้" เป็นเหตุวุ่นวายทั้งสภา

กลายเป็นประเด็นร้อนฮือฮากลางวงประชุมขึ้นมาทันที เมื่อ”วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เปิดประเด็นร้อนระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2568 โดยเปรียบ

“ไม่เป็นความจริง”

เริ่มวันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องมีความตื่นเต้นกันเป็นปกติ แต่จากที่ดูบรรยากาศในศึกซักฟอกครั้งนี้ หลายคนมองว่าไม่เหมือนกับปีก่อนๆ บรรยากาศดูไม่ค่อยเข้มข้น แต่ก็มีความพยายามสร้างบรรยากาศให้ดูฮึกเหิม

มุ่งมั่นเพื่อบ้านโป่ง

ก่อนถึงวันเปิดศึกโหมโรงเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เริ่มขึ้นวันแรก 24 มีนาคม ที่ทั้งฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างเตรียมตัว เตรียมข้อมูลขึ้นจ้อบนเวที และคาดว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันไม่น้อย แต่ขณะเดียวกันในการขับเคลื่อนงานในสภาเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนยังเดินหน้าต่อ

เดี๋ยวโดนปลด

ต้องบอกว่า ลดโทนดุดันกว่าตอนเป็น สส.ไปเยอะ สำหรับ เสี่ยยุ-จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีต สส.กทม. เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย

“ควงตะหลิว”

นานๆหน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะว่างเว้นจากกงานประจำในหน้าที่ราชการและงานด้านการเมือง และได้พำนักหยุดอยู่บ้านในช่วงวันเสาร์ ที่ผ่านมา