ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ฮีโร่ตัวจริง! ปรบมือกึกก้องทั้งประเทศ "แพทยสภา" โหวตท่วมท้นเกิน 60 เสียง จากผู้ลงคะแนนทั้งหมด 68 คน ยืนยันมติ 8 พ.ค. ฟันจริยธรรม 3 หมอรักษา "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนักโทษคดีทุจริต โดยมีการลงมติเป็นรายบุคคล คะแนนแตกต่างกันเล็กน้อย รายแรก "แพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์" ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งโดนลงโทษตักเตือน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากเขียนใบส่งตัวล่วงหน้า ยืนมติเดิม 67 ไม่ออกเสียง 1 ส่วนอีก 2 บิ๊๋กหมอ พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม
กรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง คือ พลตำรวจโทโสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ปัจจุบันเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พักใช้ใบอนุญาต 3 เดือน ยืนมติเดิม 64 เห็นด้วยกับการวีโต 2 ไม่ออกเสียง 2 และพลตำรวจโททวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ คนปัจจุบัน ในฐานะผู้ออกใบความเห็นแพทย์ พักใช้ใบอนุญาต 6 เดือน ยืนมติเดิม 65 เห็นด้วยกับวีโต 1 ไม่ออกเสียง 2
๐ "ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา" อุปนายกคนที่ 1 ยอมรับว่ามีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างที่จะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ให้เราทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการทำ ในบางกรณีเข้าเกณฑ์ข่มขู่ด้วยซ้ำ "การที่แพทย์จากหลากหลายสถาบัน หลากหลายรุ่น รวมทั้งประชาชนคนไทยกว่า 50,000 คน ที่ลงนามส่งมาถึงแพทยสภา จะเห็นว่าสาระหลัก ต้องการให้แพทยสภายึดมั่น ยึดหลักความถูกต้อง และรักษาไว้ ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่กรรมการแพทยสภาตระหนักและจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว และผมขอเป็นตัวแทนกรรมการแพทยสภาทุกคน กราบขอบพระคุณแพทย์ และประชาชนทั้งหลาย พี่แสดงออกอย่างชัดเจนให้แพทยสภาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ แล้ววันนี้พวกเรากรรมการแพทยสภาก็ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว" ขอยกย่องแพทยสภาที่ร่วมกันจารึกประวัติศาสตร์ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่างมีศักดิ์ศรี
๐ ยิ่งตอกย้ำความระทึกขวัญของศุกร์ 13 เจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้าขวัญหนีดีฝ่อ ไม่กล้ากระทั่งก้าวขึ้นบันไดศาล ปล่อย "ลูกอิ๊งค์" หน้าแหก เคยการันตีกับสื่อทำเนียบฯ ว่าพ่อไปศาลแน่ เลยแว่วมาหนาหูว่าอดีตนักโทษเทวดาเผ่นแน่บไปลุ้นศาลฎีกาฯ ไกลถึงกัมพูชา เมาธ์กันเป็นตุเป็นตะว่าหลบไปตั้งหลักชั่วคราวอยู่ “อาณาจักรบาราย เซียง นัม” ของหลานเขย ที่เมืองเสียมราฐ ซึ่งก็คือสามีของ “น้องเชอรี่-ชยาภา วงศ์สวัสดิ์” ลูกสาวคนสุดท้องของ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ “นัม ลีนัล” คนนี้ เป็นลูกชายนายเลียง นัม นักการเมืองชาวกัมพูชาชื่อดัง คนใกล้ชิดของ "ฮุน เซน" นั่นเอง ณ เวลานี้ ไม่มีใครรู้ได้ว่านัดไต่สวนการบังคับโทษจำคุกแก่ "ทักษิณ ชินวัตร" จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ ตามคำร้องฉบับลงวันที่ 10 ม.ค.2568 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายใต้องค์คณะผู้พิพากษา 5 ราย ซึ่งประกอบด้วย นายฉัตรชัย ไทรโชต, นายอดุลย์ อุดมผล, นายไตรรัตน์ แก้วศรีนวล, นางสุพิชญ์ กรอบคำ และนายพัฒนไชย ยอดพยุง จะออกมาอย่างไร แต่ที่แน่ๆ เสียงเชียร์กระหึ่มไม่แพ้กัน
๐ "ครูใหญ่" ออกโรงเอง โชว์ภาพดินเนอร์ชื่นมื่นปิดดีล "ก๊วนมะขามหวาน" ที่นำทีมโดย "สันติ พร้อมพัฒน์" เรียกว่าล็อกด้วยรูป เสริมกำลังพรรคสีน้ำเงิน ปกป้องเก้าอี้ "มหาดไทย" ถึง "เสี่ยหนู" ที่ปกติสู้คำถามสื่อทุกรูปแบบ เจอคำถามเรื่องนี้กลับอ้ำอึ้งตีมึนซะงั้น แต่การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด วันก่อนแค่ตั้งคนใกล้ชิดนั่งกุนซือรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดเซ็นแต่งตั้งลูกชายเสี่ยสันติดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง ภูมิใจไทยตอนนี้มี 69 เสียง บวกเพิ่ม (โดยพฤตินัย) ได้อย่างน้อยอีก 6 เสียง อย่าลืมว่าเวลานี้ 19 เสียง ของพลังประชารัฐ "สันติ" ถือเป็นตัวหลักคุมเสียง สส. อาจทำให้เสียงที่เหลือคล้อยตาม ยิ่งเห็นท่าทีของ "ลุงป้อม" ไม่เดือดดาลเหมือนคราว "ก๊วนธรรมนัส" หรือจะหรี่ตาเปิดทาง โดยสถานะยังสังกัด พปชร. ไปช่วยงานแบบไม่มีตำแหน่ง ไร้โควตารัฐมนตรี แต่สิทธิประโยชน์รับเต็ม ดีกว่าเป็นฝ่ายค้านเต็มอัตราศึก.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.
