
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน หรือ Longevity Economy โดยมุมมองของ ประเสริฐ ธวัชโชคทวี อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ระบุว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสำคัญทั้งในเชิงโครงสร้างประชากรและพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลมาจากการกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประกอบกับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มหันมาใส่ใจดูแลคุณภาพชีวิตเพื่ออายุที่ยืนยาวมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่เพียง “อยู่ได้นาน” แต่ยังต้อง “อยู่ได้ดี” ทำให้แนวคิดเรื่อง Longevity หรือการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่น่าจับตาและส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและตลาดผู้บริโภคอย่างมหาศาล
โดยงานวิจัย “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” ชี้ให้เห็นว่า Gen Z จัดเป็นกลุ่ม “ผู้ปรับตัวเร็ว” ที่เติบโตมากับโลกดิจิทัลและเปิดรับเทรนด์ใหม่ก่อนใคร นิยมค้นหาข้อมูลสุขภาพผ่านโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลัก ในด้านการบริโภค แม้กำลังซื้อยังไม่สูง โดยมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารสุขภาพเฉลี่ย 262 บาทต่อมื้อ และค่าใช้จ่ายด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเฉลี่ย 2,592 บาทต่อเดือน แต่ก็สะท้อนแนวโน้มความสนใจในการลงทุนเพื่อสุขภาพ ด้านการออกกำลังกาย นิยมกิจกรรมที่ใช้พลังงานสูง โดยเลือกวิ่งมากที่สุด มีแรงจูงใจมาจากต้องการมีสุขภาพแข็งแรงและภาพลักษณ์ที่ดี แต่มีความสม่ำเสมอต่ำกว่าเจเนอเรชันอื่น โดยมีเพียง 61.99% ที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ ในด้านการดูแลสุขภาพจิต Gen Z 33.83% นิยมผ่อนคลายผ่านงานอดิเรกและกิจกรรมพักใจมากที่สุด
Gen Y มีบทบาทเป็น “นักลงทุนในสุขภาพของตนเองอย่างสมดุล” และเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงที่สุด โดยมีพฤติกรรมการหาข้อมูลสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักเช่นเดียวกับ Gen Z ด้านการบริโภค พบว่า Gen Y ใช้จ่ายด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูงถึง 4,608 บาทต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารสุขภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับเจเนอเรชันอื่น เฉลี่ย 320 บาทต่อมื้อ ด้านการออกกำลังกาย จัดเป็นกลุ่มที่มีวินัยสูง โดย 81.99% ของ Gen Y ออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ มีแรงจูงใจสำคัญมาจากต้องการมีสุขภาพแข็งแรง และเป็นเจเนอเรชันที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคมากที่สุด ด้านการดูแลสุขภาพจิต กิจกรรมหลักของ Gen Y ส่วนใหญ่ 32.50% เป็นงานอดิเรกและการพักผ่อนจิตใจ
ส่วน Gen X ถูกนิยามให้เป็น “ผู้รักษาสมดุลสุขภาพ” ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน และมีความเชื่อมั่นในข้อมูลสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น คลินิกหรือโรงพยาบาล มากกว่าช่องทางดิจิทัล ในด้านการบริโภค Gen X เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูงที่สุด เฉลี่ย 4,846 บาทต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารสุขภาพเฉลี่ย 297 บาทต่อมื้อ ด้านการออกกำลังกายเป็นกลุ่มที่มีระเบียบวินัยสูงสุด โดย 91.34% ออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ และนิยมเลือกกิจกรรมที่เหมาะกับร่างกายในระยะยาวอย่างการเดินหรือเดินเร็ว ด้านสุขภาพจิต Gen X ส่วนใหญ่ 32.46% ให้ความสำคัญกับกิจกรรมทางศาสนามากที่สุด และยินดีจ่ายเพื่อกิจกรรมสร้างความสงบทางจิตสูงสุด เฉลี่ย 13,993 บาทต่อครั้ง
เมื่อมองลึกลงไปในแต่ละเจเนอเรชัน จะเห็นโอกาสทางธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ กลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z แม้ยังไม่ใช่กำลังซื้อหลัก แต่ก็เป็นกลุ่มที่เปิดรับและกล้าทดลองสินค้าและบริการด้านสุขภาพใหม่ๆ ได้เร็ว ส่วน Gen Y ข้อมูลชี้ชัดว่ากลุ่มนี้มีความพร้อมและมีกำลังจ่ายสูงจึงเป็น “Sweet Spot” หรือกลุ่มทองคำ ของธุรกิจที่ต้องการพัฒนาแพ็กเกจสุขภาพเชิงประสบการณ์ แบรนด์ที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อสื่อสารได้อย่างที่ชัดเจนและเชื่อมโยงกับคุณค่าด้านความยั่งยืน มีโอกาสครองใจกลุ่มนี้ ขณะที่ Gen X ก็เป็นกลุ่มที่พร้อมใช้และพร้อมจ่ายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะบริการ Longevity Center, Longevity Retreat และ Longevity Residence เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่เน้นบริการเชิงลึกและเชื่อถือได้.
รุ่งนภา สารพิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)
แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส
‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม
ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม
ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด
ถอดบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้
จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งพื้นที่เมืองและชนบท ส่งผลให้หลายหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งวางมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน ทั้งการฟื้นฟูถนน–สะพานที่ถูกตัดขาด การขุดลอกคูคลอง
เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร
ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย
ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด

