
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด บรรยากาศทั่วประเทศยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ภายหลังมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสวรรคต โดยหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนต่างพร้อมใจลดธงครึ่งเสา และจัดพิธีถวายความอาลัยอย่างสมพระเกียรติ
ขณะที่รัฐบาลได้เชิญชวนให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมถวายความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยจัดสถานที่ลงนามถวายความอาลัยทั่วประเทศ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระราชินีผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
๐ ส่วนเรื่องการเมืองยังมีความเคลื่อนไหว โดย พรรคเพื่อไทยก็ลุกเป็นไฟ หลัง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ทิ้งบอมบ์กลางพรรค ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เปิดทางให้ปรับโครงสร้างใหม่ทั้งยวง และรอการประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่จะตัดสินว่าใครจะได้ขึ้นแท่น “หัวหน้าเพื่อไทยคนใหม่”
ตอนนี้ชื่อที่มาแรงสุดในทุกวงพูดคุยคือ เสี่ยโฟม-พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หลานชายคนโปรดของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือที่รู้จักกันในนาม “บิ๊กซัน” แห่งพรรค
กระแสในพรรคบอกตรงกันว่า “โฟมมาแรง” เพราะนอกจากเป็นหนุ่มไฟแรง อายุเพียง 45 ปี ยังมีทั้งทุนและคอนเนกชันครบมือ ที่สำคัญ…หลังบ้านแน่น ด้วย “ลุงสุริยะ” คอยซัพพอร์ตเต็มตัว
“พงศ์กวิน” เริ่มต้นจากพลังประชารัฐก่อนย้ายมาเพื่อไทย และได้โชว์ฟอร์มในตำแหน่ง รมว.แรงงาน หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล สไตล์นักบริหารรุ่นใหม่ พูดรู้เรื่อง ทำเร็ว ทันโลก
ข้อดีคือรู้จักทำงานกับทุกกลุ่ม ทั้ง สส.รุ่นใหญ่และเลือดใหม่ในพรรค แต่ข้อเสียคือ…มีเสียงกระซิบยังไร้บารมี แต่มีวันนี้ได้เพราะลุง
อีกชื่อที่อยู่ในทีมเดียวกันคือ เจ๊เดือน-มนพร เจริญศรี สส.นครพนม อดีต รมช.คมนาคม ที่ถูกมองเป็นคู่หูสายขยันของ “สุริยะแฟมิลี” ที่ดูแลกลุ่มสส.อีสานกว่า 70 คนในพรรค ถ้า “โฟม” จะขึ้น “เจ๊เดือน” ก็พร้อมหนุนหลังเต็มแรง
ขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งของสนาม ยังมีชื่อ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ลูกชาย “สมพงษ์” อดีตหัวหน้าพรรค ที่พยายามขยับขึ้นเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่ผ่านมาพูดดี ดูดี แต่ผลงานยังถูกหลอนด้วย “ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” ที่ล่มไม่เป็นท่าในยุครัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จุดแข็งของจุลพันธ์คือความสามารถในการเชื่อมคนทุกวัย แต่จุดอ่อนคือภาพจำ “นักพูดมากกว่าทำ” และที่สำคัญคุณพ่อก็เพิ่งลาออกจากพรรค เพราะไม่พอใจคนสายชินบางคน
ส่วนสายคลาสสิกก็มี จาตุรนต์ ฉายแสง นักคิดอุดมการณ์ตัวจริง อดีตรองนายกฯ ที่ผ่านสนามการเมืองมาเกือบทุกยุคทุกสมัย แต่ในยุคที่การเมืองต้องเร็ว แรง และต้องมีแบ็กทางทุน “จาตุรนต์” แม้จะตอบโจทย์สายอุดมการณ์ แต่กระสุนและแรงขับเคลื่อนทางการเมืองอาจไม่ตอบโจทย์
ทั้งหมดนี้ทำให้สมการ “เลือกหัวหน้าเพื่อไทย” กลายเป็นศึกที่มีเดิมพันสูงสุดในรอบหลายปี เพราะไม่ใช่แค่เลือกคนมานั่งหัวโต๊ะ แต่คือการเลือก “อนาคตของพรรค” ว่าจะเดินไปทางไหน ฉะนั้นงานนี้ต้องรอดูวันที่ 31 ตุลาคม จะ “ว้าว” สมคำ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” ว่าไว้หรือไม่
หลังการลงนาม “คำแถลงร่วมไทย-กัมพูชา” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงความมั่นคงและการเมืองระหว่างประเทศ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่แค่ข้อตกลงทั่วไป แต่สะท้อนยุทธศาสตร์ใหม่ของไทยที่ขยับจาก “ตั้งรับ” ไปสู่ “เชิงรุก” ทางการทูตเต็มตัว
วงในการทูตมองว่าเอกสารฉบับนี้มีความพิเศษตรงที่มีทั้งอาเซียนและสหรัฐร่วมเป็นพยาน ทำให้การเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชามีน้ำหนักและความชอบธรรมมากขึ้น
ขณะที่ฝั่งความมั่นคงภายใน และคนไทยบางส่วน กลับยังไม่วางใจนักกับท่าทีเขมร ที่ชอบเบี้ยว โดยเฉพาะหลังผู้นำกัมพูชาออกมาไลฟ์โชว์การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ออกจากแนวชายแดน แม้ดูเป็นสัญญาณบวก แต่ฝ่ายไทยยังจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการถอนจริงหรือเป็นเพียงการสร้างภาพข่าวเท่านั้น เพราะมิเช่นนั้นจะกลายเป็นเพียง โชว์ภาพปรองดอง ชั่วคราวบนเวทีโลก.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


