บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ฉลองเบิร์ธเดย์ 39 ปี! ด้วยการขึ้นศาลครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ตกเป็นจำเลย ดูไม่ทันว่าก้าวเท้าซ้ายหรือขวาก่อน เห็นแค่ว่ามาในสไตล์ "ยิ้มไว้ก่อน พ่อสอนไว้" หลังหายหน้าค่าตาไปนานกว่า 1 สัปดาห์ เสียงที่สื่อได้ยินล่าสุดก็ตอนทำบุญตักบาตรที่ท้องสนามหลวง "คิดถึงนะคะ" เดาว่าช่วงที่ล่องหน "แพทองโพย" คงซุ่มท่องสคริปต์สู้คดีในแมตช์สำคัญชี้เป็นชี้ตายครั้งนี้ ส่วนจะเป๊ะแค่ไหนไม่รู้ เพราะศาลไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงในการไต่สวน โดยให้เหตุผลว่าพยานบุคคลที่มาให้ถ้อยคำเป็นพยานคู่ และเป็นคดีที่เป็นความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ

ห้ามไม่ให้ผู้เข้ารับฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ นำข้อความการไต่สวนออกไปเผยแพร่และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายในลักษณะการสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน แต่พอเสร็จสิ้นการไต่สวนซึ่งใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า ศาลได้อนุญาตให้มีการถ่ายทอดตอนท้ายประมาณ 1 นาทีครึ่ง ระหว่างที่ "นครินทร์ เมฆไตรรัตน์" ประธานศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้คู่กรณีเลื่อนยื่นคำแถลงปิดคดีเสนอต่อศาลจากเดิม 27 ส.ค. เป็นภายในวันที่ 25 ส.ค มีการจับภาพไปที่ "นายกฯ อิ๊งค์" ซึ่งมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด กะพริบตาถี่ มองต่ำ เม้มปาก และกุมมือไว้ด้านหน้าพร้อมทั้งบีบนิ้วโป้ง งานนี้ไม่ต้องพูด ภาษากายก็บ่งบอกได้ชัดเจน

๐ เสร็จจากคดีลูก วันศุกร์นี้ถึงคิวคดีของพ่อบ้าง ครบรอบ 2 ปี "ทักษิณ ชินวัตร" เดินทางกลับไทยพอดิบพอดี ระทึกแน่คุกไม่คุก! ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องเป็นจำเลยคดี 112 และคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เหตุเกิดสมัยหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อสำนักข่าว Chosun Media ของเกาหลีใต้เมื่อ 20 พ.ค.2558 เกี่ยวกับการรัฐประหารของ คสช.ปี 2557 โดยมีบางคำพูดพล่อยๆ เช่น "เขา" "Palace Circle" หมิ่นเหม่จาบจ้วงเบื้องสูง หากไม่รอดยังถือว่าอยู่ในขั้นศาลชั้นต้น จำเลยยังสามารถอุทธรณ์และไปถึงชั้นฎีกาได้อีก แต่ถ้าทักษิณชนะคดี นอกจากทำให้ปลดชนักติดหลังไปได้หนึ่งเรื่อง จะทำให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ทันที โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาตต่อศาลอาญาแบบที่ผ่านมาอีกแล้ว แต่คงยังไม่ไปไหนแน่ เพราะต้องคอยกำกับวางแผนรับมือทางการเมือง กรณี 29 ส.ค. ลูกอิ๊งค์ไม่รอด ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกฯ ทำให้ต้องจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่เหลือแคนดิเดตคนสุดท้ายของพรรค "ชัยเกษม นิติสิริ" ยื้อสุดฤทธิ์ให้เพื่อไทยยังครองอำนาจ แต่แผนทุกอย่างอาจล่มสลาย ต่อให้รอดคดี 112 ไปได้ คดีชั้น 14 ยังรออยู่ 9 ก.ย.นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินชี้ชะตาครั้งสำคัญในชีวิตของ "อดีตนักโทษเทวดา" จะได้ไปต่อ หรือต้องเข้าคุก หรือจะเลือกใช้เส้นทางเดิมอีกครั้ง ต่างกันตรงที่หนีคราวนี้จะไม่มีวันได้กลับแผ่นดินเกิดเลยตลอดชีวิต

๐ "นายใหญ่" เลือกคนไม่ผิดจริงๆ สมแล้วที่มารับหน้าที่สานเจตนารมณ์ของเพื่อแม้ว มาทรงเดียวกับ "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" เล่นเอาอึ้งกันทั้งห้องประชุม "ไชยา พรหมา" รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธาน สั่งปิดสภาหนีถกญัตติด่วน ที่เสนอโดยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.พรรคภูมิใจไทย เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกความเข้าใจ (MOU) ฉบับที่ 43 และฉบับที่ 44 หนำซ้ำยังกล้าตีมึนบอกว่าได้รับการประสานงานจากวิปรัฐบาลว่าได้หารือกับวิปฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้วว่า หากหมดวาระการรับทราบการประชุมแล้วให้ปิดประชุม จึงดำเนินการตามที่แจ้งมา เพิ่งรู้ว่าทั่นประธานทำหน้าที่เป็นหุ่นยนต์รับคำสั่งอย่างเดียว ทั้งที่ยังทำงานไม่คุ้มกับภาษีประชาชน ไม่ทันบ่ายสามก็เลิกงานแล้ว นั่งเก้าอี้นี้แค่สองสัปดาห์ก็ลืมคำมั่นสัญญาที่ประกาศไว้ในห้องประชุม 7 ส.ค. "ฝ่ายนิติบัญญัติคือที่พึ่งของประชาชนที่จะต้องรับใช้ประชาชนอย่างยาวนาน ผมเห็นสภาแห่งนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน... ยืนยันว่าแม้จะมาจากพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อผมทำหน้าที่เป็นประธาน สิ่งที่จะต้องเตือนสติคือการวางตัวเป็นกลางสร้างความเชื่อมั่นอย่างเที่ยงธรรม” กลางใจนายเลยใช่มั้ยทั่นประธาน.

 

ลี้คิมฮวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.