
ไทยโพสต์ “อิสรภาพแห่งความคิด” www.thaipost.net สวรรค์ชั้น 14 พังครืน! นักโทษเทวดาส่อวิกฤตจริงก็คราวนี้ หมดเวลาเสวยสุข ถึงคราวชดใช้กรรม "ข้อมูลหลักฐานทั้งหลายที่เราได้รับ ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่า มีภาวะวิกฤตเกิดขึ้นตามที่มีการแถลงข่าว" ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ประธานในการประชุมแพทยสภาครั้งสำคัญ แถลงถึงเหตุผลที่มีมติฟันแพทย์ 3 ราย โดยตักเตือน 1 คน และพักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน บทลงโทษฟันจริยธรรมของแก๊งหมอหนักเบาแค่ไหน ไม่สำคัญเท่ากับบทสรุปที่ว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ป่วยทิพย์ ต่อจากนี้กระบวนการยุติธรรมที่แท้จริงจะได้ทำหน้าที่ต่อ โดยเฉพาะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวน 13 มิ.ย.นี้
๐ บรรดาลิ่วล้อเพื่อแม้วปากกล้าขาสั่นกันเป็นแถว ปลอบใจตัวเองไม่มีอะไรน่ากังวล ไร้อุบัติเหตุทางการเมือง แล้วทำไมตัว "นายใหญ่" ถึงร้อนรนแจ้นขึ้นศาลขอเผ่นนอก ฟังไม่ขึ้นกับข้ออ้างไปกาตาร์ด้วยหมายนัดส่วนตัว หรือกลัวในสิ่งที่เขย่าขวัญยิ่งกว่า ทักษิณถูกศาลฎีกาฯ สั่งจำคุกรวม 8 ปี ใน 3 คดีทุจริต หลังจากนั้นได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษเหลือโทษจำคุก 1 ปี ดังนั้นการที่ไปนอนเล่นชั้น 14 รพ.ตำรวจ ทั้งที่ไม่ได้ป่วยจริง อาจเข้าข่ายพฤติการณ์ที่ "ทนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" เคยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หนึ่งใน 6 พฤติการณ์ดังกล่าวที่ทนายธีรยุทธระบุไว้ "ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้อภัยลดโทษเหลือโทษจำคุกต่อไป 1 ปี พบว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ รพ.ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ระหว่างต้องโทษจำคุก ได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักชั้นที่ 14 รพ.ตำรวจ เพื่อไม่ต้องรับโทษในเรือนจำแม้แต่วันเดียว โดยเป็นการฝ่าฝืนการรับโทษในเรือนจำตามพระบรมราชโองการ การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง อันอาจเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และเป็นการกระทำที่อาจเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่งผลให้เกิดการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันฯ" ถึงแม้ศาลยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่า ข้อกล่าวอ้างยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอ แต่ ณ เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
๐ อีกคดีที่สำคัญไม่แพ้กัน เกี่ยวพันกับสถานภาพสภาสูงชุดปัจจุบัน ที่เลือกด้วยกติกาใหม่ หรือเรียกขานกันว่า "สูตรพิสดาร" จนเป็นที่ครหาว่าสภาสีน้ำเงิน คดีนี้มีมูลอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่หน่วยงานรับผิดชอบกลับเลือกข้าง เรื่องราวเลยโอละพ่อ กลายเป็นหนังคนม้วน ปล่อยข่าวใหญ่โตจะฟันคดีฮั้ว สว. ล็อตแรก 60 คน ระดับบิ๊กเนมทั้งนั้น สุดท้าย กกต. โร่ปฏิเสธข่าว แจงยังอยู่ระหว่างไต่สวนหรือขั้น 1 เท่านั้น ล่าสุด "อิทธิพร บุญประคอง" ย้ำชัดว่าไม่มีมูล พอไล่เรียงปรากฏว่าเจ้าของฟาร์มเลี้ยงแกะมาจากคนของ "ดีเอสไอ" บังเอิญเกินไปที่ปล่อยข่าวในช่วงที่ชั้น 14 กำลังร้อนแรง ยิ่งเกิดข้อกังขาว่าโล่น้ำเงินเปลี่ยนเป็นสีแดงเทือกไปแล้วหรือ ถึงแม้จะสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่มีเสนาบดีมาจากพรรคประชาชาติ แต่ทั้ง รมต. และหน่วยงาน กลับอยู่ภายใต้อำนาจของนายกฯ ตัวจริง บทเรียนมีไว้สอน ประวัติศาสตร์มีไว้ศึกษา เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยสิ่งผิดพลาดในอดีต โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตัวอย่างเบ้อเริ่มเทิ่มก็มีไว้เห็นจะจะ อดีตอธิบดีดีเอสไอ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" ยังอยู่ในวงเวียนวิบากกรรม สารพัดคดีรุมเร้า ติดคุก 2 รอบ แล้วยังมีอีกหลายคดีจ่อขึ้นศาล โดนยึดทรัพย์ 44 ล้าน ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ มหากาพย์หนังชีวิตรันทดยาวนานเกินคาดเดา ฝากสะกิดบิ๊กข้าราชการทั้งหลาย ถ้าทำตามอำนาจหน้าที่ไม่รับใช้ฝ่ายการเมืองชนิดไม่ลืมหูลืมตา ก็จะเป็นเกราะคุ้มครองตัวเองได้อยู่แล้ว.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

