
แม้ว่าในปี 2564 ไทยจะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 แต่การลงทุนของต่างชาติในสาขาที่พักแรมและด้านอาหารกลับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติได้ส่งผลกระทบในหลายด้าน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จึงร่วมกับ บริษัท ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ จำกัด (SAB) ดำเนินการสำรวจและศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ การรับรู้ และทัศนคติของผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจที่พักแรมและบริการด้านอาหารขนาดย่อม (Small) และรายย่อย (Micro) ของไทย ต่อการเข้ามาลงทุนของต่างชาติใน 5 จังหวัดข้างต้น
โดยผลการสำรวจและศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการไทยรับรู้ถึงการเข้ามาของทุนต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มองว่า เป็นการเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย และมีการดำเนินการเน้นแบบผูกขาด โดยผู้ประกอบการ 81.5% เห็นว่าธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารของต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะเดียวกันในกลุ่มที่ทราบถึงการเข้ามาลงทุนของต่างชาติกว่าครึ่ง มองว่าทุนต่างชาติที่เข้ามาเป็น การดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย อาทิ นอมินี (nominee) ใช้กลยุทธ์การขายตัดราคา หรือจัดโปรโมชันพิเศษเป็นประจำ มีการร่วมมือกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อผูกขาดลูกค้า จึงทำให้ผู้ประกอบการกว่า 68.0% มองว่า ‘ทุนต่างชาติทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม’ ซึ่งผู้ประกอบการไทยกว่าครึ่งได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดย่อม (Small) มากกว่ารายย่อย (Micro)
ทั้งนี้ ธุรกิจไทยต้องสูญเสียลูกค้าให้กับธุรกิจต่างชาติ และสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไป โดย 1 ใน 3 ของผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากค่าสิ่งของ/อุปกรณ์ วัตถุดิบ และค่าแรง ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนเพิ่มขึ้น และเริ่มมีปัญหาในการชำระหนี้
นอกจากนี้ มากกว่า 1 ใน 3 ของธุรกิจไทยไม่แน่ใจว่าจะอยู่รอดได้ และสัดส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มมากขึ้น หากธุรกิจต่างชาติเข้ามาแข่งขันรุนแรงมากขึ้น ซึ่งแม้ว่ามากกว่าครึ่งจะมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ แต่กว่า 2 ใน 3 ของธุรกิจที่พักแรม และ 58.4% ของธุรกิจร้านอาหาร ระบุว่า ‘ธุรกิจไม่ดีขึ้นเลย’ ถึง ‘ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย’ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านการบริหารจัดการทางการเงิน และพันธมิตรทางธุรกิจ
อีกทั้งผู้ประกอบการยังมองว่าธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาทำให้อัตลักษณ์ของพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนสาธารณูปโภค ขยะ/มลภาวะ/กลิ่น รวมถึงอาจนำปัญหาอื่นๆ ตามมา อาทิ การทะเลาะวิวาทและยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่พักแรมและร้านอาหาร ราว 25.2% ยังเห็นว่าการเข้ามาของธุรกิจต่างชาติส่งผลดีต่อธุรกิจ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และเป็นแรงกระตุ้นให้พัฒนาธุรกิจของตนเอง
แม้ไทยจะมีมาตรการกำกับดูแลธุรกิจต่างชาติและสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการ อาทิ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และโครงการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการธุรกิจ แต่ผู้ประกอบการ 85.5% กลับมองว่า ภาครัฐยังไม่สามารถจัดการธุรกิจต่างชาติที่ทำผิดกฎหมายได้จริง
ทั้งนี้ เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันกับธุรกิจต่างชาติได้อย่างเป็นธรรม รวมถึงได้ประโยชน์จากการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนต่างชาติอย่างเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย อาจต้องดำเนินการ 2 ด้าน ดังนี้ 1.การกำกับดูแลการลงทุนและการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติ โดยด้านการเข้ามาลงทุนอาจพิจารณาให้การจดทะเบียนนิติบุคคลของต่างชาติต้องดำเนินการผ่านบริษัทจดทะเบียน รวมถึงให้ธุรกิจทุกประเภทต้องรายงานผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง ตลอดจนต้องมีการตรวจสอบรายชื่อกรรมการหรือผู้ถือหุ้น และทำเลที่ตั้งที่ใช้ในการจดทะเบียนอย่างเข้มงวด และมีการจำกัดสัดส่วนการลงทุนหรือการถือหุ้นโดยแบ่งตามขนาดกิจการ
และ 2.การสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ประกอบด้วย การสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อเริ่มต้น ปรับปรุง และต่อยอดธุรกิจ โดยอาจต้องผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการ รวมถึงพัฒนาแหล่งเงินทุนใหม่ การพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ด้านการตลาด และการบริหารการเงิน การส่งเสริมการรวมกลุ่มของสมาคมผู้ประกอบการ และการจับคู่ธุรกิจตลอดวงจรการท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์มาตรการของภาครัฐ.
ครองขวัญ รอดหมวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร
ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย
ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด
เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย
ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย
อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP
อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ
ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย
ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า


