ตั้งโต๊ะร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น

ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นได้ดำเนินไปอย่างแน่นแฟ้นและต่อเนื่อง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน เทคโนโลยี และการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือผ่านกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระดับรัฐบาลกับรัฐบาล (G to G) และส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นในไทย

ความร่วมมือเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในมิติทางการค้าเท่านั้น หากแต่ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด การเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนและความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของทั้งสองประเทศ และล่าสุดเองที่ความร่วมมือระหว่างสองประเทศก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับ METI จัดประชุมกลไกการหารือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม ไทย-ญี่ปุ่น (EID) ครั้งแรก เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมยานยนต์ สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไทยให้พร้อมรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยมีการลงนาม MOU ระหว่างภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษาของทั้งสองประเทศ รวมถึงการจัดเวทีเสวนาระดับสูง เพื่อวางรากฐานความร่วมมือทางเศรษฐกิจระยะยาวระหว่างไทยและญี่ปุ่นอย่างเป็นรูปธรรม

และได้มีการจัดประชุมกลไกการหารือไทย-ญี่ปุ่นว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม (Energy and Industry Dialogue: EID) ครั้งที่ 1 เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา ในการประชุมครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้การรับรองถ้อยแถลงร่วมกลไกการหารือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดและสังคมคาร์บอนต่ำ

ได้แก่ การส่งเสริมแนวทางที่หลากหลาย เพื่อตระหนักว่าไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์แห่งอนาคต การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของไทยโดยการลดปริมาณคาร์บอนในกระบวนการผลิตในห่วงโซ่อุปทานของยานยนต์ประเภทต่างๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงที่ลดคาร์บอน

ขณะที่ การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อการส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศสำหรับการกำจัดเศษและรีไซเคิลรถยนต์เก่าได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการจัดสร้างระบบรีไซเคิลยานยนต์ การจัดตั้งกรอบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการแยกชิ้นส่วนและรีไซเคิล ภายใต้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศ การตระหนักรู้การใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน การดูแลรักษา และพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและทรัพยากรบุคคลให้สามารถแข่งขันได้

ด้าน ภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (ศสอ.) กล่าวว่า นอกจากการประชุม EID ครั้งที่ 1 แล้ว รัฐมนตรีของไทยและญี่ปุ่นได้ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างหน่วยงานภาคธุรกิจและสถาบันวิชาการของไทยและญี่ปุ่น เพื่อร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม และกล่าวเปิดกิจกรรมการเสวนาโต๊ะกลม หัวข้อ “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สําหรับอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต”

ในประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต และความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา เพื่อกระชับความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น โดยมีผู้แทน ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาควิชาการของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมอภิปรายจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างเป็นรูปธรรม

ความร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันของไทยและญี่ปุ่นในการสร้างอนาคตที่แข่งขันได้ในเวทีโลก พร้อมทั้งดูแลสิ่งแวดล้อมและเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน.

 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม

ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด

ถอดบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้

จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งพื้นที่เมืองและชนบท ส่งผลให้หลายหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งวางมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน ทั้งการฟื้นฟูถนน–สะพานที่ถูกตัดขาด การขุดลอกคูคลอง