ทหารยันไว้-อย่ายอมเล่นตามเกมกฎหมาย

     ภาพดวงเมืองรัตนโกสินทร์และคำอธิบายความหมายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง

      ทักษาเดิม-ภูมิอาทิตย์-พระอังคาร (๓) เป็นเดชเดิม

     ไม่ใช่เฉพาะสมาชิกกลุ่มหัวหน้าดาวร้าย หรือในความหมายจากดวงเมืองคือ รัฐบาลที่จะอึดอัดหลายๆ เรื่องจากปรากฏการณ์ถูกบีบให้เดินทางแคบๆ อันเนื่องจากพฤหัสบดีตรึงกับพระเสาร์ในดวงเมืองระหว่าง 19  พฤษภาคม-23 สิงหาคม 2568 ตามที่เขียนไว้ในแม่หมอสมัครเล่นตอนที่แล้ว

     เพราะสมาชิกฝ่ายหัวหน้าดาวดีหรือฝ่ายพระสยามเทวาธิราชทั้งประเทศก็ครางฮือด้วยความอึดอัด-คับข้องใจต่อท่าที หน่อมแน้ม-เชื่องช้า-ไร้เดียงสา ของผู้นำและฝ่ายการเมืองจากปัญหาชายแดนกัมพูชาเพื่อนบ้าน ด้วยมีการปะทะกันที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จนฝ่ายกัมพูชาจะนำประเด็นชายแดนไปขึ้นศาลโลก นี่ยังไม่นับรวมด้านอื่น เช่น มติแพทยสภา เป็นต้น

     แต่ในความอึดอัดสุดๆ ความสามัคคีบังเกิด อย่างเรื่องช่องบกก็พากันแห่สนับสนุนทหารให้รักษาอธิปไตยกันเอิกเกริก เพราะ ศาลโลกที่กัมพูชาอยากเอาไทยขึ้น สะกิดแผลเก่าเรื่องเขาพระวิหารให้คนไทยเจ็บที่เสียไปเพราะศาลนี้ เมื่อ 15 มิถุนายน 2505 ทั้งๆ ที่ทางขึ้นอยู่ฝั่งไทย

     ในฐานะโหรที่นั่งดูดวงเมืองมาตลอด ผู้เขียนมี ข้อคิดจากพื้นดวงเดิมดวงเมืองมาอ้างอิง ที่อาจจะเป็นประโยชน์บ้างในสถานการณ์ด้านความมั่นคงขณะนี้ เพื่อรักษาแผ่นดินไทยไม่ให้แหว่งไปอีก หลังจากเสียไปแล้ว 14 ครั้ง ตั้งแต่ตั้งเมืองรัตนโกสินทร์เป็นต้นมา ดังนี้

     1.เรื่องความมั่นคงหรือการสู้รบรักษาอธิปไตยของชาติเมือง ถูกออกแบบมาให้ ลัทธิทหาร-ความกล้าหาญนำหน้าเมือง หรือ มีบทบาทสำคัญ อธิบายคือ

     1.1 ขณะย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรีมาฝั่งกรุงเทพฯ นั้น เป็นไปท่ามกลางการแตกแยกภายใน และศึกพระเจ้าปดุงกำลังก่อตัว เมืองจึงหาฤกษ์กำเนิดเพื่อวางเสาหลักเมือง ให้ พระอังคาร (๓) ซึ่งเป็นตัวแทน ลัทธิทหาร ความเข้มแข็ง กล้าหาญ นักรบ นักสู้ มุมานะ การต่อสู้ สงคราม ฯลฯ เป็น ศูนย์พาหะ หรือ นำหน้าลัคนาเมือง (พระอังคาร ๓ สถิตในราศีพฤษภ ขณะที่ลัคนาเมืองสถิตอยู่ในราศีเมษ)

     ในทางทักษาวันเกิดของเมืองที่เกิดอาทิตย์พระอังคาร (๓) นี้ ยังเป็นตัวแทน เดช คือพลัง อำนาจ—ตบะ-บารมี ของเมืองด้วย

     พูดง่ายๆ ให้ทหารหรือลัทธิทหารสำแดงเดชออกหน้าเมื่อภัยความมั่นคงมาถึงเมืองนั่นเอง

     1.2 อ่านอีกแง่หนึ่งเรื่องความมั่นคงต้องหรือ ควรให้ทหารนำหน้าการเมือง (พระอังคาร ๓ ในราศีพฤษภ นำหน้าพระอาทิตย์ดวงเดิม ๑ ที่กุมลัคนาในราศีเมษ) ด้วยซ้ำ

     2.อ่านความสัมพันธ์ของทหาร (๓) กับตำแหน่งอาณาเขตของประเทศ-เขตแดน-บ้านเกิดเมืองนอน ที่ พระจันทร์ ๒ เจ้าเรือนภพพันธุ-สถิตราศีกรกฎ มาตรฐานเกษตราธิบดีเป็นดาวตัวแทน ได้แนวว่า

     ลัทธิทหารหรือกองกำลังทำให้อาณาเขตของประเทศเข้มแข็ง (พระอังคารดวงเดิม ๓ สถิตพฤษภโยคหลังพระจันทร์ ๒ ในราศีกรกฎ)

     3.อ่านลัทธิทหาร (๓) กับประชาชนที่พระจันทร์ ๒ ที่ราศีกรกฎเป็นตัวแทนประชาชนในดวงเมืองด้วย ก็จะออกแนว

     3.1 ทหาร มีประชาชนเหมือนญาติ และมีส่วนทำให้ทหารเข้มแข็ง (พระจันทร์ ๒ อยู่ภพที่สาม-สหัชชะของพระอังคาร ๓ หรือโยคหน้าพระอังคาร)

     3.2 ส่วนประชาชนมองทหารเป็นเพื่อน-โชค-ความสำเร็จโดยรวมของเมือง (พระอังคาร ๓ อยู่ในราศีพฤษภ-ภพลาภะของพระจันทร์ ๒ ในราศีกรกฎ หรือโยคหลังพระจันทร์)

     4.อ่านความมั่นคงของบ้านเกิดเมืองนอนที่บรรพบุรุษสร้างไว้ หรือแผ่นดินไทยทั้งหมดที่พระจันทร์ ๒ เป็นตัวแทนอยู่ (ภพพันธุ) กับความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ด้านคดีความ-อนุญาโตตุลาการ-รวมทั้งศาลโลกที่พฤหัสบดีดวงเดิม ๕ สถิตราศีธนู-ภพศุภะของเมืองเป็นตัวแทนอยู่

     แม้พฤหัสบดีจะเป็นหัวหน่ายธรรมะ หรือฝ่ายพระสยามเทวาธิราชของเมืองก็ตาม

     4.1 แต่เมื่ออ่านในเรื่องดินแดน-เขตแดน กับกฎหมายหรืออนุญาโตตุลาการ หรือการมีคดีกับต่างประเทศแล้ว โดยพื้นฐานดวงเมืองกลับออกแนวลบต่อเมือง (พฤหัสบดีดวงเดิม ๕ สถิตราศีธนู-มาตรฐานเกษตราธิบดี อยู่ในภพอริ-ปัญหาอุปสรรคของพระจันทร์ ๒ ที่สถิตในราศีกรกฎ)

    4.2 ขณะที่เขตแดนหรืออาณาเขตของเมืองก็เสียหายหนักจากการมีคดีความหรือตัดสินทางศาล (พระจันทร์ ๒ ในราศีกรกฎ อยู่ในภพมรณะของพฤหัสบดี ๕ ในราศีธนู)

     ตัวอย่างชัดๆ เรื่องศาล หรือกฎหมายกับต่างประเทศ เรามักจะเสียเปรียบชอกช้ำครั้งมหึมา ชนะในเรื่องย่อมๆ เช่นกับทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขต จนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงจำแขนขาดเสียดินแดนไปมากมายเพื่อแลกเอกราชทางศาลของชาติกลับมา

     แม้กระทั่งการเสียเขาพระวิหารก็เพราะคดีความศาลโลกด้วยเช่นกัน

     นานๆ หรอกถึงจะชนะเขามาบ้าง เพราะพื้นฐานดวงเดิมดวงเมืองเป็นแบบนี้

     การอ้างหลักทั้งหมดนั้นอาจจะน่าเวียนหัวหรือถูกก่นว่า แต่ที่ ทำไปเพื่อบ่งบอกว่าอย่างน้อยไม่โมเมทำนายโดยไร้หลัก ใช้ความคิด ใช้จิตให้เลอะเทอะ

      แต่ขอสรุปไว้ให้ง่ายกว่าว่า เมื่อเกิดปัญหาความมั่นคงของดินแดน ขึ้นมา ทหารต้องยันไว้ก่อน ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ก็ต้องยันให้เมืองและประชาชนได้มีหลังพิง

      แต่ไม่ควรจะไปเล่นเกมขึ้นศาลโลก หรือเอาชาติใดมาไกล่เกลี่ย เพราะวันดีคืนร้ายก็จะเป็นไปตามพื้นดวงชะตาเดิมของเมืองคือ แพ้หรือเสียเปรียบมากกว่าชนะ

     ยันไปยันมา เมื่อสถานการณ์จะคลี่คลายมันก็จะเกิดขึ้นเอง-เป็นไปเอง ตามลีลาการเดินของดาว

     เหตุผลคือ รูปของดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่สถิตราศีเมษรูปดวงเป็น กรรไกรหนีบแล้วคลายออก (พระอังคาร ๓ ในราศีพฤษภ เดินทวนเข็มนาฬิกา-ขณะที่พระราหู ๘ ที่ราศีมีน เดินตามเข็มนาฬิกา-สองดาวร้ายเดินแยกจากกันตามลูกศรชี้)

      อีกทั้งพื้นดวงเดิมของเมืองนั้น ทั้งอริหรือศัตรูเบา (พระพุธ ๔ เป็นตัวแทน)-ปัตนิคือคู่ต่อสู้เปิดเผย (พระศุกร์ ๖ เป็นตัวแทน) และเพื่อนตัวแสบเหมือนตัวด้วงมอดเคยกัดกร่อนเมือง (พระราหู ๘) ถูกวางไว้ในภพวินาสน์ของเมืองทั้งหมด เพื่อให้ตกหุบเหวหรือเข้ามุมอับของดวงเมือง รอแค่จังหวะและลีลาการเดินของดาวมาถึงนั้น เช่น

     ศึกพระเจ้าปดุง หรือสงคราม 9 ทัพ ที่กำลังข้าศึกมากกว่าไทยเกินเท่าตัว แต่เมื่อสู้เต็มที่แล้ว เกิดปัญหาภายใน พระเจ้าปดุงยกทัพกลับไปเอง (ปัตนิ-วินาสน์)

     หรือคราวคอมมิวนิสต์ขึ้นสู่กระแสสูงสู้รบกับรัฐไทยทั้งทหาร-ตำรวจ จนคอมมิวนิสต์ยึดได้พื้นที่ประเทศไทยเป็นป่าล้อมเมืองมาเรื่อยๆ รบกันเสียเลือดเนื้อไทยกันเองไปมาก ยันกันไป-มา แต่สุดท้ายก็กลับมาร่วมกันเป็น ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (อริ-วินาสน์)

      และรอบนี้ ทหารช่วยยันไว้ก่อนเรื่องตาเมือนธม รอเมื่อพฤหัสบดีกับพระเสาร์หยุดตรึงกันในดวงเมืองตั้งแต่ 23 สิงหาคม 2568 แล้ว ความอึดอัดจะลดลง

     เพียงแต่มีข้อติงจาก โหรภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ว่า การยันของทหารไทยต้องเป็นไปแบบสุภาพ เรียบร้อยแบบหล่อๆ ดูดี แต่ต่อยหนัก (อังคาร (๓) ในราศีพฤษภเรือนพระศุกร์ (๖)) พอเหมาะพอควรแก่เหตุผลเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยไม่ให้เสียไปแม้แต่คืบเดียวเท่านั้น (พระอังคาร ๓ ในราศีพฤษภ มาตรฐานประเกษตร-ราชาโชค)

     ถ้าจะทำแบบซ่าบุกเข้าไปยึดดินแดนกัมพูชาเลยเหมือนคุณวีระ สมความคิด ยุ อาการเราน่าจะแพ้ หรือแม้แต่การบุกยึดเกาะกงที่ฝรั่งเศสเบี้ยวไม่คืนให้ไทยแท้ๆ ก็อาจจะต้องคิดหนัก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตรียมรับมืออุบัติภัย-เสียหาย-เศร้าโศกร้ายแรงรอบใหม่

ดังที่ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ปี 2568 นี้เมืองจะเจอกับอุบัติเหตุ หรืออุบัติภัยครั้งใหญ่ระดับเป็นข่าวไปทั่วโลกถึงสี่รอบ

ไทม์ไลน์ระยะจุดระเบิดสู่ระยะคลี่คลายทางการเมืองรอบนี้

ในที่สุดความผันผวนจัดทางการเมืองที่มาพร้อมกับ ความอึดอัด กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คล้ายๆ การเมืองถูกตรึง ที่เคยทำนายไว้ว่า จะเกิดระหว่าง 19 พฤษภาคม-23 สิงหาคม 2568 อันจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ สูงกว่าปรับคณะรัฐมนตรี

ดร.ทักษิณกับดวงแตกรอบนี้

ตามที่ได้ทำนายไปก่อนหน้านี้ว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ลัคนาสถิตราศีกันย์จะเจอปรากฏการณ์ใหญ่ทางโหรคือ ดวงชะตา

นายกฯจะเจอฤทธิ์อะไรอีกในหลักโหร

ตามที่ผู้เขียนได้ทำนายและย้ำตลอดก่อนหน้านี้ว่า ระหว่าง 19 พฤษภาคม-23 สิงหาคม 2568 การเมืองจะผันผวนหนักระดับนักการข่าวไม่ได้หลับ-ไม่ได้นอน ส่วน ความเป็นไปได้นั้นจะสูงกว่าการปรับคณะรัฐมนตรี

แรงกดดันดร.ทักษิณยังเป็นเพียงหนังตัวอย่างของคนลัคนาสถิตกันย์

ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยให้สัมภาษณ์สื่อหลายแห่งรวมทั้งที่ไทยโพสต์ คุณศลิลนา ภู่เอี่ยม และคุณบุญระดม จิตรดอน ที่แนวหน้า ว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ ลัคนาส