บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด การเมืองไทยในห้วงเวลานี้ยังคงเต็มไปด้วยภาพซ้ำที่สังคมเห็นจนชินตา พรรคการเมืองจำนวนไม่น้อยเริ่มต้นด้วยคำประกาศแข็งกร้าว ย้ำอุดมการณ์ ยืนยันว่าจะ “ไม่ถอย” ไม่ว่าจะเจอแรงต้านแบบใด

 แต่เมื่อวันหนึ่งอำนาจเริ่มอยู่ใกล้มือมากขึ้น หลักการที่เคยยึดมั่นกลับค่อยๆ ถูกลดน้ำหนักลงอย่างเงียบๆ กรณีของพรรคประชาชน โดย “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ กับการออกมาประกาศว่า “ไม่แก้ไขมาตรา 112” จึงถูกมองว่าเป็นอีกบทหนึ่งของการเมืองแบบเดิม ที่ต้องการอำนาจ มากกว่ารักษาอุดมการณ์

การเปลี่ยนท่าทีของพรรคประชาชน อาจไม่ได้เกิดจากการทบทวนและเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันที่คนเคารพ หรือผลกระทบทางสังคมอย่างรอบด้าน หากแต่เป็นผลโดยตรงจากแรงกดดันทางการเมืองที่ชัดเจน โดยเฉพาะเงื่อนไขที่ถูกวางไว้ก่อนเกมอำนาจจะเริ่มเดิน 

หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ถูกพูดถึงมาก คือบทบาทของ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ยืนเส้นในประเด็นนี้มาอย่างต่อเนื่อง และทำให้เส้นดังกล่าวกลายเป็น “เพดาน” ที่ใครก็ตามซึ่งหวังจะเข้าใกล้อำนาจรัฐ ไม่อาจก้าวข้ามไปได้

สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงการต่อรองทางการเมือง แต่สะท้อนการตั้งคำถามเชิงโครงสร้างว่า พรรคการเมืองที่พร้อมจะถอยในประเด็นหลักตั้งแต่ยังไม่ได้บริหารประเทศ จะรักษาสัญญาอื่นๆ กับประชาชนได้มากน้อยเพียงใด 

โดยเฉพาะเมื่อประเด็นนี้เคยถูกใช้เป็นหัวใจของอุดมการณ์ และเป็นเครื่องมือสร้างความหวังให้กับผู้สนับสนุนจำนวนมาก ความเจ็บปวดของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ ผลจากวาทกรรมทางการเมืองไม่ได้ตกอยู่กับนักการเมืองที่ยืนพูดบนเวที และยุยงอยู่เบื้องหลัง แต่ตกอยู่กับเยาวชนและคนรุ่นใหม่ที่หลงเชื่อต้องเผชิญคดี ประวัติ และเสียโอกาสในชีวิต บางคนถึงกับหนีคดีไปนอกประเทศ ขณะที่คนปล่อยคำพูดสวยหรูยังคงกล่าวประโยคเดิมว่า “ไม่มีใครควรติดคุกเพราะคำพูด” 

เมื่อแรงกดดันเดินมาถึงจุดหนึ่ง พรรคประชาชนจึงเลือกถอย ถอยโดยไม่อธิบายอย่างตรงไปตรงมากับฐานเสียง และบรรดาด้อม ยอมถอยทั้งที่เคยย้ำว่าจะไม่ยอมถอย และถอยเพราะรู้ดีว่าหากยังยืนกรานต่อไป ประตูสู่อำนาจจะปิดลงทันทีอีกครั้ง 

ภาพนี้ทำให้คำถามเดิมๆ กลับมาอีกครั้ง วันนี้ถอยเรื่องมาตรา 112 พรุ่งนี้จะถอยเรื่องใด และเมื่อได้เป็นรัฐบาลจริง คำสัญญาใดจะยังคงเดิม หรือจะถูกตีความใหม่ การเมืองอาจเปลี่ยนจุดยืนได้ แต่ความทรงจำของประชาชนที่เคยเชื่อมั่นไม่ลบเลือนได้ง่ายนัก

๐ ในอีกมุมหนึ่ง ภาพของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯ อนุทิน ในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา กลับสะท้อนการบริหารแบบเน้นเสถียรภาพ หลังข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมงใกล้ครบกำหนด รายงานจากฝ่ายความมั่นคงยืนยันตรงกันว่า สถานการณ์โดยรวมสงบเรียบร้อยก่อนถึงเส้นตาย แม้ระดับความรุนแรงจะลดลงจนแทบเป็นศูนย์ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด โดยย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อนประเด็นอื่น และภาพของผู้อพยพที่เริ่มทยอยกลับบ้าน โดยเฉพาะในจังหวัดบุรีรัมย์ จากหลักหมื่นเหลือเพียงไม่กี่พันคน จึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวกของเสถียรภาพที่กำลังฟื้นตัว

ขณะเดียวกัน ในมิติเศรษฐกิจ รัฐบาลกำลังเร่งเครื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งกระทรวงการคลังออกมาเตือนผู้ใช้สิทธิกว่า 13.6 ล้านคน ให้เร่งใช้จ่ายก่อนหมดเขตวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า แม้จะมียอดเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท แต่ผู้ใช้สิทธิที่ใช้วงเงินครบตามเงื่อนไขยังมีเพียงราวหนึ่งในสาม สะท้อนว่ายังมีเงินคงเหลือในระบบอีกจำนวนมาก

ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเกือบหนึ่งล้านราย ทั้งร้านค้าทั่วไปและร้านอาหารผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ยังคงพร้อมรองรับการใช้จ่ายในช่วงปลายปี รัฐจึงเชิญชวนให้ประชาชนที่ยังมีสิทธิ เหลือวงเงินอยู่ วางแผนออกมาใช้จ่ายให้ทันเวลา ไม่เพียงเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง แต่ยังช่วยเพิ่มแรงส่งให้เศรษฐกิจในช่วงปลายปีที่กำลังต้องการกำลังซื้อจากฐานราก ฉะนั้นในอีกไม่กี่วัน ไม่ควรปล่อยให้โอกาสหลุดมือ ก่อนกำหนดวันสุดท้าย 31 ธันวาคมนี้.

 

คางดำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!

บันทึกหน้า 4

จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก

บันทึกหน้า 4

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ

บันทึกหน้า 4

การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี

บันทึกหน้า 4

บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0