ศบค.จ่อถกมาตรการเข้าประเทศ จ่อเลิกตรวจเอทีเค คนไม่ฉีดวัคซีนลดวันกักตัว ปรับโซนสีดีขึ้นทั่วประเทศหลังคนร่วมมือดี
21 เม.ย.2565 -เวลา 09.30น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศปก.ศบค. ถึงกรณีกระทรวงสาธารณะสุข เตรียมเสนอปรับมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าประเทศ ว่า ในวันที่ 22 เม.ย. ศบค.จะพิจารณาข้อเสนอ ที่เป็นแนวทางสำคัญที่นายกฯมอบไว้ โดยเรื่องการเข้าประเทศ จะปรับตามสถานการณ์ ซึ่งปัจจุบันมี 2 ประเด็นหลัก คือการกักตัว สำหรับคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะปรับให้สะดวกขึ้น เช่น ถ้ามีการกักตัวที่เชื่อถือได้มาแล้วจะลดจำนวนวันกักตัวลง และระบบเทสต์ แอนด์โก สำหรับผู้ได้รับวัคซีน ซึ่งทั่วโลกมีการผ่อนคลายมากแล้ว จะเสนอให้ปรับระบบ เทสต์ แอนด์ โก ให้นักท่องเที่ยวและคนไทยที่กลับเข้าประเทศ สะดวกมากขึ้น ซึ่งต้องพิจารณาทุกมิติ โดยการตรวจเชื่ออาจจะปรับ เนื่องจากพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศมีเปอร์เซ็นต์ลดลง
ระบบ เทสต์ แอนด์ โกให้ความสำคัญกับการได้รับวัคซีน โดยจะปรับวิธีการตรวจเมื่อเดินทางมาถึง เป็นเอทีเคลักษณะอย่างไร หรือไม่ต้องตรวจเลย ซึ่งจะพิจารณาวันที่ 22 เม.ย. ส่วนข้อเสนอให้ยกเลิก เทสต์ แอนด์ โก หรือไทยแลนด์พลัส เรารับฟังมาตลอด แต่อยากให้เข้าใจโดยเฉพาะไทยแลนด์พลัส ไม่ใช่ระบบที่ไม่ดี ถ้าย้อนไปในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาหากไม่มีระบบนี้ เวลานี้ยังไม่ทราบว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไประบบต่างๆก็ต้องปรับ และถ้ามีการปรับระบบเข้าประเทศจะใช้ไทยแลนด์พลัสเท่าที่จำเป็น โดยยึดหลักความปลอดภัยเท่าที่ประเมินแล้วว่าเราจะรับได้และให้เกิดความสะดวกที่สุด
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า มาตรการที่ว่านี้หากที่ประชุมเห็นชอบจะเริ่มวันที่ 1 พ.ค. ยกเว้นมีเหตุจำเป็นที่ต้องขยับ โดยมาตรการที่จะปรับมีทั้งทางอากาศ ทางบก ซึ่งทางบกจะพยายามเปิดด่านทางบกให้ได้ทั่วประเทศ โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการ จะนำมาพิจารณาในวันที่ 22 เม.ย. เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาร่วมกันว่าใช้วิธีใดในการเปิด โดยใช้เงื่อนไขเดียวกับทางอากาศที่มาตรการอาจจะน้อยกว่า
พล.อ.สุพจน์ กล่าวถึงการพิจารณาปรับระดับพื้นที่ หรือโซนสี ว่า เราประเมินตามเงื่อนไขที่มี และเท่าที่ดูตัวเลขสถิติตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ผ่านมาจะพิจารณาปรับโซนสีให้ดีขึ้นในทุกจังหวัด ส่วนมาตรการป้องกันในปัจจุบัน ทั้งประชาชนและสถานประกอบการณ์ปรับตัวอยู่กับโควิดได้ดีขึ้น ดังนั้น การปรับโซนสีในหลายจังหวัดที่เป็นสีส้มจะได้ปรับสถานการณ์ให้ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ที่ประชุมศบค.จะพิจารณารับมือการเปิดภาคเรียนเดือน พ.ค.นี้อย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า นายกฯให้ความสำคัญเรื่องนี้ โดยวันนี้ศปก.ศบค. จะคุยเรื่องเงื่อนไขบางประการที่กำหนดไว้ในมาตรการที่ทำให้สถานศึกษามีข้อจำกัดในการให้นักเรียนไปเรียนออนไซต์แบบเต็มจำนวน ซึ่งเราต้องปรับเงื่อนไขให้เรียบร้อย ขณะที่โรงเรียนต้องมีมาตรการรองรับได้อย่างปลอดภัย
เมื่อถามถึงความพร้อมเรื่องยาและเวชภัณฑ์รองรับการแพร่ระบาดที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันเราดูเรื่องของอัตราการครองเตียงและขีดความสามารถด้านสาธารณสุข แล้วนำมาประเมิน ดังนั้น ตัวเลขการจัดอันดับว่าประเทศไทย อยู่ในลำดับไหนของโลกหรือของอาเซียน ไม่ใช่มิติที่ครบถ้วนที่จะนำมาพิจารณาเพื่อเปิดประเทศ เวลานี้แพทย์ใช้ปัจจัยดูเรื่องเปอร์เซ็นต์เตียงที่เหลือและการรองรับทางสาธารณสุขมาพิจารณาและปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ยังมีเพียงพอ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่ากทม.อยากให้กรุงเทพฯเป็นพื้นที่นำร่องเป็นเมืองที่ใช้ชีวิตปกติสามารถเปิดหน้ากากได้ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สาธารณสุขได้วางมาตรการที่จะให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตปกติและโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นเพื่อทำการประเมินไว้แล้ว และมาตรการเหล่านี้ยังปรับได้อีก แต่อยากย้ำว่าโควิดยังต้องอยู่กับเราอย่างน้อยไปอีก 1 ปี ดังนั้น มาตรการสำหรับคนที่ติดโควิดแล้วสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติประกอบอาชีพได้ คือเราต้องปรับตัว ป้องกันตัวเองโดยสวมหน้ากากอนามัยที่ยังมีความจำเป็นเป็นอาวุธสำคัญที่ใช้ในการป้องกัน และต้องรักษาระยะห่างเท่าที่จำเป็น ขณะที่สถานประกอบการต้องใช้มาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง และขีดความสามารถรองรับด้านสาธารณสุข สิ่งเหล่านี้จะเป็นหัวใจให้เราอยู่กับโควิดได้
เมื่อถามย้ำว่า จะมีการพิจารณาให้ถอดหน้ากากเหมือนบางประเทศหรือไม่ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า เรื่องนี้แพทย์ประเมินต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่มีนักท่องเที่ยวบางคนไม่สวมหน้ากากอนามัยตามสถานที่ท่องเที่ยวนั้น เราได้ใช้ทุกหน่อยงานให้รุณรงค์ตักเตือนและทำมาต่อเนื่อง และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค VUCA มุ่งเน้นการดำเนินงาน 4 ส่วน ได้แก่ V-Vaccine เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ทุกคนบนแผ่นดินไทยให้ได้ 100 ล้านโดส U-Universal Prevention ให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันตนเองสูงสุด C-COVID Free Setting ร้านค้า สถานประกอบการใช้มาตรการพื้นที่ปลอดโควิด-19 และใช้ชุดตรวจคัดกรองเมื่อมีความเสี่ยง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขีดเส้นใต้ 100 รอบ! 'อนุทิน' ประกาศระงับข้อตกลงสันติภาพไปจนกว่า 'กองทัพไทย' จะเห็นกัมพูชาไร้ความเป็นปฏิปักษ์
นายกฯ ลั่นระงับปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา จนกว่ากองทัพไทยจะเห็นเขมรไม่เป็นปฏิปักษ์ พร้อมทำในสิ่งที่คิดว่าสมควรจะทำ ยันไทยไม่มีระเบิดแบบนั้น
‘ไชยชนก’ แย้มวงถกสมช.วันนี้มีข่าวดีแน่ นายกฯไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง
ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวก่อนก
'อนุทิน' เรียก สมช. ถกด่วนพรุ่งนี้ หาแนวทางยุติปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) วันที่ 11 พ.ย. มีประเด็นอะไรเร่งด่วนว่า “ไทย - กัมพูชา ไงครับถึงต้องเรียกประชุมสมช.” เมื่อถามถึงความชัดเจนเกี่ยวกับปฏิญญาไทยกัมพูชา
'นายกฯหนู' โยน 'เลขาฯสมช.' แจงปมชายแดนสระแก้ว ลับสุดยอดพูดไม่ได้
นายกฯ โยน 'เลขาฯสมช.' แถลงปมบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว บอกเรื่องลับสุดยอดพูดไม่ได้ ย้ำไทยเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว ปัดตอบเสี่ยงเกิดขัดแย้งชายแดนหรือไม่ ระบุรอเวลาเหมาะสมลงพื้นที่
เปิดสเปก 'รั้วชายแดนไทย-กัมพูชา' แห่งแรก ใช้งบ 6.5 ล้านบาท
เปิดสเปกรั้วชายแดนชั่วคราวไทย-กัมพูชาแห่งแรก ริมคลองพรมโหดอรัญประเทศ ตั้งเสาคอนกรีต ขึงลวดหนามรั้วสูง 2 เมตร ระยะทาง 5.1 กม. ติดวงจรปิด ใช้งบ 6.5 ล้านบาท สกัดลอบเล่นพนัน-สแกรมเมอร์
สมช. แต่งตั้ง พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา นั่งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข คนใหม่
ที่ประชุม สมช.ไฟเขียวมาตรการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาตามแนวทางเดิม พร้อมเพิ่มการทูตเชิงรุก มอบ หน่วยงานเกี่ยวข้อง เคาะเยียวยากลุ่มผู้เสียชีวิตทางอ้อม ตั้ง “พล.อ.สมศักดิ์” นั่งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขใต้คนใหม่


