ขอฝากตัวด้วย

เป็นสัปดาห์แรกที่ รมต.ป้ายแดงในรัฐบาล “แพทองธาร 1/2” เข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวง รวมถึง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ที่ประเดิมเข้าห้องทำงานที่กระทรวงวัฒนธรรมวันแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย

ก่อนพบปะผู้บริหารและข้าราชการในกระทรวงที่มารอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมถึงมีบรรดารัฐมนตรีและ สส.จากค่ายเพื่อไทยมาส่งและให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก

นายกฯ อิ๊งค์ยังถือโอกาสประชุมนัดแรกผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม สั่งผลักดันงานซอฟต์พาวเวอร์งานถนัดที่เจ้าตัวเคยดูมาก่อน โดยต้องการให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็วในยุคที่ตัวเองนั่งคุม

จึงสั่งควิกวิน 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ 1. ภาพยนตร์ 2.อาหาร 3.มวยไทย และ 4.ธุรกิจการดูแลสุขภาพ เพื่อยกระดับศักยภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างงานไปด้วยได้อย่างรวดเร็วขึ้น รวมถึงสั่งดูอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง หากสามารถเชื่อมโยงกับ วธ.ได้ก็พร้อมสนับสนุนและส่งเสริม

นอกจากนี้ยังสั่งทำซอฟต์พาวเวอร์เรื่อง Cash Rebate หรือเงินคืนสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ในไทย ให้กลุ่มผู้ถ่ายทำภาพยนต์ในไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการจัดทำให้ต่างชาติที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ 30% ของ Cash Rebate แต่รอบนี้จะทำให้คนไทยหรือผู้จัดภาพยนตร์ไทยด้วย เพื่อสนับสนุนหนังไทยให้ไปไกล

และนอกจากสั่งงานแล้ว เข้ากระทรวงวันแรกนายกฯ อิ๊งค์ยังปากหวาน ขอฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้าหน้าที่ทุกคนในกระทรวง ก่อนอารมณ์ดีถามถึงร้านอาหารในกระทรวงด้วย ว่า “ขอฝากเนื้อฝากตัวที่กระทรวงนี้ด้วย ร้านอาหารร้านไหนอร่อยแนะนำกันมาได้เลย ได้ทานหลายมื้อแน่นอน” 

โดยหลังจากนี้ นายกฯ อิ๊งค์จะเข้าทำงานในตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ที่ห้องทำงานกระทรวงทุกวัน ยกเว้นเช้าวันอังคารที่จะต้องไปร่วมประชุม ครม.ที่ทำเนียบฯ ซึ่งคาดว่าเก้าอี้หัวโต๊ะของนายกฯ ในห้องประชุม ครม.ก็จะยังคงเว้นว่างไว้เช่นเดิม

ส่วนเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรมที่กระทรวง คงจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงนี้ที่นายกฯ อิ๊งค์ไปทุกวัน พร้อมฝากตัวเรียบร้อย บรรดาร้านค้าร้านอาหารเตรียมตัวรอได้เลย รมว.วัฒนธรรมคนใหม่คงได้ไปแวะชิมแน่นอน. 

บรรจง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัดไม่ปล่อย

ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ