จับตา“ส่งออกไทย”ท่ามกลางสงครามการค้า

 “ภาคการส่งออก” ยังถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยในปี 2568 กระทรวงพาณิชย์ ยังคงตั้งเป้าหมายการส่งออกว่าจะขยายตัวได้ 2-3% หลังจากที่มูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-ก.พ.) ขยายตัวได้สูงถึง 13.8% ดังนั้นจึงทำให้คาดหวังได้ว่าการส่งออกในปีนี้จะโตได้เกินกว่าเป้าหมายอย่างแน่นอน

พร้อมทั้งได้ประเมินทิศทางการส่งออกของไทยในช่วงหลังจากนี้ด้วยว่า “จะมีทิศทางที่ดีขึ้น” เนื่องจากปีที่ผ่านมามีการลงทุนในประเทศสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น

โดยเฉพาะสินค้าประเภทแผงวงจรพิมพ์ (PCB) และจากข้อมูลคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย เป็นเครื่องสะท้อนว่าแนวโน้มการส่งออกในปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อน

ขณะที่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้ประเมินแนวโน้มมูลค่าส่งออกของไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 1.6% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 2% และต่ำกว่าเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลที่ตั้งไว้ราว 3-3.5% เนื่องจากมองว่าปัจจัยสนับสนุนการส่งออกไทยในไตรมาสแรก ส่วนมากเป็นปัจจัยชั่วคราว เช่น การส่งออกทองคำผสมโลหะไปอินเดีย ขณะที่แรงกดดันต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกจะเพิ่มขึ้นมากในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาส 4

โดย SCB EIC ได้ประเมินว่าทิศทางการส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอลงมากในไตรมาส 2 และจะหดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นผลจากการใช้นโยบายกีดกันการค้า การลงทุน และการอพยพและการเคลื่อนย้ายแรงงานที่จะเกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะการกีดกันจากสหรัฐ ส่งผลให้เศรษฐกิจและบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลง รวมถึงผล Front load การเร่งผลิตและส่งออกช่วงปลายปีก่อน และต้นปีนี้จะทยอยหมดลง อานิสงส์วัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้นเริ่มลดลง อีกทั้งยังมีปัจจัยจากฐานที่สูงจากช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะกดดันการส่งออกในครึ่งหลังของปี 2568 เนื่องจากมูลค่าการส่งออกไทยขยายตัวมากถึง 7.5% ในไตรมาส 3/2567 และ 10.5% ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเทียบกับครึ่งแรกของปี 2567 ที่ขยายตัวได้ 1.9%
สำหรับมูลค่าการส่งออกในเดือน มี.ค.2568 นั้น SCB EIC ประเมินว่าจะยังคงขยายตัวได้ดี จากอานิสงส์วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น แนวโน้มการเร่งสั่งซื้อของประเทศคู่ค้าก่อนนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ การส่งออกทองคำ รวมถึงทองคำในรูปแบบโลหะอื่นๆ ไปยังอินเดีย ก่อนรัฐบาลอินเดียจะเริ่มปรับปรุงเกณฑ์ช่องว่างการนำเข้าทองคำ รวมถึงปัจจัยฐานต่ำในเดือน มี.ค.2567 ที่หดตัวมากถึง -10.5% จะสนับสนุนการส่งออกในเดือน มี.ค.ปีนี้ได้

ขณะที่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ได้ออกบทวิเคราะห์โดยระบุว่า แม้การส่งออกในเดือน ก.พ.2568 จะขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ส่วนหนึ่งยังคงเป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราว เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ และยังต้องจับตาการประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในเดือน เม.ย.นี้ด้วย โดยสินค้าไทยเสี่ยงต่อการถูกเรียกเก็บ เนื่องจากมีส่วนต่างภาษีและเกินดุลกับสหรัฐมาก เช่น HDD คอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ ล้อ โซลาร์เซลล์ และเครื่องปรับอากาศ เป็นกลุ่ม TOP-6 ของสินค้าที่เกินดุลสหรัฐ ซึ่งหากมีการใช้มาตรการภาษีศุลกากรดังกล่าวตอบโต้ต่อไทยย่อมกระทบการส่งออกของไทยในภาพรวม
นอกจากนี้หากมองต่อไปข้างหน้า ประเมินว่า “สงครามการค้า” ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญที่จะกระทบต่อการส่งออกของไทยอีกด้วย โดยในช่วงสงครามการค้ารอบก่อน การส่งออกของไทยเร่งตัวขึ้นก่อนสหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีกับจีน แต่หลังจากขึ้นภาษีในเดือน ก.ค.2561 แล้ว การส่งออกของไทยชะลอและหดตัวลง ดังนั้นการส่งออกที่เร่งตัวขณะนี้ “อาจเป็นปัจจัยชั่วคราว” แต่ในระยะข้างหน้ามีความเสี่ยงที่จะแผ่วลง โดยไทยเสี่ยงถูกสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าโดยตรง ต่างจากรอบก่อนที่พุ่งเป้าเฉพาะจีน อีกทั้งยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากการแย่งตลาดของจีน ตลอดจนการกีดกันและตอบโต้ที่รุนแรงจะฉุดการค้าโลกให้อ่อนแรงลงอีกด้วย.

 

ครองขวัญ รอดหมวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร

ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด

เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย

ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย

อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP

อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ

ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย

ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า