
ตอนนี้ที่เห็นทำงานฟิตที่สุดก็เจ้ากระทรวงอุตสาหกรรม อย่าง “รัฐมนตรีขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นี่แหละ ที่ลุยทลายโรงงานเถื่อน สิ้นค้าไร้มาตรฐานอยู่แทบทุกวัน จนไปไหนมาไหนใครเจอหน้ารัฐมนตรีขิง จะต้องทักและแซวตลอดว่าวันนี้จะไปปิดโรงงานที่ไหนอีก
ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็ส่งทีมตรวจการสุดซอย ไปติดตามความคืบหน้าการจัดการโรงงานที่ถูกสั่งปิดไปแต่ยังลักลอบดำเนินการอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมสั่งดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาด ทั้งบูรณาการความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและวางแนวทางการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันในการเอาผิดอีกด้วย
ทำช่วงนี้ทุกโรงงานอุตสาหกรรมต้องผวา ด้วยความเข้มงวด ตรงไปตรงมาของเจ้ากระทรวงอุตฯ ไม่รู้วันดีคืนดีโรงงานไหนจะถูกสุ่มตรวจคุณภาพสินค้า ที่เป็นข้อร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาบ้าง
แต่ทว่านอกจากรัฐมนตรีจะสวมหมวกเจ้ากระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว หมวกอีกใบยังเป็นเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่สื่อมวลชนให้ความสนใจเรื่องทิศทางการเมืองของพรรค
หลังการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/2 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ล่มติดต่อกัน
ครั้นเจอ “รัฐมนตรีขิง” ในงานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ทีมนักข่าวการเมืองได้ดักรอสัมภาษณ์รัฐมนตรีขิงในประเด็นดังกล่าว แต่เหมือนเจ้าตัวจะรู้ทัน พอเห็นหน้านักข่าวก็รีบยิงมุกดักทางกันก่อนเลยว่า “อยากจะถามเรื่องการลงทุนกับประเทศอะไรครับ” พร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
จากนั้นก็โดนสัมภาษณ์กันไปยาวๆเกือบ 10 นาทีในประเด็นสภาล่มและประเด็นการเมืองล้วนๆ พอสัมภาษณ์กันเสร็จสิ้น “รัฐมนตรีขิง” กล่าวทิ้งท้ายกับนักข่าวอีกด้วยว่า “ตกลงเอาลงทุนกับประเทศไหน”
และปล่อยมุกด้วยว่า “นึกว่าจะถามรัฐมนตรีปิดโรงงาน คุณไม่เคยถามผมเรื่องนี้เลย” ด้านนักข่าวบอกรัฐมนตรีอย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะท่านรัฐมนตรีทำงานเชิกรุกอยู่แล้ว
งานนี้รัฐมนตรีไม่ต้องน้อยใจ ถึงไม่ถูกถามงานกระทรวงอุตฯ แต่ผลงานก็เห็นกันทุกวัน เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วจ้า อิอิ
บรรจง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ศรีสะเกษยั่งยืน”
จังหวัดศรีสะเกษถือเป็นยุทธศาสต์สำคัญทางการเมือง หากพรรคใดช่วงชิงได้ ก็มีโอกาสจะขยายความนิยมครองพื้นที่ในดินแดนอีสานใต้
"กีกี้" เป็นเหตุวุ่นวายทั้งสภา
กลายเป็นประเด็นร้อนฮือฮากลางวงประชุมขึ้นมาทันที เมื่อ”วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เปิดประเด็นร้อนระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2568 โดยเปรียบ
“ไม่เป็นความจริง”
เริ่มวันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องมีความตื่นเต้นกันเป็นปกติ แต่จากที่ดูบรรยากาศในศึกซักฟอกครั้งนี้ หลายคนมองว่าไม่เหมือนกับปีก่อนๆ บรรยากาศดูไม่ค่อยเข้มข้น แต่ก็มีความพยายามสร้างบรรยากาศให้ดูฮึกเหิม
มุ่งมั่นเพื่อบ้านโป่ง
ก่อนถึงวันเปิดศึกโหมโรงเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เริ่มขึ้นวันแรก 24 มีนาคม ที่ทั้งฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างเตรียมตัว เตรียมข้อมูลขึ้นจ้อบนเวที และคาดว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันไม่น้อย แต่ขณะเดียวกันในการขับเคลื่อนงานในสภาเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนยังเดินหน้าต่อ
เดี๋ยวโดนปลด
ต้องบอกว่า ลดโทนดุดันกว่าตอนเป็น สส.ไปเยอะ สำหรับ เสี่ยยุ-จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีต สส.กทม. เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย
“ควงตะหลิว”
นานๆหน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะว่างเว้นจากกงานประจำในหน้าที่ราชการและงานด้านการเมือง และได้พำนักหยุดอยู่บ้านในช่วงวันเสาร์ ที่ผ่านมา