
ในยุคที่เศรษฐกิจโลกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ความสามารถในการเข้าถึงและจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของทุกภาคอุตสาหกรรม เทรนด์ระดับโลกชี้ชัดว่า “Data is the new oil” หรือข้อมูลคือทรัพยากรใหม่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 ไม่ใช่แค่ในประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้น แต่รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเปลี่ยนผ่านนี้ ที่ผ่านมาองค์กรอย่าง GS1 Thailand เป็นกลไกหลักในการพัฒนา “โครงสร้างพื้นฐานของข้อมูล” (Data Infrastructure) ให้ทันต่อยุคดิจิทัล
ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับความโปร่งใสของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยของอาหาร ความยั่งยืนของแหล่งผลิต หรือแม้แต่แหล่งที่มาของวัตถุดิบ เทรนด์นี้สอดคล้องกับการเร่งพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหาร ยา เครื่องสำอาง และเครื่องมือแพทย์
ในบริบทนี้ ระบบบาร์โค้ดมาตรฐานสากลของ GS1 จึงไม่ใช่เพียงรหัสเส้นธรรมดา แต่คือ “ภาษากลางของธุรกิจโลก” ที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยเข้ากับระบบซัพพลายเชนระดับสากลได้อย่างราบรื่น โปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่ง คมสัน เหล่าศิลปเจริญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) ได้เน้นย้ำว่า ระบบของ GS1 ช่วยให้สินค้าไทยมีโอกาสก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
และเมื่อในช่วงที่ผ่านมานี้ การมาเยือนประเทศไทยของ Mr. Renaud de Barbuat ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร GS1 Global เพื่อหารือกับ GS1 Thailand และหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงการปรับตัวของประเทศไทยในยุคที่ข้อมูลคือหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล การหารือครั้งนี้ไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและการตรวจสอบย้อนกลับ แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการหลอมรวมของเทรนด์โลกที่กำลังพลิกโฉมภูมิทัศน์ทางธุรกิจ
และการที่ Mr. Renaud เดินทางมาพบปะกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายภาคส่วน อาทิ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.), สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน), ผู้ประกอบการไทย และบริษัท หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ครอบคลุมในการขับเคลื่อนมาตรฐาน GS1 ไปสู่การปฏิบัติจริงในวงกว้าง และเป็นสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ที่ตอกย้ำความร่วมมือระหว่าง GS1 Global และ GS1 Thailand ในการขับเคลื่อน “GS1 Vision 2030” ซึ่งตั้งเป้าให้ทุกภาคธุรกิจทั่วโลกสามารถใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการสร้างนวัตกรรมและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีโครงการ “ส่งเสริมความรู้เรื่องบาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและยกระดับมาตรฐานสินค้าไทย” ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดย GS1 Thailand ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการลงทุนในการสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการและบุคลากรภาครัฐทั่วประเทศ โครงการนี้ไม่เพียงสอนการใช้งานบาร์โค้ด แต่ยังให้ความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การนำสินค้าไปวางจำหน่ายหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเข้าถึงตลาดและการขยายธุรกิจในยุคดิจิทัล
Mr. Renaud ย้ำถึงวิสัยทัศน์ GS1 Vision 2030 ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจทุกขนาดในกว่า 150 ประเทศทั่วโลกให้สามารถเติบโตและสร้างนวัตกรรมได้อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของข้อมูลที่เชื่อถือได้ เชื่อมโยงกันได้ และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลและยุค AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการติดบาร์โค้ดสินค้า แต่เป็นการวางรากฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่ต้องอาศัยข้อมูลปริมาณมหาศาลและมีคุณภาพเพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจ.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)
แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส
‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม
ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม
ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด
ถอดบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้
จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งพื้นที่เมืองและชนบท ส่งผลให้หลายหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งวางมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน ทั้งการฟื้นฟูถนน–สะพานที่ถูกตัดขาด การขุดลอกคูคลอง

