หากย้อนดูอดีต มองภาพรวม ข้อมูลต่างๆ ล้วนบ่งชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐกับไซออนิสต์มีนโยบายตรงกัน สนับสนุนกันและกัน
แต่ไหนแต่ไรไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากพรรครีพับลิกันหรือเดโมแครต ต่างต่อต้านโครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่าน สองพรรคต่างกันตรงการแสดงออกที่ดูก้าวร้าวรุนแรงมากน้อยเท่านั้น
เนทันยาฮูกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องหยุดภัยคุกคามก่อนคุกคามจริง รอบก่อนคือนาซีที่สังหารอิสราเอล 6 ล้านคน คราวนี้คืออาวุธนิวเคลียร์ จึงต้องชิงลงมือก่อน เป็นการป้องกันตัวเอง

ภาพ: อนาคตกรุงเยรูซาเลมในจินตนาการ
เครดิตภาพ: ภาพจากปัญญาประดิษฐ์
ย้อนหลัง JCPOA:
หากจะเข้าใจต้นเหตุของสงครามอิสราเอล-อิหร่าน (ไซออนิสต์-ชีอะห์) 2025 ต้องเท้าความอย่างน้อยถึงข้อตกลง JCPOA
ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับอิหร่านเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งหลังรัฐบาลทรัมป์ (สมัยแรก) ยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) เพียงฝ่ายเดียว ในขณะที่คู่สัญญาอื่นๆ (รัสเซีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิหร่าน) ยังคงรักษาข้อตกลงเดิม พร้อมกับออกมาตรการคว่ำบาตร ห้ามบริษัทเอกชนซื้อขายน้ำมันกับอิหร่าน ทั้งยังห้ามประเทศอื่นๆ ด้วย ขู่ว่าใครซื้อขายน้ำมันอิหร่านจะถูกเล่นงาน
รัฐบาลทรัมป์ตีตราอิหร่านเป็นปรปักษ์สำคัญลำดับต้น ขู่โจมตีอิหร่านตั้งแต่สมัยนั้น การย้ำว่าอิหร่านเป็นภัยคุกคามร้ายแรง หวังสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ส่งเสริมก่อการร้าย บ่อนทำลายความมั่นคงประเทศเพื่อนบ้าน ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องเก่าที่พูดซ้ำไปซ้ำมา
ข้อสรุปคือ ยุทธศาสตร์แม่บทสหรัฐตั้งเป้าหมายล้มล้างระบอบอิหร่านหลายทศวรรษแล้ว ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาอิหร่านจึงตกเป็นเป้า รัฐบาลสหรัฐทุกชุดจะหาเรื่องเล่นงาน ออกมาตรการคว่ำบาตรยืดหยุ่นตามบริบท รวมความแล้วรัฐบาลสหรัฐหวังล้มระบอบอิหร่าน เป็นนโยบายเดียวกับอิสราเอล
การยกเลิก JCPOA เพียงฝ่ายเดียวนำสู่สงครามปี 2025
สหรัฐคือผู้สนับสนุนรายใหญ่:
อาวุธหลักที่อิสราเอลใช้หลายอย่างมาจากสหรัฐ เครื่องบินรบ F-35 ระเบิดนำวิถี ขีปนาวุธต่างๆ อีกทั้งสหรัฐช่วยเหลือด้านข้อมูลข่าวสาร ชี้จุดโจมตีคล้ายกรณีสนับสนุนยูเครนรบรัสเซีย
การสนับสนุนอาวุธเครื่องกระสุนสำคัญมาก เหตุที่ยูเครนรบได้นานหลายปีเพราะนาโตส่งอาวุธให้ต่อเนื่อง ถึงขั้นมอบปืนใหญ่ รถถัง เครื่องบินรบของสมาชิกนาโต
ในกรณีอิสราเอล รัฐบาลสหรัฐส่งเครื่องกระสุนให้ต่อเนื่อง ต่างจากอิหร่านที่ไม่มีผู้สนับสนุน ดังนั้น นานวันเข้าอาวุธกองทัพอิหร่านจะร่อยหรอ ท้ายที่สุดกองทัพอิหร่านจะไม่เหลืออาวุธสู้อิสราเอล (อาวุธอิหร่านที่สามารถโจมตีอิสราเอล คือขีปนาวุธกับโดรนพิสัยกว่าพันกิโลเมตร และเครื่องบินรบจำนวนหนึ่ง ส่วนปืนใหญ่ รถถัง ทหารนับแสนนับล้านไม่มีประโยชน์)
รัฐบาลตะวันตกที่ประณามความก้าวร้าว การละเมิดสิทธิมนุษยชน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอล หากต้องการหยุดอิสราเอลทำได้ง่ายนิดเดียว คือ ไม่ขายอาวุธให้ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะระงับขายช่วงหนึ่งแล้วรีบกลับมาขายอีกครั้งเมื่อสบโอกาส เรื่องนี้สะท้อนว่าแท้จริงแล้วพวกตะวันตกกำลังทำอะไรอยู่
ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ:
นับจากเริ่มสงคราม ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าไม่อยากให้แค่หยุดยิง ต้องการขจัดภัยนิวเคลียร์นี้อย่างราบคาบ หลังรบเพียงสัปดาห์เดียว ประธานาธิบดีทรัมป์ขอให้อิหร่านยอมแพ้โดยไร้เงื่อนไข ทั้งยังขู่รู้ว่าผู้นำสูงสุดอิหร่านอยู่ที่ใด เป็นเป้าหมายง่ายๆ (easy target) แต่ตอนนี้ยังไม่คิดว่าต้องสังหารท่าน เรื่องนี้จะตัดสินใจอีกที
ผู้นำสหรัฐอาจเพียงแค่ขู่และอาจลงมือจริงก็เป็นได้ สงครามรอบนี้อิสราเอลสังหารผู้นำกองทัพ นักวิทยาศาสตร์ บุคคลสำคัญหลายคน อิสราเอลใช้แนวทางนี้เรื่อยมา
เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 เครื่องบินรบสหรัฐเข้าโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่านหลายแห่ง ที่ตั้งในฐานลึกในภูเขาหรือชั้นใต้ดิน (เมือง Fordow กับ Natanz และ Isfahan) ที่กองทัพอิสราเอลไม่สามารถทำลาย การโจมตีนี้ช่วยอิสราเอลโดยตรง ตรงตามที่ทางการอิสราเอลร้องขอ
วิเคราะห์: เรื่องที่รัฐบาลสหรัฐกับอิสราเอลไม่เอ่ยถึงคือ การโจมตีของตนละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ ผู้พยายามอ้างตัวเป็นผู้นำฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตยกับอิสราเอล ไม่ลดละเล่นงานโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน โดยใช้ข้อมูลเท็จ บอกให้นานาชาติยึดถือกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ตัวเองละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติเสมอ ใช้กำลังทหารกับอิหร่านด้วยข้ออ้างเทียมเท็จ ไม่แปลกที่จีน รัสเซียและอีกหลายประเทศกำลังร่วมกันสร้างระเบียบโลกใหม่ที่เท่าเทียมเป็นธรรมกว่าที่เป็นอยู่
พวกตะวันตกเล่นงานรัสเซียที่ทำสงครามกับยูเครน ชี้ว่าละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ แสดงอำนาจบาตรใหญ่ สหรัฐไม่ต่างจากรัสเซียเลย
ทางการจีนออกมากล่าวถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ชี้ว่าสหรัฐโจมตีอิหร่าน ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติกับกฎหมายระหว่างประเทศ ขยายความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง
แต่รัฐบาลสหรัฐไม่สนใจกฎบัตรสหประชาชาติ เรื่องราวสงครามอิสราเอล-อิหร่านเป็นประเด็นเดียวในหลายเรื่อง มหาอำนาจฝ่ายประชาธิปไตยไม่สนใจกฎระเบียบนานาชาติ
รัฐบาลสหรัฐหนุนไซออนิสต์:
ในทางวิชาการ บางคนผูกรัฐบาลสหรัฐเข้ากับลัทธิไซออนิสต์อย่างแนบแน่น
ตามข้อตกลงสันติภาพออสโล 1993 (Oslo Peace Accords) ปาเลสไตน์รับรองสถานะความเป็นประเทศของอิสราเอล พร้อมกับที่อิสราเอลรับรองสถานะขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ว่าเป็นตัวแทนปาเลสไตน์ ผู้ดูแลบริหารปกครองภายในดินแดนส่วนต่างๆ ของเวสต์แบงก์ (West Bank) กับฉนวนกาซา (แต่ยังไม่ได้รับรองรัฐปาเลสไตน์) อิสราเอลต้องทยอยมอบอำนาจการดูแลพื้นที่คืนแก่ PLO (ปัจจุบันคือ PA) ท้ายที่สุดจะเกิดรัฐปาเลสไตน์มีเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวง
แต่สหรัฐเปลี่ยนท่าที ธันวาคม 2017 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามยอมรับเยรูซาเลมเป็นนครหลวงของอิสราเอล (ขัดข้อตกลงออสโล) เป็นรัฐบาลต่างชาติประเทศแรกที่รับรอง ในขณะที่นานาชาติไม่เห็นด้วย
ทรัมป์เริ่มต้นด้วยการพูดว่าที่ตัดสินใจทำเช่นนี้ เพื่อให้การเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เข้าสู่มิติใหม่ เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อการแสวงหาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ในอนาคตเยรูซาเลมจะยังคงเป็นดินแดนของคนหลายศาสนา พวกยิวจะยังคงอธิษฐานที่ Western Wall พวกนับถือคริสต์ที่เดินทางไปที่ Stations of the Cross ส่วนมุสลิมจะละหมาดที่มัสยิด Al-Aqsa
พูดเสริมว่า การตัดสินใจดังกล่าวไม่มีผลต่อผลลัพธ์สุดท้าย ทั้งเรื่องเขตแดนของรัฐอิสราเอลในเยรูซาเลม
รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะให้เกิดข้อตกลงสันติภาพถาวร เรื่องเขตพรมแดนจะขึ้นอยู่กับการเจรจา รวมทั้งอธิปไตยของอิสราเอลต่อกรุงเยรูซาเลม ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นกับการเจรจาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สหรัฐยังคงสนับสนุนแนวทางทวิรัฐ (two-state solution) หากทั้ง 2 ฝ่ายเห็นร่วมกัน
เมื่อย้อนดูเหตุผลที่ทรัมป์พูดสมัยนั้น พบว่าหลายเรื่องเป็นข้ออ้างให้ฟังดูดีมากกว่า ความจริงที่ปรากฏคือ อิสราเอลกินดินแดนปาเลสไตน์มากขึ้นทุกปี และปฏิเสธแนวทางทวิรัฐแล้ว กาซาดูเหมือนกำลังจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล
ข่าวรายวันจะเห็นภาพความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิสราเอลเป็นระยะ แต่หากย้อนดูอดีต มองภาพรวม ข้อมูลต่างๆ ล้วนบ่งชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐกับไซออนิสต์มีนโยบายตรงกัน สนับสนุนกันและกัน ข่าวความขัดแย้งที่เห็น เป็นเพียงภาพหนึ่งที่ปรากฏเท่านั้น ต้องแยกภาพลวงตาออกจากความจริง
สงครามอิสราเอล-อิหร่าน (ไซออนิสต์-ชีอะห์) 2025 เป็นหลักฐานอีกชิ้นว่ารัฐบาลสหรัฐกับไซออนิสต์ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด มียุทธศาสตร์ตะวันออกกลางร่วมกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สงครามการค้าสหรัฐกับจีนใครอึดกว่าชนะ
มหาอำนาจตักตวงผลประโยชน์จากประเทศอื่นๆ ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจด้วยกัน พวกเขาสร้างความขัดแย้งเพื่อได้ประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อเสียประโยชน์
4+4ประเทศสำคัญของศักยภาพทหารโลก
ในภาพระดับโลกมี 8 ประเทศสำคัญมากสุด และสามารถแยกเป็น 2 ระดับ สหรัฐอเมริกามีกองทัพเข้มแข็งที่สุด และใช้ประโยชน์จากกองทัพได้มากที่สุด
อูโก ชาเวซ ผู้ต้านการกดทับของชนชั้นนำกับมหาอำนาจ
ลัทธิโบลิเวียเรียนชี้ว่า ต้นเหตุความยากจนมาจากการกดทับของชนชั้นนำที่ร่วมมือกับมหาอำนาจ จึงต้องการปลดปล่อยประชาชนจากการกดขี่ของ 2 อำนาจดังกล่าว
การข่มขู่และโจมตีจริงของทรัมป์ 2.0
การข่มขู่และลงมือจริงของทรัมป์ 2.0 เป็นหลักฐานชี้ว่ารัฐบาลทรัมป์ทำอย่างไรตามหลัก “America First”
‘No Kings’ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (2)
ฝ่ายต่อต้านเห็นว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต แต่ในขณะเดียวกันทรัมป์ได้รับการสนับสนุนทั้งจาก สส. สว.รีพับลิกันและฐานเสียงที่เข้มแข็ง
‘No Kings’ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (1)
สหรัฐอเมริกามาจากการต่อต้านระบอบกษัตริย์ บัดนี้ทรัมป์ใช้อำนาจเยี่ยงราชา ชาวอเมริกันจึงต่อต้าน ไม่อยากให้ประเทศกลับสู่ยุคที่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตัวคนคนเดียว



