
ปีนี้กลุ่มบริษัทไทยเบฟยังคงเป็นแม่งานใหญ่ จัดมหกรรมความยั่งยืน Sustainability Expo 2025 (SX2025) งานที่ได้ชื่อว่าเป็นเวทีรักษ์โลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ใครยังไม่เคยไป บอกเลยว่าควรหาเวลาแวะที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ด่วนๆ เพราะงานมีถึงพรุ่งนี้เท่านั้นนะคะ
ธีมหลักปีนี้คือ “การปรับตัว และร่วมมือ เพื่อทางรอดยุคโลกรวน” (Adaptation & Collaboration) พร้อมคำมั่นสัญญาที่ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจอย่าง “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” เชื่อมโยงกับทั้งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมาย SDGs ของโลกได้อย่างลงตัว
มนุษย์ป้า (ที่ไปงานนี้ทุกปี และนี่ก็ปีที่ 3 แล้ว) ต้องยกมือปรบมือให้กับทีมผู้จัดจริงๆ เพราะทุกโซน ทุกบูธ ทุกเวทีเสวนา ล้วนเต็มไปด้วยความตั้งใจดีๆ ที่อยากเห็นโลกยังน่าอยู่ต่อไป ส่งต่ออนาคตที่สดใสให้กับลูกหลาน
แต่ต้องสารภาพตามตรงว่า “การรักษ์โลก” ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ได้มาฟรีๆ ค่ะ ทุกชิ้นงานที่จัดแสดง ทุกสินค้าแนวรักษ์โลกที่ขายอยู่ในงาน ล้วนผ่านการคิด การออกแบบ การลงแรง และการใช้เวลามากกว่าการผลิตของแบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย ต้นทุนก็เลยสูงกว่าตลาดทั่วไปเป็นธรรมดา
เมื่อราคาต้นทางสูง ราคาขายปลายทางก็เลยขยับขึ้นตามไปด้วย หลายคนอาจบ่นว่า “ทำไมแพงจัง?” แต่ถ้าลองมองให้ลึกกว่านั้น จะเห็นว่าแท้จริงแล้ว นี่คือ “ราคาของการดูแลโลก” ที่ทุกคนต้องช่วยกันออกค่า เพื่อให้เรายังมีอากาศสะอาด มีทะเลสวยใส และมีอาหารปลอดภัยกินต่อไป
มนุษย์ป้าเองก็เพิ่งหิ้วกระเป๋าผ้าไวนิลกลับบ้านหนึ่งใบ กระเป๋าที่ทำจากเศษวัสดุเหลือทิ้งซึ่งถูกเปลี่ยนชีวิตใหม่ให้กลายเป็นของใช้สุดเก๋ ความรู้สึกตอนจ่ายเงินออกไป อดคิดไม่ได้ว่า ราคานี้ซื้อกระเป๋าพลาสติกสวยๆ ได้ตั้งสามใบ แต่พอหิ้วแล้วกลับภูมิใจแบบบอกไม่ถูก เพราะมันคือการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลก
บางที “ราคาที่ต้องจ่าย” อาจไม่ใช่ตัวเลขบนป้าย แต่คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคนก็เป็นได้ค่ะ.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"
ร้านไอศกรีมที่มีจิตวิญญาณ
ยุคนี้ไปลัดเลาะเที่ยวย่านนั้นย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหลวง หรือต่างจังหวัด เราก็มักจะพบเห็นร้านขายกาแฟ ขายขนม ขายไอศกรีม ขายเครื่องดื่มสารพัดเมนู ดาษดื่นชวนให้ตื่นตาตื่นใจ และที่พลาดไม่ได้คือ การถ่ายภาพเช็กอินอวดโลกโซเชียลว่า ชั้นก็อินเทรนด์กับเค้าเหมือนกันนา!!
ทุกข์..ไปทำไม?!?
สังคมไทยเปลี่ยนไปมากมาย มิได้แตกต่างจากสังคมชาติอื่นๆ หรอกนะ เพียงแต่คนที่เคยชินกับรูปแบบสังคมดั้งเดิม ก็จะรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ และตั้งคำถามเสียงดังว่า ทำไมสังคมมันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?!?
ข้อมูลจากหมอ..รู้ไว้ใช่ว่า
มีวันที่ฉันคิดว่าการตรวจสุขภาพจะเป็นแค่การชั่งน้ำหนักและฟังหัวใจสั้นๆ แต่แล้วฉันก็ได้เจอ พญ.อิสรีย์ ประดิษฐ์กุล หมอที่อธิบายทุกตัวเลขด้วยความใจเย็นและละเอียดจนฉันรู้สึกเหมือนได้นั่งเรียนมินิคอร์สเรื่องร่างกายครึ่งชั่วโมงเต็ม เห็นจริงแท้ถึงกับต้องกลับไปเล่าให้คนรอบตัวฟัง
เสียดาย...ความดีงาม
ไม่ได้มาชวนมองเรื่องนักการเมือง หรือตำรวจคนดังหรอกจ้า เพราะถึงจะพูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียบ้างก็จะไม่ทุกข์จนเกินพอดี

