
ในขณะที่ ส.ส.ในสภาบางคนใช้กลยุทธ์เลวๆ ในการไล่นายกรัฐมนตรีที่ทำให้ประชาชนระอาและเบื่อหน่ายนักการเมือง คนกรุงเทพฯ ก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวเลือกผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ตอนนี้มีการสำรวจสาธารณมติ (Poll) หลายครั้งหลายครา ปรากฏว่าคนที่ประกาศตัวก่อนใครว่าสนใจจะลงแข่งขันเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครยืนหนึ่งมาโดยตลอด เพราะตอนนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีใครลงแข่งขันบ้าง จะลงแบบอิสระไม่สังกัดพรรคหรือจะลงสังกัดพรรคใด
ต่อมาก็มีผู้ประกาศตนอีกว่าจะลงแข่งขันเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร โดยประกาศชัดเจนว่าจะลงแข่งขันในนามของพรรคที่เคยมีคะแนนทางการเมืองในกรุงเทพมหานครอย่างเข้มแข็ง เพิ่งจะมาเสียคะแนนไปในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปี
2562 เพราะการประกาศไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สวนกระแสความรู้สึกของคนกรุงเทพฯ จำนวนหนึ่งที่คิดว่าในช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้งนั้นพวกเขาเทใจอยากให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการประกาศชัดเจนเช่นนั้นก็ต้องดูกันต่อไปว่าคนกรุงเทพฯ จะยังคงให้คะแนนกับคนที่ลงแข่งขันในนามของพรรคที่พวกเขาตีจากมาในปี 2562 หรือไม่
ไม่ช้าไม่นานมานี้ก็มีผู้ที่ประกาศลงแข่งขันเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครอีกคนหนึ่ง คนนี้ยอมเสียสละตำแหน่ง ส.ส. ด้วยการยอมลาออกในช่วงเวลานี้เลย ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่ชัดว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครเวลาใด ที่เป็นเช่นนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่า การไม่ประกาศออกมาให้ชัดๆ ว่าจะเป็นทางเลือกให้คนกรุงเทพฯ อาจจะทำให้คนที่ประกาศชัดๆ เป็นคนแรกโกยคะแนนไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างที่ปรากฏเป็นผลของการทำการหยั่งเสียงทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นการให้เวลาในการหาเสียง ประกาศนโยบายและความตั้งใจที่จะเข้ามารับใช้คนกรุงเทพมหานคร
นอกจาก 3 คนที่มีความชัดเจนและมีศักยภาพที่พอจะแข่งขันกันได้ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ก็อาจจะมีคนอื่นที่ประกาศออกมาแล้วเช่นกัน แต่ไม่น่าจะมีศักยภาพพอที่จะเข้าข่ายที่จะต้องจับตามอง แต่สำหรับคนที่ยังไม่ประกาศและเป็นคนที่ชาวกรุงเทพฯ กำลังคอยดูว่าจะมาลงแข่งขันด้วยหรือไม่ยังมีอยู่อีกหลายคน เช่น ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน รองผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน คนของพรรคเพื่อไทย คนของพรรคตั้งใหม่ของคุณหญิงที่ถือว่ามีคะแนนนิยมในกรุงเทพมหานครในระดับหนึ่ง ตลอดจนกระทั่งพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนกำลังรอดูความชัดเจนของบุคคลเหล่านี้อยู่ หากลังเลยังไม่ประกาศออกมาชัดๆ เวลาหาเสียงก็จะลดลง และอาจจะเสียเปรียบคนที่ประกาศตัวไปแล้ว เพราะจะมีเวลาหาเสียงด้วยการประกาศนโยบายให้ประชาชนได้รับรู้ไม่นานพอ คนที่ประกาศก่อน หาเสียงด้วยการประกาศนโยบายก่อนจะได้เปรียบ
ในการลงคะแนนเลือกผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ คนกรุงเทพฯ คงต้องใช้ข้อมูลที่ละเอียดลึกซึ้งในการพิจารณา อย่าหลงใหลวาทกรรมโดยไม่หารายละเอียดที่สนับสนุน (Substantiate) วาทกรรมเหล่านั้น สำหรับคนแรก วาทกรรมหลักของเขาคือสมญานามว่าเป็น “ผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” เราก็ต้องรู้ให้ได้ว่าสมญานามนี้เขาได้มาอย่างไร และสามารถใช้ในการตัดสินใจลงคะแนนให้เขาได้หรือไม่
อีกรายหนึ่งวาทกรรมหลักของเขาคือ “กรุงเทพฯ ต้องเปลี่ยน” เราก็ต้องขอรายละเอียดว่าจะเปลี่ยนอะไรบ้าง และสิ่งที่เขาจะมาเปลี่ยนนั้นสามารถเปลี่ยนได้จริงหรือไม่ อยู่ในอำนาจหน้าที่ของการเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครหรือไม่ และสิ่งที่เขาตั้งใจจะเข้ามาเปลี่ยนนั้นแท้ที่จริงมีการเปลี่ยนไปแล้วหรือไม่ และคงต้องพิจารณาคุณสมบัติและผลงานในอดีตเป็นองค์ประกอบด้วย
อีกรายหนึ่งเขาบอกว่าเขาจะ “พุ่งชน” เราก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาจะพุ่งชนใคร หรือพุ่งชนอะไร เป็นการพุ่งชนถูกที่ถูกทางหรือไม่เพียงใด และการทำงานเพื่อพัฒนากรุงเทพมหานคร เพื่อคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ นั้น ควรจะใช้ยุทธศาสตร์พุ่งชนหรือไม่ ถ้าหากเขาต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงศึกษาฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เขาจะสามารถร่วมมือกับหน่วยงานเหล่านั้นแบบบูรณาการให้ราบรื่นได้หรือไม่
สำหรับผู้ว่าฯ คนปัจจุบันอาจจะเสียเปรียบคนอื่น เพราะถ้าประกาศตัวออกมาชัดๆ ก็คงจะมีคนเรียกร้องให้ลาออกโดยอ้างว่าอย่าเอาเปรียบคนอื่น ซึ่งเมื่อลาออกมาแล้วงานที่ยังคงค้างอยู่ใครจะมาทำต่อ เมื่อยังไม่ได้ประกาศเพื่ออยู่ทำงานต่อก็หาเสียงไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนกล่าวหาว่าเอาเปรียบคนอื่น ตอนนี้ทำได้อย่างมากที่สุดคือการปรับปรุงการทำงานของฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกรุงเทพมหานคร ให้เผยแพร่ผลงานที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง และผู้ซึ่งจะลงแข่งขันเป็น ส.ก. (ที่ตั้งใจจะเป็นทีมของผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน) ต้องเป็นผู้ให้ข้อมูลผลงานของผู้ว่าฯ คนปัจจุบันให้คนกรุงเทพฯ ได้รับรู้ ถ้าหากมีผลงาน แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้คนกรุงเทพฯ ได้รับรู้ ระวังนะจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งโจมตีว่าทำงานมาตั้งหลายปีมีผลงานอะไร ต้องยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ผลงานการพัฒนากรุงเทพมหานครที่ผ่านมามีน้อยกว่าผลงานที่เกิดขึ้นจริง
สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่จะต้องหย่อนบัตรลงคะแนน ก็อยากจะขอเชิญชวนให้พวกเราใช้ข้อมูลที่เป็นความจริงเชิงประจักษ์ในการตัดสินใจนะคะ อย่าหลงกระแส “วาทกรรม” ที่ไร้ข้อเท็จจริงสนับสนุนนะคะ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'
ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้
เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'
ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'
หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์


